Site icon Thumbsup

เปิดมุมมองสามคนดัง “พื้นที่” แบบไหนตอบโจทย์ความความสำเร็จ

อะไรคือนิยามความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ คำถามนี้เป็นคำถามที่ถูกถามกันมากขึ้นในยุคที่ชาว Gen Y เริ่มกลายเป็นกำลังหลักของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งคำตอบเช่น บ้านหลังใหญ่? รถหรู? อาจไม่ใช่อีกต่อไป ส่วนจะเป็น เงิน? ชื่อเสียง? บางทีอาจไม่ใช่เสียทีเดียว หากแต่คำตอบที่ใช่และบ่งบอกตัวตนของคนรุ่นใหม่ได้ดีที่สุดอาจเป็น “ความมีอิสระ – ความไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง – การได้เป็นแรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน”

“คุณต้า-รรินทร์ ทองมา” ผู้ก่อตั้ง O&B หรือ Other&Book ธุรกิจรองเท้าออนไลน์ที่มียอดขายกว่า 100 ล้านต่อปี คือผู้ที่บอกว่านิยามความสำเร็จของเธอคือ การไม่กลัวความเปลี่ยนแปลง

“ต้าไม่กลัวปัญหาที่จะเข้ามาเลย เพราะต้าสามารถปรับเปลี่ยนมุมมอง และใช้สติรับมือกับปัญหาได้ทุกรูปแบบ”

สำหรับใครที่ไม่คุ้นหน้าเธอ เราเชื่อว่าหลายท่านคงจำได้กับภาพโฆษณาใน Social Media ที่มีการนำรองเท้าบัลเลต์ 50 สีมาวางเรียงเป็นวงกลมซึ่งเป็นภาพที่สาวๆ เห็นแล้วก็อดจะเหลียวกลับมาดูอีกครั้งไม่ได้ และนั่นก็คือแบรนด์ O&B ที่เธอเป็นเจ้าของ

“มันเริ่มมาจากการตั้งคำถามกับตัวเองว่าในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง เราอยากเห็นอะไรถึงจะรู้สึกว้าวและตระการตา แต่ไม่ใช่แค่ดีไซน์ที่สวยงาม แต่ยังมีจุดขายที่แข็งแรงในด้านคุณภาพ ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีกเรื่อยๆ และเกิดการบอกต่อ”

โดยธุรกิจของเธอเริ่มต้นจากพื้นที่ขนาดเพียง 3×3 เมตรใต้โรงงานกระเป๋า กับเงินทุนไม่ถึง 1 แสนบาท วันนี้เมื่อมีความพร้อมด้านเงินทุนแล้ว คุณต้าจึงหันมาให้ความสำคัญกับพื้นที่มากขึ้น

“การที่เราตั้งเป้าหมายให้แบรนด์ไปสู่ระดับสากล เราต้องมีพื้นที่ดีๆ คอยรองรับด้วย ทั้งพื้นที่ทำงานและที่อยู่อาศัย เพราะพื้นที่และสภาพแวดล้อมภายนอกนั้นเชื่อมโยงต่อสภาพจิตใจและงานที่ออกมา”


แม้รายได้หลักจะมาจากออนไลน์ แต่คุณต้าก็ลงทุนสร้าง Showroom เพื่อส่งผ่าน Experience และตัวตนของแบรนด์ให้ลูกค้าสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น พื้นที่ที่ใช่สำหรับต้า คือพื้นที่ที่สะท้อนความเป็นตัวเรา และต้องรองรับการปรับเปลี่ยนให้เราจัดการได้ตามความต้องการ

ขณะที่คุณหมู – ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ซีอีโอธุรกิจพันล้านอย่าง OOKBEE และอีก 37 ธุรกิจที่ร่วมลงทุนใน Venture Capital นั้นมองว่า การมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้กับชีวิตเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชาว Gen Y เช่นเขาได้ดีไม่แพ้กัน

“สำหรับผมการ Control ไม่ได้หมายความว่าเราต้องลงไปนั่งทำเองทุกอย่าง ทีมงานส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ หลายๆ คนก็เก่งกว่าผมซะอีก สิ่งที่สำคัญมากคือเราจะทำยังไงให้คนเก่งๆ เหล่านี้เค้าอยากทำงานกับเรา”

“ทุกวันนี้ ผมทำหน้าที่เป็นเหมือนเชียร์ลีดเดอร์ให้กับทีมงานมากกว่า แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องรับรู้ข้อมูลให้เท่าทัน เพื่อที่จะสามารถพูดคุยกับทุกคนให้คำแนะนำทุกคนได้ โดยมีตำแหน่งหนึ่งในบริษัท ที่คอยทำกราฟผลประกอบการธุรกิจทั้งหมดที่ผมดูแลวันละหลายร้อยชาร์ตให้ผมคอยอ่าน ซึ่งผมสามารถดูข้อมูลเหล่านี้ได้ทั้งหมดผ่านแอพพลิเคชั่นในไอแพด ไม่ต้องเสียเวลาเข้าประชุมทุกวัน


โดยมุมมองของคุณหมูเห็นว่า “ในส่วนของไลฟ์สไตล์ ที่อยู่อาศัยยุคใหม่ อาจไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมีชั้นหนังสือหรือเครื่องเล่นแผ่นเพลงเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา เพราะเราสามารถเอ็นจอยกับกิจกรรมทั้งหมดได้ในมือถือเพียงเครื่องเดียว เราสามารถใช้โลกดิจิตอลมาช่วยประหยัดพื้นที่ ที่เราใช้อยู่อาศัยได้จริง มันสะท้อนให้เห็นว่าเราสามารถใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการคอนโทรลชีวิตงานและชีวิตส่วนตัวได้ และยังเปิดโอกาสให้มีพฤติกรรมใหม่ๆ ที่เราเอาไปสร้างเป็นธุรกิจได้อีกนับไม่ถ้วน”

หนุ่มคนสุดท้ายเป็นเจ้าของผลงานสถาปนิกระดับโลกอย่าง คุณวสุ วิรัชศิลป์ ผู้ก่อตั้ง VaSLab Architecture ที่มองว่า พื้นที่อย่าง Co-Working Space คืออีกหนึ่งพื้นที่ที่นำไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน และมีผลต่อความคิดสร้างสรรค์

“การนั่งทำงานอยู่แต่ในออฟฟิศอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จ” คุณวสุกล่าว “อาชีพสถาปนิก สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ Creativity ห้ามหมด ในการทำงานแต่ละครั้ง กระบวนความสำเร็จจะต้องอยู่ในทุกๆ process ตั้งแต่ตัวเอง ความสุข และจินตนาการ ซึ่งจะต้องทำจินตนาการตรงนั้นออกมาให้สามารถเป็นจริงได้”

“ผมมองว่าแรงบันดาลใจจากคนใกล้ตัว ก็สามารถช่วยสร้างผลงานระดับโลกได้ ดังนั้น ถ้าเราอยากจะเป็นที่ประสบความสำเร็จ ต้องเป็นคนที่ไม่หมกมุ่นอยู่กับตัวเอง ต้องรู้จักเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ผมเคยมั่นใจในผลงานที่ผมคิดคนเดียวว่ามันดีที่สุดแล้ว แต่พอมา Brainstorm กันแล้ว กลับพบว่ามันมีไอเดียที่มาปรับมาเสริมให้ไอเดียมันคมขึ้นได้ หรือแม้กระทั่งตอนที่ผมเป็นอาจารย์ นักศึกษาก็เข้ามาขอให้เราช่วยแนะนำการออกแบบให้ แต่พวกเขาไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วผลงานของเขาก็เป็น Inspiration ให้กับผมเหมือนกัน

สถานที่ในการทำงานก็มีผลมาก เพราะนอกจากที่ออฟฟิศแล้ว คุณวสุยังยังชอบมักออกไปนั่งทำงานตาม Co-working Space อย่าง Lounge Room ในคอนโด หรือตามร้านคาเฟ่เก๋ๆ เพราะบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และเอื้อต่อการพูดคุยมันมีส่วนช่วยให้ไอเดียดีๆ เกิดขึ้นได้

“พอเรา relax ไอเดียมันจะเข้ามาหาเราเอง ผมยังเคยสเกตช์งานบนถุงใส่แซนด์วิชมาแล้ว”

หันกลับมามองที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลายคนอาจได้ยินการปรับโฉมใหม่ของแบรนด์ Life Condominium จาก AP ที่มองกลุ่ม Target เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีเป้าหมายสร้างความสำเร็จให้กับตัวเอง และชอบหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองไปข้างหน้า จึงได้เซ็ต Position ตัวเองในฐานะ PLATFORM OF SUCCESS คอนโดที่เข้าใจและออกแบบมาเพื่อรองรับการก้าวไปสู่ความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ โดยสะท้อนผ่านภาพลักษณ์และทัศนคติของไอคอนคนยุคใหม่เพื่อสื่อสารตัวตนและ Brand Attitude ที่ชัดเจนให้กับกลุ่มเป้าหมาย

ในด้านของตัวคอนโดเองนั้น ก็นำไลฟ์สไตล์ของชาว Gen Y เข้ามาผนวกในการออกแบบที่พักอาศัยในทุกมิติ โดยมีฟังก์ชั่นสำคัญๆที่ตอบโจทย์ทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ที่จะเป็นตัวเอื้ออำนวยให้ลูกค้าก้าวไปสู่ชีวิตที่ประสบความสำเร็จได้ โดยมีพื้นที่ในรูปแบบของ Co-Working Space อีกทั้งมีการนำแอปพลิเคชันเข้าควบคุมระบบต่างๆ ในห้องพัก และพื้นที่ส่วนกลางได้แบบ Real Time ขณะที่การออกแบบพื้นที่ในห้องพักก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของชาว Gen Y ที่ไม่หยุดนิ่งอีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างหนึ่งว่า อสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์คน Gen Y ได้นั้นอาจต้องเป็น “มากกว่า” นวัตกรรมแล้วในยุคนี้

ติดตามความสำเร็จของชาว Gen Y ได้เพิ่มเติมที่ www.PlatformOfSuccess.com

บทความนี้เป็น Advertorial