Site icon Thumbsup

Google อัพเกรด AdWords ลุยเจาะตลาดโฆษณาบนโมบายล์แบบเต็มที่

googlePhone

ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจิ้นออนไลน์อย่าง Google ประกาศอัพเกรดความสามารถของบริการ AdWords ให้นักโฆษณาสามารถปรับแต่งโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการเปิดกว้างให้นักการตลาดเลือกประเภทอุปกรณ์ที่ต้องการแสดงโฆษณาได้ รวมถึงเวลาและพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ต้องการ

การปรับเพิ่มความสามารถของ AdWords ครั้งนี้ถูกเรียกว่า Enhanced Campaigns จุดประสงค์คือการสร้างแคมเปญที่ดีขึ้นสมชื่อเพราะเจ้าของธุรกิจจะสามารถทำแคมเปญการตลาดโดยกรองกลุ่มเป้าหมายจากปัจจัยที่ต้องการได้ ทั้งการพิจารณาอุปกรณ์ที่ใช้ กำหนดช่วงเวลาเริ่มแคมเปญในแต่ละวัน และจุดภูมิศาสตร์ที่กลุ่มเป้าหมายยืนอยู่ในเวลานั้น โดยทั้งหมด Google ยืนยันว่านักการตลาดสามารถจัดการได้ง่ายจากหน้าต่างเดียว

Google ยกตัวอย่างความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้คุณสมบัติ Enhanced Campaigns อย่างน่าสนใจ เช่นกรณีของร้านจำหน่ายอาหารเช้าจะสามารถเสนอโปรโมชันที่ต่างกันให้กับลูกค้าที่กำลังค้นหาคำว่า “coffee (กาแฟ)” หรือ “breakfast (อาหารเช้า)” บนสมาร์ทโฟนในบริเวณใกล้ที่ตั้งร้าน โดยอาจตั้งเงื่อนไขลดราคา 25% แก่ผู้ที่ค้นหาคำนี้ในพื้นที่ไกลจากร้านไม่เกินครึ่งไมล์ หรืออาจลดราคา 20% แก่ผู้ที่ค้นหาคำนี้ช่วงหลัง 11 โมงเช้า ขณะเดียวกันก็สามารถลดราคา 50% แก่ผู้ใช้ทุกคนที่ค้นหาคำนี้ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งการตั้งเงื่อนไขเหล่านี้สามารถทำได้กับทุกคีย์เวิร์ดบนแคมเปญเดียว

นอกจากนี้ การเปิดให้นักการตลาดสามารถเสนอแคมเปญตามอุปกรณ์ยังสามารถนำไปประยุกต์กับแคมเปญที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น บริษัทค้าปลีกที่มีทั้งหน้าร้านบนถนนและเว็บไซต์จะสามารถเลือกแสดงโฆษณาพร้อมปุ่ม click-to-call เพื่อให้ผู้ค้นหาคำบนสมาร์ทโฟนสามารถคลิกเพื่อโทรติดต่อร้านได้โดยไม่ต้องกดเบอร์โทรให้เสียเวลา ขณะเดียวกันก็สามารถแสดงโฆษณาที่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ แก่ผู้ใช้ที่ค้นหาคำบนคอมพิวเตอร์พีซี โดยทั้งหมดนี้สามารถทำได้บนแคมเปญเดียว

ที่สำคัญ นักการตลาดยังสามารถใช้ข้อมูลของ Google ในการติดตามว่าโฆษณารูปแบบใดมีประสิทธิผลมากที่สุด จุดนี้ Google ระบุว่านักการตลาดจะสามารถนับจำนวนสายโทรเข้าจากระบบ click-to-call บนโฆษณาได้ โดยจะสามารถรวมอยู่ในรายงาน AdWords report ซึ่งจะทำให้สามารถนำไปประเมิลร่วมกับยอดขายหรือยอดการดาวน์โหลดได้

งานนี้ Google ย้ำว่าการอัพเกรดครั้งนี้จะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้ คาดว่าจะเริ่มใช้งานทั่วโลกในช่วงกลางปี 2013

ที่มา : Mashable