“ห้ามดื่มเกินวันละ 2 แก้ว เพราะอาจทำให้ใจสั่น นอนไม่หลับ เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม ผู้มีโรคประจำตัวหรือผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อน” คำเตือนนี้ไม่ได้ใช้แค่กับเครื่องดื่มกระทิงแดงเพียงอย่างเดียว แต่ถูกนำมาใช้ก่อนเลือกดื่มเมนูกาแฟพันธุ์ไทยบ้างแล้ว
สีสันความร่วมมือระหว่างแบรนด์กาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในแคมเปญที่ชื่อว่า ‘ดีดศาสตร์’ ที่สองผู้บริหารต้องการสร้างสรรค์เมนูใหม่เพื่อคนรุ่นใหม่หรือชาวเจน Z ที่ชอบลองรสชาติใหม่ๆ
การคอลแลปของกาแฟพันธุ์ไทยที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่เอาเครื่องดื่มที่เพิ่มการตื่นตัว 2 ประเภทมาไว้ในแก้วเดียวกัน
สำหรับ 4 เมนูที่จะวางขายในแคมเปญนี้ ประกอบด้วย
- ช้างยกกําลังทิง (Espresso Energy Boost with Kratingdaeng) – เมนูดีดขั้นสุดแบบเต็มแมกซ์ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก ‘Espresso Martini’ กับเอสเพรสโซดับเบิ้ลช็อต ยกกำลังทะลุปรอทกับกระทิงแดงครึ่งขวด ได้รสเปรี้ยวนิดๆ ของมะนาว เติมเต็มพลังงานให้ตื่นเต็มตาได้ทั้งวัน (79 บาท)
- ทิงซ่าโดดกําแพง (Lime Soda with Kratingdaeng) – ความซาบซ่าสุดคลาสสิคสไตล์ ‘Highball’ ที่ผสานกระทิงแดงครึ่งขวดเข้ากับสปาร์คกลิ้งโซดา และมะนาวสด ได้ฟีลสดชื่น บูสท์เอนเนอร์จียามบ่าย (69 บาท)
- กำลังช้างสาว (Lychee Yogurt Smoothie Plus Collagen with Kratingdaeng) – เครื่องดื่ม
ผสมคอลลาเจน สำหรับสาวๆ สายบิวตี้ ความลงตัวของโยเกิร์ตเนียนนุ่มและความหอมหวานอมเปรี้ยวรสลิ้นจี่ เพิ่มพลังด้วยช็อตกระทิงแดง ปั่นกับเจลลีสตรอว์เบอร์รี ปลุกความเฟรช อ่านหนังสือดึกได้สบาย (89 บาท) - ช้างกระทืบงาน (Apple Yogurt Smoothie Plus Vitamin B12 with Kratingdaeng) –โยเกิร์ตสมูทตี้สีสวย หอมกลิ่นแอปเปิ้ล เพิ่มช็อตกระทิงแดง ที่มีทั้งวิตามิน B6 และ B12 เพิ่มเทกเจอร์ด้วยเจลลีสตรอว์เบอร์รีหนุบหนับ ทั้งอร่อย ทั้งสดชื่น พร้อมลุยงานได้ทั้งวัน (89 บาท)
ทำไมต้องลองสักแก้ว
คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมีปัจจัยการขับเคลื่อนการบริโภคมากมาย ส่งผลให้เทรนด์ในตลาดเครื่องดื่มมี Movement ตลอดเวลา ซึ่งเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดคือ เทรนด์เครื่องดื่มชูกำลังหรือเครื่องดื่มให้พลังงาน เพราะผู้บริโภคต้องการ Energy ควบคู่ไปกับ Benefit และเทรนด์เครื่องดื่มผสมวิตามิน ที่ผู้บริโภคมักเลือกดื่มเพื่อช่วยเสริมเรื่องความงาม เช่น คอลลาเจนและวิตามิน รวมถึงเทรนด์เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอลล์ ก็เติบโตอย่างมากเช่นกัน
ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันมีความเป็น Independent Generation ที่ต้องการความแปลกใหม่และเป็นตัวของตัวเอง เห็นได้จากเมนูที่มีการแชร์ในโซเชียลที่เอากาแฟไปผสมของส่วนประกอบต่างๆ เช่น ของหวาน ของเปรี้ยว ที่วางขายในร้าน เพื่อเพิ่มสีสันใหม่ๆ โดยทำให้กาแฟของร้านที่เริ่มต้นหลักสิบ กลายไปเป็นเมนูที่มีต้นทุนหลักร้อยไปแล้ว ชี้ให้เห็นว่าคนบางกลุ่มไม่ได้กินเอาอิ่ม แต่กินเอาคอนเทนต์ แสดงถึงความสำคัญในการหา New Experience เราหวังว่าการคอลแลปกันครั้งนี้จะสร้างสีสันในตลาดเครื่องดื่ม และเพิ่ม Traffic ในร้านพันธุ์ไทยทั่วประเทศอย่างน้อย 20% ขึ้นไป
การออกนอกกรอบครั้งแรกของกระทิงแดง
ต้องเรียกว่าเป็นครั้งแรกของ “กระทิงแดง” ในการคอลแลปกับแบรนด์เครื่องดื่ม เพราะปกติแล้วกระทิงแดงจะพัฒนาสินค้าของตนเองให้หลากหลายเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ แต่การร่วมมือครั้งนี้ถือว่าเป็นการออกจากกรอบน่านน้ำใหญ่อย่างตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง สู่ ตลาดกาแฟ ที่แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยกระตุ้นความตื่นตัวเหมือนกัน แต่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นกระทิงแดงหาสีสันใหม่ๆ
คุณวรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาดประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “ด้วยภาพของกระทิงแดงที่คนจะมองว่าเราเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน แต่ที่จริงแล้วกลุ่มคนออกกำลังกายก็ดื่มกระทิงแดงเช่นกัน และเรากำลังขยายตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ น้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค
จากกลยุทธ์ที่เราใช้จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การทำกิจกรรมการตลาดที่ตอบสนองเทรนด์ผู้บริโภคที่ต้องการลิ้มลองสิ่งใหม่ๆ
นอกจากนี้ เรายังวางแนวทางขยายความร่วมมือการทำการตลาดเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง การร่วมมือกับกาแฟพันธุ์ไทย ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการคอลแลปข้ามสายพันธุ์ของสองแบรนด์ไทยและน่าจะช่วยสร้างการจดจำของกระทิงแดงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อีกทางหนึ่ง เพราะพันธุ์ไทยเองก็เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าเป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์ความสนุกให้กับผู้บริโภคอยู่ตลอด
เครื่องดื่มใหม่ลองได้แค่ 3 เดือนเท่านั้น
แคมเปญ ‘ดีดศาสตร์’ เน้นการสร้าง Engagement กับกลุ่มเป้าหมายซึ่งจะมีกิจกรรม Road Show ในสถานที่ต่างๆ เช่น ตลาดนินจา ชลบุรี ตลาดเซฟวัน โคราช รวมทั้งกิจกรรม Online Activities ไม่ว่าจะเป็นการชวนตั้งชื่อเมนู การแชร์ประสบการณ์ความดีด และกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นการนำรายได้จากการจำหน่ายเครื่องดื่มดีดศาสตร์ทั้ง 4เมนู ในช่วงเวลา 18.00 – 06.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 กรกฎาคม 2568 ที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทย สาขาคลองหลวง 4 (ซึ่งเป็นสาขาที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) มามอบให้แก่มูลนิธิที่ต้องการพลังงานในการปฏิบัติภารกิจยามค่ำคืน เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยและผู้ประสบภัย ตลอดเดือนกรกฎาคม 2568 ด้วย