Site icon Thumbsup

สัมภาษณ์พิเศษ: Thomas Kjeldgaar จาก Pagemodo สู่ CEO แห่ง SplashPost

thomas2

วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์พิเศษมาให้ชาว thumbsuper ได้อ่านกันครับ เขาผู้นี้เป็น Startup ตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นผู้ก่อตั้ง Pagemodo ที่ตอนนี้ถูกทาง Webs.com ซื้อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนเขาติดอยู่ในรายชื่อ 650 อันดับของ?The Young Entrepreneur Council (YEC)?ล่าสุดเขากำลังพัฒนาบริการที่จะช่วยให้เจ้าของแบรนด์ช่วยโปรโมทโฆษณาบน Facebook ได้อย่างง่ายๆ ด้วยบริการที่ชื่อว่า SplashPost เขาก็คือ?Thomas Kjeldgaar?CEO แห่ง SplashPost

thumbsup: ช่วยแชร์ความเห็นเมื่อตอนที่คุณยังเป็นวัยรุ่นที่มีความฝันที่จะเป็นผู้ประกอบการ แทนที่จะเลือกความก้าวหน้าในอาชีพเป็นผู้บริหารในองค์กรใหญ่ๆ

Thomas: การทำงานในองค์กรใหญ่ๆ นั้นเป็นวิธีที่จะได้เรียนรู้และเตรียมตัวเพื่อวันหนึ่งคุณจะได้เป็น Startup ซึ่งผมรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าต้องการเป็นผู้ประกอบการในช่วงหนึ่งของชีวิต แต่ผมก็เคยทำงานอยู่ 2-3 ที่เดนมาร์กซึ่งผมดูแลในส่วนของการตลาดและการขายในบริษัทด้านการจัดการภาพและเสียง(บริษัทขายเครื่องเสียง) ในขณะเดียวกันผมก็มีห้องอัดเปิดให้เช่าใช้งาน จุดนี้ก็น่าจะพูดได้ว่านี่คือการทดลองเป็น Startup ครั้งแรกของผม

นั่นก็ถือว่าเป็นความสนุกสำหรับผมแล้ว ผมไม่เคยทำงานในองค์กรใหญ่ๆ ด้านเทคโนโลยีก่อนที่ผมจะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Pagemodo ดังนั้นสิ่งที่ผมรู้ก่อนจะเริ่มทำ Pagemodo ผมใช้วิธีศึกษาด้วยตัวเองผ่านอินเทอร์เน็ต หลังจากที่ผมขาย Pagemodo ให้กับ Webs.com ไปแล้ว ผมกับทาง Webs.com ก็ได้ทำงานร่วมกันประมาณปีครึ่ง และช่วงเวลาปีครึ่งนี้เองที่ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ผมดีใจและขอบคุณอย่างมากที่มีโอกาสได้ทำ

หลังจากที่สร้างและขาย Pagemodo ออกไป ผมก็มองไม่เห็นว่ามีงานจริงๆ ให้ผมทำสักเท่าไหร่ ซึ่งผมรู้สึกแต่เพียงว่าผมมีประสบการณ์และมีเน็ตเวิร์กพอที่จะติดต่อกับผู้ก่อตั้ง, ผู้ร่วมก่อตั้ง หรือหุ้นส่วนของโครงการที่กำลังจะเริ่มขึ้น นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเริ่มต้น Startup ตัวที่สองของผมที่ชื่อว่า SplashPost โดย SplashPost เป็นบริการที่จะให้แบรนด์และธุรกิจได้เชื่อมต่อกับแฟนๆ บน Facebook ได้โดยตรงผ่านทาง News Feed โดยใช้ข้อความที่เรียกว่า?Multimedia News Feed posts

thumbsup: หลักการในการทำงานของคุณในการนำ Pagemodo สู่ความสำเร็จคืออะไร?

Thomas:?ทำมันต่อไป! (Keep Going) เราก็ถูกกระทบกระทั่งในระหว่างที่อยู่บนเส้นทางที่เราทำอยู่เหมือนกับหลายๆ คนที่เจอ แต่นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เชื่อว่าคุณทำอะไรอยู่และช่วยให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่ตลอดเวลา …Pagemodo นั้นมีขึ้นมาได้ถูกที่ถูกเวลา มันหมายความว่าเมื่อคุณจะเป็น Startup ใหม่ๆ หากคุณเริ่มทำตั้งแต่ไก่โห่โดยที่ตลาดที่คุณอยากจะอยู่นั้นยังไม่พร้อม เงินทุนของคุณอาจหมดไปก่อนที่ตลาดนั้นจะพร้อมสำหรับคุณ และถ้าคุณมาช้าเกินไป โอกาสที่คุณจะได้เป็นผู้นำตลาดก็คงถูกคนบางคนคว้าไปแล้ว แต่ถ้าคุณปล่อยผลิตภัณฑ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนที่ตลาดจะเริ่มต้น จะทำให้คุณอยู่ในตำแหน่งในการทำตลาดที่ดี ผลที่จะได้ในการเลือกเวลาที่เหมาะเจาะนั้นมีความหมายอย่างมากในการทำ Startup

thumbsup: ช่วยบอกเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำขึ้นมาล่าสุดอย่าง SplashPost ว่าคืออะไร และไอเดียในการทำมาจากอะไร?

Thomas: SplashPost เป็น Startup ตัวใหม่ของผม โดยจะเป็นเครื่องมือออนไลน์ที่จะให้เจ้าของ Facebook Page ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ต่างๆ หรือธุรกิจที่ใช้ สามารถสร้างข้อความโพสต์ในรูปแบบ?Multi-media News Feed โดยไม่ต้องมีความรู้ทางด้านเทคนิคหรือด้านการออกแบบแต่อย่างใด โดยเขาเหล่านั้น(แบรนด์, ธุรกิจ) สามารถที่จะติดต่อกับเหล่า Facebook Fan ที่เข้ามากด Like ได้โดยตรงผ่านทาง News Feed และไม่ต้องส่งข้อความไปยังที่อื่นๆ เพราะนี่คือสิ่งที่เขามีให้อยู่แล้ว โดยบริการนี้จะสามารถเก็บอีเมล์, คูปองส่วนลดต่างๆ, คลิปวิดิโอที่ถูกรวมอยู่ในปุ่ม และอื่นๆ ได้โดยตรงใน?Facebook News Feed

แบรนด์และธุรกิจที่มาใช้งาน SplashPost จะสามาระเข้าถึงข้อมูลส่วนของการวิเคราะห์โดยดูได้ว่ามีจำนวนคลิกในแต่ละข้อความที่โพสต์ลงไปเท่าใด และคนที่มาคลิกนั้นมาจากประเทศอะไรเมืองอะไร ดังนั้นเราจะได้รู้ว่าเราควรจะจัดงบทำการตลาดที่ไหนบ้าง (ทาง Facebook ไม่ได้ให้ข้อมูลวิเคราะห์ในส่วนนี้) นอกเหนือจากนั้น SplashPost เป็นบริษัทแรกของโลกที่พัฒนาเครื่องมือในส่วนนี้ขึ้นมา

แนวความคิดในการพัฒนา SplashPost มาแบบช้าๆ เมื่อตอนที่ผมทำงานในส่วนธุรกิจของ Facebook และแน่นอนว่ามาจากตอนที่เราทำ Pagemodo ซึ่งผมเจอปัญหาและความต้องการสำหรับแบรนด์ต่างๆ โดยที่ต้องมีคนมาแก้ปัญหานี้ให้ และผมคิดว่าทำไมไม่เป็นผมเองหล่ะที่เป็นคนเข้ามาแก้ปัญหานี้?

การแก้ปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือไม่มีทางที่จะไม่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมด้วยเนื้อหาผ่านทาง News Feed เลย ดังนั้นทาง SplashPost หาวิธีที่เร็วและง่ายจะทำให้แบรนด์และธุรกิจต่างๆ สร้างการมีส่วนร่วมให้กับแฟนๆ ซึ่งเขาจะได้ประโยชน์อย่างมากจากสิ่งที่ Facebook มีให้เพื่อทำการตลาดและการขาย สิ่งหนึ่งที่สำคัญและถือเป็นอาวุธลับเมื่อมีการทำการตลาดบน Facebook นั่นคือการที่คุณจะทำอย่างไรให้ถูกทาง ซึ่งต่างจากการทำการตลาดแบบทั่วๆ ไปอย่างมาก สิ่งเหล่านี้ SplashPost และการอบรบต่างๆ จะช่วยให้แบรนด์และธุรกิจของคุณบรรลุผลได้อย่างแน่นอน

thumbsup: คุณสมบัติหลักๆ ของ SplashPost คืออะไร และอะไรที่เป็นอุปสรรคในการใช้งานบ้าง?

Thomas: SplashPost ง่ายและใช้งานได้เร็ว และช่วยให้คุณสร้างการมีส่วนร่วม รวมทั้งติดต่อกับแฟนที่อยู่บน Facebook ของคุณได้ไม่ถึง 10 วินาที ด้วยการแสดงผลในรูปแบบมัลติมีเดียบนหน้า News Feed โดยสิ่งที่คุณจะได้รับคือข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกสำหรับทุกๆ โพสต์และทุกสิ่งที่คุณทำไป คุณสามารถที่จะเลือกตั้งตารางในการโพสต์ข้อความในช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคุณเพื่อโพสต์ของคุณจะได้รับการตอบสนองที่มากที่สุด

ไม่มีอุปสรรคที่จะลองใช้งาน SplashPost เพราะเรามีแบบฟรีให้ได้ลองใช้งาน โดยที่ไม่ต้องใช้เทคนิคหรือทักษะด้านการออกแบบใดๆ ในการสร้างโพสต์ขึ้นมา โดยเราจะมีวิดิโอช่วยสอนในส่วนของการทำการตลาดบน Facebook รวมทั้งตัวผมเองจะลงมือสอนด้วยตัวเองเป็นการส่วนตัวสำหรับแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มาใช้บริการกับเรา

thumbsup: รูปแบบธุรกิจของคุณคืออะไร? และคุณสร้างรายได้จากบริการของคุณอย่างไร?

Thomas:?รูปแบบธุรกิจของเราจะเป็นการบอกรับเป็นรายเดือน (monthly subscription) เป็นหลัก และเป็นรูปแบบ Freemium ซึ่งทุกๆ คนสามารถที่จะใช้งานได้ไปเรื่อยๆ ตามต้องการ แต่การใช้งานฟรีนั้นจะมี feature ให้ใช้งานที่น้อยกว่าและมีโลโก้ของ SplashPost แปะไปด้วย ส่วนคนที่จ่ายเงินจะได้ feature ที่เยอะกว่าโดยที่ไม่มีโลโกของเราให้รกตา ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อเดือนจะอยู่ที่ 24 เหรียญสหรัฐฯ (720 บาท) และ 97?เหรียญสหรัฐฯ (2910 บาท) ต่อเดือน

ตอนนี้เรากำลังเตรียมนำเสนอรูปแบบที่ใหญ่กว่าเดิม โดยเป็นพรีเมี่ยมที่เรียกว่า White Label เป็นรูปแบบที่เราไม่เคยมีทำกันมาก่อน

thumbsup: อยากช่วยแชร์ถึงการวางแผนทางการตลาดของคุณหน่อยว่าเป็นอย่างไร และคุณโปรโมทบริการของคุณในระดับโลกอย่างไร?

Thomas:?เรากำลังพยายามทำให้ขยายวงกว้างขึ้นด้วยวิธีการบอกต่อเท่าที่จะทำได้ โดยอาศัยโลโก้แบรนด์ของเราจากการใช้งานของคนที่ใช้แบบฟรีๆ ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อกลับมายังเว็บไซต์ SplashPost ของเรา นอกจากนั้นเรายังพยายามเข้าถึงสื่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้, เขียนบทความ, เชิญให้มาสัมภาษณ์ เป็นต้น ในอนาคต เรามีแผนบางอย่างที่จะใช้ YouTube และ LinkedIn ด้วย ซึ่งหากมีโอกาสผมจะมาบอกอีกครั้งเมื่อมีความคืบหน้า

เรากำลังวางแผนเพื่อทำแคมเปญการตลาดขนาดใหญ่ในเร็วๆ นี้จากโฆษณาบน Facebook ด้วยการใช้วิดิโอและเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหญ่ รวมทั้งมีอีเมล์ติดตามไปด้วยตามลำดับ จริงๆ แล้ว Facebook เป็นแพล็ตฟอร์มที่ดีมากในการโฆษณาบนนั้นหากคุณรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะถูกทาง แคมเปญที่เราจะทำนี้เราเริ่มทำไปแล้วเมื่อต้นเดือนมกราคมและตอนนี้ก็ยังคงมีอยู่ และแน่นอนว่าถ้ามีโอกาสเราจะมาแชร์ผลลัพธ์จากสิ่งที่เราทำมาให้ได้รู้กัน

thumbsup: ช่วยบอกแหล่งเงินทุนที่คุณใช้ทำ SplashPost นี้ว่ามาจากไหน?

Thomas:?จนถึงตอนนี้ผมเป็นคนควักเงินทั้งหมดในการทำ SplashPost นี้ขึ้นมา ผมกำลังมองหานักลงทุนที่สนใจจะมาร่วมลงทุนกับผมเพื่อที่จะทำให้ SplashPost เติบโตเร็วกว่าเดิม

thumbsup: เท่าที่เราทราบมา คุณติดอันดับใน 650 ผู้ประกอบการอายุยังน้อย ของ?The Young Entrepreneur Council?ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าโครงการนี้มีที่มาอย่างไร?

Thomas: ผมดีใจมากๆ ที่ได้อยู่ใน YEC (The Young Entrepreneur Council) มันเป็นที่ๆ มีโอกาสอย่างมากมาที่จะได้เจอกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากทุกมุมโลกแถมยังได้ตีพิมพ์ชื่อลงในสื่อต่างๆ อีกด้วย

ตอนนั้น Scott Gerber ผู้ก่อตั้ง YEC ได้ส่งเมล์มาหาผมเพื่อคุยกันผ่าน Skype ตอนนั้นเราคุยกันและ Scott บอกกับผมว่ามีสมาชิกหลายๆ คนแนะนำตัวผมว่าเป็นคนที่มีศักยภาพพอที่จะเป็นสมาชิกได้ ซึ่งหลังจากนั้นผมก็รู้ว่ามีคนกว่า 11,000 คนที่ทำการสมัคร แต่มีเพียง 649 คนที่ได้รับเลือกและผมก็คือคนที่ 650

thumbsup: ช่วยแชร์ประสบการณ์ของคุณหน่อย ว่าอะไรคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่คุณเคยเจอตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท และคุณจัดการมันได้อย่างไร?

Thomas: ตอบยากนะครับนี่… อันที่จริงเรามีปัญหาอยู่มากมายอยู่แล้วเป็นทุนเดิมและก็มีปัญหาใหม่ๆ ทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เจอก็คือผมไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจทางด้านเทคนิคเลย สิ่งที่ผมถนันก็คือด้านการตลาด, ธุรกิจ, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่วนการติดต่อกับผู้ใช้งาน โดยที่ผมต้องดูแลในส่วนของเทคนิคอีกด้วย มันยากนะที่จะทุ่มเทพลังทั้งหมดไปให้กับสิ่งที่ผมต้องทำ แต่ผมก็ต้องทำควบคู่กันต่อไปจนกว่าผมได้พันธมิตรธุรกิจด้านเทคนิคที่ดีพอ ดังนั้นหากใครที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้และเชื่อว่าจะเป็น CTO (Chief Technology Officer) และเป็นพันธมิตรกับ SplashPost อย่าลังเลที่จะติดต่อมาหาที่ผม?และผมจะดีใจหากได้ยินว่าคุณอยากมาร่วมงานกับผม

thumbsup: คุณให้กำลังใจตัวเองอย่างไรขณะที่เจออุปสรรคในธุรกิจ?

Thomas: ปกติผมจะชอบอ่านหนังสือ, บทความ และฟัง podcast ที่ช่วยเติมพลังให้เดินหน้าต่อ ถ้าผมรู้สึกว่าหมดพลัง ผมจะใช้ 10 นาทีในการฟัง podcast ที่ทำให้ผมหลุดจากอารมณ์นั้นและรู้สึกพร้อมที่จะกลับไปทำงาน

thumbsup: คุณได้เริ่มมาเกี่ยวข้องกับวงการ Startup ในไทยบ้างแล้ว มีอะไรบ้างที่คุณอยากจะบอกกับ startup ที่เป็นคนไทยบ้าง?

Thomas:?ผมชอบที่จะเห็นระบบนิเวศด้าน Startup ที่กำลังเติบโตที่เมืองไทยด้วยการมีบริการ coworking space ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น, งาน event ต่างๆ ที่มีขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ เป็นต้น สำหรับทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ ผมอยากจะบอกว่า “จงสร้างสรรค์งานที่ดีต่อไป” มีสิ่งใดที่ผมสามารถมาร่วมแบ่งปันจากประสบการณ์ของผมที่ได้เจอ ผมยินดีนะที่จะช่วย และผมก็ยินดีที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับ Startup ที่ผมเห็นศักยภาพในตัวของเขา

————————————————————————————————————————————————

ถือเป็นบทสัมภาษณ์ที่ให้แรงกระตุ้นและให้แนวทางในการเป็น startup ได้เป็นอย่างดี เพราะ Thomas เองเริ่มต้นเป็น Startup อยู่แล้วเป็นทุนเดิม เราได้แต่หวังว่าบทสัมภาษณ์นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย และหากมีโอกาสเราจะสัมภาษณ์ Thomas อีกครั้งเพื่อดูความเป็นไปในโปรเจค SplashPost ที่เขาทำอยู่ว่าไปถึงไหนแล้ว ส่วนใครที่อยากพูดคุยกับเขา เชื่อว่าเจอเขาไม่ยากครับตามงาน event ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ครับ…