คนส่วนใหญ่ใช้งาน Google Search ในการหาข้อมูลต่างๆ และการใช้ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Lens เข้ามาช่วยเรื่องการค้นหาให้สะดวกขึ้นและการทำภาพที่ดีง่ายต่อการค้นหาของระบบ AI จะเป็นการเชื่อมต่อธุรกิจกับกลุ่มเป้าหมายให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น
Brendon Kraham รองประธานฝ่าย Search and Commerce, Global Ads Solutions ที่ Google กล่าวว่า การใช้นวัตกรรมอย่าง AI มาช่วยในเรื่องของข้อมูลภาพ รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน Google Lens และฟีเจอร์ Circle to Search มีความสำคัญต่อแบรนด์ที่ต้องการลงโฆษณา
ยังคงรักษาตำแหน่งในการใช้ค้นหาข้อมูล
สถิติที่น่าสนใจคือ การใช้งาน Google Search มาตลอด 25 ปีก็คือการตอบสนองต่อความอยากรู้ของคนทั่วโลก 15% ของการค้นหาในแต่ละวันเป็นการค้นหาเรื่องราวใหม่ๆ
การผสมผสานข้อมูลภาพรวมด้วย AI ถือว่าเป็นการผสานความมหัศจรรย์ของ LLM เข้ากับผลการค้นหาคุณภาพสูงจากอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถค้นพบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นคำถามที่ยาวหรือซับซ้อน อาจไม่มีคำตอบที่ “ตายตัว” และการค้นหาด้วย AI ช่วยให้ค้นหาได้มากกว่าและผู้ใช้งานก็พึงพอใจกับผลการค้นหาด้วยเทคโนโลยีนี้มากกว่าเดิม รวมทั้งเข้าชมเว็บไซต์ที่หลากหลายมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลภาพที่ถูกค้นหาโดย AI ได้เริ่มเปิดตัวในประเทศต่างๆ มากกว่า 100 แห่งทั่วโลก ทำให้ฟีเจอร์นี้เข้าถึงผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านคนทุกเดือนรวมทั้งในแต่ละเดือนยังมีการใช้ Google Lens สำหรับการค้นหาด้วยภาพกว่า 2 หมื่นล้านครั้ง และ 1 ใน 4 ของการค้นหาด้วยภาพใน Lens เพื่อให้เกิดการซื้อขายทำให้การค้นหาด้วยภาพก็เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานแบบเดิม
บางทีเราอาจมีสิ่งที่ไม่ได้ค้นหาเพราะไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เราค้นหาด้วยการถ่ายรูปได้ ถ่ายวิดีโอก็ได้ หรือจะวงสิ่งที่เห็นบนหน้าจอมาค้นหาด้วยฟีเจอร์ Circle to Search ก็ยังได้
เทคโนโลยีนี้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คำค้นหาของ Lens เป็นหนึ่งในประเภทคำค้นหาบน Google ที่โตเร็วที่สุด โดยในแต่ละเดือนมีการใช้ Google Lens สำหรับการค้นหาด้วยภาพกว่า 2 หมื่นล้านครั้ง และ 1 ใน 4 ของการค้นหาด้วยภาพใน Lens มีโอกาสในการซื้อขายของผู้ใช้งานกับธุรกิจด้วย
โอกาสในการซื้อขายที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราเห็นชัดแล้วว่าโฆษณา Search สามารถสร้าง Conversion ได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็น่าจะยืนยันสิ่งที่นักการตลาดเข้าใจกันอยู่แล้วว่าโฆษณาบน Search สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีกว่าเดิม แต่ Google Search จะเข้ามามีส่วนในเส้นทางการซื้อของผู้บริโภค (Consumer Journey) อย่างไร
ในทุกๆ วัน มีการค้นหากว่าหลายพันล้านครั้งบน Google ซึ่งอันที่จริงกว่า 80% ของค่าโฆษณา Google Search ในการค้นเว็บมาจากคำค้นหาที่ไม่ได้ระบุเว็บไซต์ ซึ่งเป็นการค้นหาที่ผู้บริโภคตั้งใจหาข้อมูลและสำรวจตัวเลือกต่างๆ โดยไม่ใช่เพียงค้นหาเพื่อไปยังเว็บไซต์ที่รู้จักอยู่แล้วผ่านทาง Google Search ผู้คนที่เข้ามาใน Google Search จึงมีความเปิดกว้าง ซึ่งตรงกันข้ามแพลตฟอร์มโซเชียลหลายแห่ง
นอกจากนี้ ผู้คนยังเข้ามาที่ Search เพื่อตัดสินใจเพราะมองว่า Google เป็น Touchpoint อันดับ 1 ที่ผู้บริโภคมองว่าช่วยให้พวกเขามีข้อมูลประกอบและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ แม้เราจะเคยได้ยินกันบ่อยๆ เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็วจากแรงกระตุ้นทางสังคม แต่งานวิจัยล่าสุดของเรากับ Ipsos ก็แสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วการซื้อในลักษณะนี้อยู่ในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ คนส่วนใหญ่จะวางแผนหรือศึกษาก่อนทำการซื้อออนไลน์ และแม้จะมีแรงกระตุ้นทางสังคม ผู้บริโภคก็มีแนวโน้มที่จะทำการประเมินบนแพลตฟอร์มต่างๆ มากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google Search ซึ่งผู้บริโภคเข้ามาเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ประเมินข้อมูลต่างๆ และเปรียบเทียบตัวเลือกก่อนทำการซื้อ โดยผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 70% ใช้ Google Search เพื่อหาข้อมูลและประเมินผลิตภัณฑ์ที่ค้นพบในโซเชียล และไม่เพียงหาข้อมูลแค่เฉพาะผลิตภัณฑ์นั้นๆ แต่ยังดูผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันอื่นๆ ด้วย
ดังนั้น ผู้ลงโฆษณาจึงจำเป็นที่จะต้องแสดงตัวในจุดที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคทำการตัดสินใจได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่อย่าง Google Shopping ที่ใช้ AI แสดงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่สุดได้อย่างชาญฉลาด ยังช่วยให้การค้นหาข้อมูลง่ายและเร็วขึ้นด้วย พูดง่ายๆ คือ Google Search คือแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคเข้ามาเพื่อตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรระหว่างแบรนด์หนึ่งๆ กับแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ
นักการตลาดให้ความสนใจกับพฤติกรรมการค้นหาของ Gen Z กันมาก แล้วทุกวันนี้ผู้บริโภค Gen Z ค้นหากันอย่างไร
โดยทั่วไปแล้ว Gen Z คือกลุ่ม Heavy User ของ Google Search ซึ่งมีผู้ใช้งานอายุ 18-24 ปี มีการค้นหาในแต่ละวัน มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ โดย 80% ของ Gen Z ใช้ Google เพื่อเลือกซื้อ รวมถึงการสำรวจ เลือกดู หาไอเดีย หาข้อมูล และ/หรือทำการซื้อ ด้วยความที่ผู้บริโภคมีความไว้วางใจใน Google พฤติกรรมของ Gen Z นี้จึงไม่น่าแปลกใจ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะกล่าวว่าตนไว้วางใจ Google ในการ “ให้ข้อมูลและเนื้อหาที่เกี่ยวข้องที่สุด” เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมอื่นๆ
ฟีเจอร์ Circle to Search พบอัตราการมีส่วนร่วมสูงในหมู่ Gen Z โดยเฉพาะ (อายุ 18-24 ปี) ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ค้นหาสิ่งที่พบเห็นทางโซเชียลมีเดีย วิดีโอ YouTube หรือระหว่างที่เลื่อนดูฟีดได้โดยที่ไม่ต้องออกจากแอปนั้น ซึ่งผู้ที่ใช้งานฟีเจอร์นี้ก็มักกลับมาค้นหาเพิ่มเติมอีก โดย 1 ใน 3 ของผู้ใช้ที่ได้ลองใช้ Circle to Search จะใช้ทุกสัปดาห์
นักการตลาดควรใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมใน Google Search อย่างไร
นักการตลาดที่ใช้โซลูชันการโฆษณาที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในทุกช่องทางใหม่ๆ ที่พวกเขาใช้ในการค้นหา รวมถึงยังได้ใช้ AI ที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้รับ ROI สูงที่สุด นั่นเป็นเพราะ AI ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมของ Search เหล่านี้ยังขับเคลื่อนแคมเปญโฆษณาของ Google ด้วย หากถามผู้ลงโฆษณา พวกเขาก็อาจบอกว่า Google Search ให้ ROAS สูงกว่าแพลตฟอร์มการโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่าย อื่นๆ
หากต้องการสร้างผลลัพธ์สูงสุด ผู้ลงโฆษณาควรใช้โซลูชัน AI ที่มีให้พร้อมใช้งานอยู่แล้วอย่าง Broad Match, Smart Bidding และชิ้นงานโฆษณาที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าแบรนด์ของคุณจะแสดงในการค้นหารูปแบบใหม่เหล่านี้อย่างเหมาะสม แนวทางสำหรับ Seach และ SEO รวมถึงสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เชื่อถือได้ และให้ความสำคัญกับ “คน”
นวัตกรรมใน Google Search ไม่เพียงช่วยให้นักการตลาดแสดงโฆษณาได้ดีขึ้น แต่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นด้วย