Creative, Inc.

ในยุคที่ Data Driven Marketing ครองเมือง และ AI กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกอณูของการทำงาน หลายครั้งที่เรามัวแต่มองหา เครื่องมือ ใหม่ ๆ จนหลงลืม หัวใจ สำคัญที่สุดของการขับเคลื่อนธุรกิจและความเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ ความคิดสร้างสรรค์ หรือ Creativity

ถ้าพูดถึงองค์กรที่เป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก ชื่อของ Pixar Animation Studios ต้องติดโผอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เบื้องหลังความสำเร็จของ Toy Story, UP หรือ Finding Nemo ไม่ได้เกิดจากเวทมนตร์ แต่เกิดจากกระบวนการบริหารจัดการที่ถูกวางรากฐานไว้อย่างแข็งแกร่งโดย Ed Catmull ผู้ร่วมก่อตั้ง Pixar และผู้เขียนหนังสือระดับขึ้นหิ้งอย่าง Creativity, Inc.

วันนี้ Thumbsup จะพาไปแกะรอยวิธีคิดและกลยุทธ์การบริหารทีม Creative ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของคนทำงานศิลปะ แต่เป็นบทสรุปที่ CEO, Manager และนักการตลาดทุกคนต้องอ่าน เพื่อปลดล็อกศักยภาพทีมให้พุ่งทะยาน

Creative, Inc.

Creativity ไม่ใช่เวทมนตร์ แต่เป็น “ทักษะ” ที่ฝึกฝนได้

มายาคติที่น่ากลัวที่สุดในโลกการทำงานคือความเชื่อที่ว่า ความคิดสร้างสรรค์เป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่เกิด ใครมีก็โชคดีไป ใครไม่มีก็จบกัน แต่ Ed Catmull หักล้างความเชื่อนี้อย่างจัง โดยเขายืนยันว่าสมองของมนุษย์ถูกวิวัฒนาการมาเพื่อสร้างนวัตกรรมและแก้ปัญหา

นิยามของความคิดสร้างสรรค์ในมุมมองของ Pixar คือ ความสามารถในการสร้าง เชื่อมโยง หรือคิดหาวิธีการใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อแก้ปัญหา มันคือเชื้อเพลิงที่ทำให้ความฝันกลายเป็นความจริง

จำคำกล่าวของ Thierry Henry ตำนานกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสได้ไหม? มือสมัครเล่นเรียกมันว่าอัจฉริยะ แต่มืออาชีพเรียกมันว่าการฝึกซ้อม นี่คือแก่นแท้ที่ Catmull ยึดถือ การวาดภาพ การเขียนโค้ด หรือการวางกลยุทธ์การตลาด ไม่ได้เกิดจาก “ปิ๊งแว้บ” แค่ครั้งเดียว แต่เกิดจากความพยายามอย่างต่อเนื่องและมีสติในการขัดเกลาทักษะเหล่านั้น

ดังนั้น หากคุณเป็นหัวหน้าทีม อย่าเพิ่งด่วนตัดสินลูกน้องว่า คนนี้ไม่ครีเอทีฟ เพราะทุกคนฝึกฝนได้ หน้าที่ของคุณคือสร้างสภาพแวดล้อมให้พวกเขาได้ฝึกซ้อมต่างหาก

กระบวนการ “Create – Learn – Revise” กับวงจรแห่งความสำเร็จ

ไม่มีไอเดียไหนที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่วันแรก Catmull แชร์กระบวนการทำงานของ Pixar ว่ามันคือวงจรที่ไม่สิ้นสุด ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก

  1. Create (สร้าง): เริ่มต้นจากการขึ้นโครงร่าง หรือ Draft แรก นี่คือจุดที่ยากที่สุด เพราะการสร้างสิ่งใหม่จากความว่างเปล่าต้องใช้ความกล้าหาญ
  2. Learn (เรียนรู้): เมื่อไอเดียถูกก่อรูปขึ้น มันจะสอนให้เรารู้ว่าอะไรเวิร์กหรือไม่เวิร์ก ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยการ Research และเปิดใจรับ Feedback
  3. Revise (ปรับปรุง): ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด และมักถูกมองข้าม การ แก้ไข ไม่ใช่ขั้นตอนสุดท้าย แต่เป็นกระบวนการที่ต้องวนกลับไปทำซ้ำ ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Catmull มีวลีเด็ดที่ชาว Thumbsup ควรจดไว้แปะหน้าจอคอมพิวเตอร์คือ There is no such thing as the best version, only the most recent worse version. การยอมรับว่างานของเรายัง ไม่สมบูรณ์ คือกุญแจสำคัญที่จะพาเราไปสู่ความสมบูรณ์แบบ

ผู้นำที่ “กล้า” จ้างคนที่เก่งกว่าตัวเอง

ในโลกธุรกิจ เรามักเห็นผู้บริหารที่เต็มไปด้วยอีโก้ หรือกลัวว่าลูกน้องจะเก่งเกินหน้าเกินตา แต่สำหรับองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความคิดแบบนั้นคือยาพิษ

ผู้จัดการทีมที่ดีในนิยามของ Creativity, Inc. ไม่ใช่คนที่มีไอเดียเจ๋งที่สุดในห้องประชุม แต่คือคนที่ สามารถบริหารจัดการคนที่มีความสามารถหลากหลายให้ทำงานร่วมกันได้

Catmull แนะนำว่า Leaders ต้องกล้าที่จะจ้างคนที่เก่งกว่าตัวเอง และต้องขจัดความไม่มั่นใจในใจตัวเองออกไป เมื่อได้ทีมเทพมาแล้ว หน้าที่ของคุณไม่ใช่การไปสั่งสอนพวกเขา แต่คือการสร้าง พื้นที่ปลอดภัย และมอบ ความไว้ใจ ให้พวกเขาได้ลองผิดลองถูก

การให้อิสระในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญ แต่การให้อิสระในการ ล้มเหลว สำคัญยิ่งกว่า ผู้บริหารต้องทำให้ทีมรู้ว่า ความผิดพลาดไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นสัญญาณว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ดินแดนใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย ถ้าไม่เคยล้มเลย แปลว่าเรายัง Play Safe เกินไปหรือเปล่า?

เมื่อตำแหน่งไม่สำคัญเท่าไอเดีย

อุปสรรคใหญ่ที่สุดขององค์กรไทยและองค์กรทั่วโลกคือ ระบบอาวุโส หรือลำดับขั้นการบังคับบัญชาที่ทำให้คนตัวเล็ก ๆ ไม่กล้าพูดความจริง

Pixar แก้เกมนี้ด้วยการสร้างวัฒนธรรมแบบครอบครัว (แต่เป็นครอบครัวมืออาชีพนะ) ที่ใครจะเดินไปคุยกับใครก็ได้ Ed Catmull พยายามลดกำแพงระหว่างแผนกและตำแหน่งลง เพื่อให้การสื่อสารไหลลื่นที่สุด

ครั้งหนึ่งไฟล์หนัง Toy Story 2 เกือบถูกลบหายไปทั้งเรื่องเพราะความผิดพลาดทางเทคนิค! นี่เป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้ Pixar เห็นความสำคัญของการจัดการระบบและการสื่อสารภายในทีม

เมื่อพนักงานไม่ต้องกังวลเรื่อง ใครใหญ่กว่าใคร สมองของพวกเขาจะโฟกัสไปที่ จะแก้ปัญหานี้ยังไง แทน และนั่นคือจุดกำเนิดของนวัตกรรมที่แท้จริง

อย่าติดกับดักความสำเร็จ

เมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จ เรามักจะยึดติดกับ สูตรเดิม เพราะมันปลอดภัยและสบายใจ แต่ Catmull เตือนว่านี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะ

ความสำเร็จมักทำให้เรามองไม่เห็น ความบังเอิญ หรือปัจจัยภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป องค์กรต้องเปิดรับความท้าทายใหม่ ๆ เสมอ อย่ากลัวที่จะรื้อระบบเดิมทิ้งถ้ามันเริ่มล้าสมัย การยึดติดกับ Pattern เดิม ๆ จะปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการใส่ใจในรายละเอียดของ Pixar เช่นในเรื่อง UP หน้าปกหนังสือผจญภัยของ Ellie จะเปลี่ยนภาษาไปตามประเทศที่ฉาย ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส ญี่ปุ่น หรือไทย สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เกิดจากการไม่ยอมหยุดนิ่งและใส่ใจในความแตกต่างของผู้ชมทั่วโลก

Thumbsup มองว่า จากบทเรียนใน Creativity, Inc. เราจะเห็นว่าแก่นแท้ของการสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องของศิลปินอารมณ์ศิลป์ที่นั่งรอนางฟ้ามาโปรยผงพิกซี่ดัสต์ใส่ แต่มันคือ วินัย และ การบริหารจัดการ

สำหรับใครที่กำลังปั้นแบรนด์หรือดูแลทีมอยู่ สิ่งที่คุณต้องทำในวันพรุ่งนี้อาจไม่ใช่การสั่งให้ลูกน้อง ไปคิดงานให้ครีเอทีฟกว่านี้ แต่คือการหันกลับมามอง Structure ในทีมว่า… คุณกำลังสร้างกำแพงกั้นไอเดียของพวกเขาอยู่หรือเปล่า? คุณกล้ายอมรับความล้มเหลวแค่ไหน? และที่สำคัญที่สุด คุณพร้อมที่จะเรียนรู้และแก้ไขกลยุทธ์ของคุณเองแล้วหรือยัง?

เพราะในโลกธุรกิจยุคใหม่ คนที่ชนะไม่ใช่คนที่ไม่เคยล้ม แต่คือคนที่ลุกขึ้นมาปรับปรุงงานให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน

อ่านเพิ่มเติม

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: