สวัสดีวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ครับ thumbsup,
ใครที่ผ่านเข้ามาที่ thumbsup.in.th ตอนนี้จะเห็นได้ว่าทีมงานได้เปลี่ยนระบบการจัดการความคิดเห็นของสมาชิกจากเดิมใช้ของ WordPress มาใช้ DISQUS แทนแล้ว (จริงๆ ถ้าดูกันตั้งแต่เมื่อคืนก็จะพอเห็นกันบ้างแล้ว) ผมก็เลยอยากจะออกมาเล่าให้ฟังว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมต้องทำ เพราะแรกเริ่มเดิมทีเราตั้งใจว่าถ้าจะเปลี่ยนแปลงอะไรจะคุยกับสมาชิกก่อนแน่ๆ แต่เอาเข้าจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือจำนวนความคิดเห็นจากเพื่อนๆ สมาชิกตอนนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เกือบ 1,000 ความคิดเห็นแล้ว ทำให้ทีมงานอ่านความคิดเห็นของคุณไม่ทัน เพราะเราอยากจะแน่ใจจริงๆ ว่าเราได้อ่านความเห็นของคุณอย่างใส่ใจจริงๆ อย่างที่เราคุยกับเพื่อน
แล้วสิ่งที่ผมพบว่ามันอาจจะดูน่ารำคาญสำหรับสมาชิกก็คือทุกคนคงไม่อยากมีหน้าสีเทาๆ ตรง comment ข้างล่างเท่าไหร่ ทำไมไม่เปิดให้เอารูปใส่มาซะเลย ทำไมต้องไปสมัครสมาชิกของ WordPress ก่อนด้วย ถ้าอยากมีรูปก็ต้องไปสมัคร Gravatar อีก ฉันไม่ใช่บล็อกเกอร์สักหน่อย และนี่คือสาเหตุที่เรานำ DISQUS มาใช้งานตรงนี้ เพราะเราใช้ account Facebook, Twitter, Yahoo! ID, Open ID? ของเรามาใช้ได้เลย พูดง่ายๆ ว่าถ้าอยากแสดงตัวตน ก็แค่คลิกว่าจะเอา Facebook, Twitter มาเชื่อมต่อกับ thumbsup คุณก็จะแสดงความเห็นได้ง่ายขึ้น และสิ่งที่ Community ของ thumbsup จะได้รับก็คือความคิดเห็นที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้อีกจุดนึงที่น่าสนใจก็คือ คุณจะเห็น “Reaction” หรือปฎิกิริยาของคนใน Twitter ว่าพูดถึง thumbsup อย่างไรบ้างโดยไม่ต้องคลิกไปคลิกมา
แต่สิ่งที่จะหายไปก็คือ กล่อง “ความคิดเห็นล่าสุด” ทางขวามือ เพราะระบบของ DISQUS เป็นคนละตัวกับ WordPress แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเราคิดว่า DISQUS ไม่ดีกว่า ก็บอกมานะครับ แต่ ณ ตอนนี้หลังจากที่ชั่งน้ำหนัก เทียบกับ Facebook Comment แล้วก็ยังคิดว่า DISQUS น่าสนใจกว่าในแง่ที่มันเป็น third party ที่ Integrated เอา Social service ต่างๆ มาไว้ด้วยกันได้เนียนพอสมควร ไม่ใช่ของเจ้าใดเจ้าหนึ่ง และที่สำคัญความคิดเห็นอันเก่าที่ทุกคนเคยพิมพ์ลงมาได้ถูกโอนมาอยู่ในระบบ DISQUS แล้ว ดังนั้นความเห็นที่คุณเคยไว้ใจเขียนทิ้งไว้ให้เราจะไม่หายไปแน่นอน
แต่ถึงกระนั้น คุณจะยังสังเกตเห็นเจ้าไอคอนรูปนิ้วยกทางมุมขวามือด้านบนของข่าวและบทความ ตรงนั้นไม่เกี่ยวกับ Social อะไรทั้งนั้น แต่ทุกครั้งที่คุณชอบ ช่วย “thumbsup” ให้เราด้วย ตรงนี้มันเป็นการให้กำลังใจกับเราอย่างแรง!
ว่าแล้วขอเชิญชวนสมาชิกทุกท่านติดตาม Facebook Page ของ thumbsup และติดตามกันบน Twitter ด้วยเลยนะครับ หรือคอยดู #thumbsupTH ใน Timeline ก็ได้เช่นกัน