Dating App

Swipe, Match, Chat, Date คือคำมั่นสัญญาที่ Tinder เคยให้ไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ซึ่งมันได้เปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ทั่วโลกไปอย่างสิ้นเชิง แต่มาถึงวันนี้ คำสัญญานั้นกำลังกลายเป็น วงจรที่น่าเบื่อ สำหรับผู้ใช้จำนวนมาก จนเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Swipe Fatigue หรืออาการล้าจากการปัดหน้าจอที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด

ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมแอปหาคู่กำลังเผชิญกับมรสุมครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ผู้ใช้ที่เริ่มเบื่อ แต่ตัวเลขในกระดานหุ้นก็แดงเถือกจนน่าตกใจ ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Match Group (เจ้าของ Hinge และ Tinder), Bumble และ Grindr ต้องทุ่มเงินหลายสิบล้านดอลลาร์เข้าสู่สมรภูมิ AI เพื่อดึงดูดให้ผู้คนกลับมารักแอปเหล่านี้อีกครั้ง

Dating App

วิกฤตศรัทธาและตัวเลขที่น่ากังวล

หากเรามองในมุมของนักการตลาดและนักลงทุน สถานการณ์ตอนนี้ถือว่า เปราะบาง อย่างยิ่ง หุ้นของ Match Group ดิ่งลงกว่า 75% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาก็พลาดเป้าทั้งรายได้และกำไร สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการเปลี่ยนผู้ใช้ทั่วไปให้กลายเป็น ลูกค้าที่ยอมจ่ายเงิน ลดลงไปถึง 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ฝั่ง Bumble เองก็ไม่น้อยหน้า ราคาหุ้นร่วงลงกว่า 50% ในปีนี้เพียงปีเดียว พร้อมกับการเลิกจ้างพนักงานไปกว่า 30% ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา นี่คือสัญญาณที่บอกชัดว่า โมเดลธุรกิจเดิม ๆ ที่เน้นแค่การดึงคนเข้ามาปัดหน้าจอไปเรื่อย ๆ เริ่มใช้ไม่ได้ผลแล้ว เพราะสุดท้ายแล้วตัวผลิตภัณฑ์ไม่ได้มอบ ผลลัพธ์ อย่างที่ผู้ใช้คาดหวัง

จาก “ใครก็ได้” สู่ “คนที่ใช่” ด้วย Generative AI

ในอดีต อัลกอริทึมของแอปหาคู่ก็มีการใช้ Machine Learning อยู่แล้ว แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้คือการนำ Generative AI มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเปลี่ยนโจทย์จากการหา ใครสักคนมาให้เราปัด เป็นการหา เนื้อคู่ ที่มีความหมายจริง ๆ

  • Tinder: กำลังทดสอบฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Chemistry ซึ่งล้ำไปอีกขั้นด้วยการวิเคราะห์ภาพใน Camera Roll ของผู้ใช้ รวมถึงคำตอบจาก Prompt ต่าง ๆ เพื่อคัดเลือก Match ที่ตรงกับคุณค่าของผู้ใช้จริง ๆ ไม่ใช่แค่ดูว่าใครหล่อหรือสวยในรูปโปรไฟล์ เป้าหมายคือการลดจำนวนการปัด แต่เพิ่มคุณภาพของบทสนทนา
  • Hinge: กำลังมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงอัลกอริทึมการจับคู่ให้แม่นยำขึ้น
  • Bumble: เตรียมแผนที่จะเปิดตัวนวัตกรรม AI ชุดใหญ่ในปีหน้า เพื่อช่วยทั้งในการสร้างโปรไฟล์ การเริ่มบทสนทนา และการตรวจสอบความปลอดภัย
  • Grindr: ที่เคยถูกมองว่าเป็นแอปสำหรับความสัมพันธ์ชั่วคราว ก็เริ่มใช้ AI ในการแนะนำโปรไฟล์ผ่านฟีเจอร์ For You และ A-List เพื่อให้ผู้ใช้เจอคนที่น่าจะเข้ากันได้ดีที่สุดจากประวัติการแชทในอดีต

เมื่อผู้ท้าชิงรายใหม่คือ AI-Native Startups

ในขณะที่ยักษ์ใหญ่กำลังปรับตัว กลุ่ม Startup หน้าใหม่ที่เกิดมาพร้อม AI ก็กำลังเข้ามาเขย่าบัลลังก์ ตัวอย่างเช่น Sitch ที่ระดมทุนได้กว่า 9 ล้านดอลลาร์ โดยมีโมเดลธุรกิจที่แหวกแนวด้วยการคิดค่าบริการ 90 ดอลลาร์สำหรับการจับคู่เพียง 3 ครั้ง! โดย AI จะทำหน้าที่เหมือน แม่สื่อมือโปร ที่จะคอยคัดกรองและนัดหมายให้โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง Facebook ที่เปิดตัว AI Dating Assistant ซึ่งมีความได้เปรียบด้านข้อมูลมหาศาลของผู้ใช้ในแพลตฟอร์ม ทำให้สามารถค้นหาคนที่ ใช่ ในแบบที่เราต้องการได้ลึกซึ้งกว่าเดิม เช่น คนที่นิสัยเข้ากับเราได้และพ่อแม่น่าจะชอบ

อย่างไรก็ตาม การใส่ AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ ไม่เป็นที่นิยมแล้ว ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะทำให้มันกลับมาปังอีกครั้ง ตัวอย่างเช่นเคสของผู้ใช้ Grindr วัย 33 ปีที่บ่นว่า AI แนะนำแต่คนที่ไม่ใช่สเปกมาให้ นี่คือโจทย์ยากที่นักพัฒนาต้องตีให้แตก เพราะความรักและความพึงพอใจของมนุษย์มีความซับซ้อนเกินกว่าที่โค้ดไม่กี่บรรทัดจะสรุปได้

Thumbsup มองว่า สมรภูมิ Dating Apps หลังจากนี้จะไม่ใช่เรื่องของการมีฟีเจอร์เยอะ ๆ อีกต่อไป แต่มันคือการแข่งขันด้าน ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ ใครที่สามารถลดเวลาที่ผู้ใช้ต้องอยู่บนหน้าจอ แต่เพิ่มโอกาสในการเกิด Spark นอกจอได้จริง คนนั้นจะเป็นผู้ชนะ การเปลี่ยนผ่านจากแอปปัดหน้าจอสู่ Personal Matchmaker คือทางรอดเดียวที่เหลืออยู่ แต่ต้องระวังไม่ให้ AI ทำลายเสน่ห์ของการได้ทำความรู้จักมนุษย์ด้วยกันเองไปเสียหมด เพราะสุดท้ายแล้ว AI อาจจะช่วย เลือก ได้ แต่คนที่จะ รัก คือเราเอง

อ้างอิง: Business Insider

อ่านเพิ่มเติม

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: