Site icon Thumbsup

mediba บริษัทดูแลโฆษณาบนสมาร์ทโฟนจากญี่ปุ่น เตรียมเปิดสำนักงานในไทยกลางปีนี้

หากใครได้ติดตามข่าวใน thumbsup อยู่สม่ำเสมอ จะพบกับข่าวการเข้ามาเปิดสาขาของบริษัทจากต่างประเทศที่เกี่ยวกับธุรกิจดิจิตอลในประเทศไทยอยู่เรื่อยๆ และล่าสุด บริษัทที่เกี่ยวกับการทำโฆษณาผ่านสมาร์ทโฟนมีแผนมาปักหลักเปิดสาขาในประเทศไทยอีกหนึ่งเจ้า นั่นคือบริษัท mediba จากประเทศญี่ปุ่น

mediba เป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางด้านธุรกิจและดูแลโฆษณาบนสื่อออนไลน์และบนสมาร์ทโฟนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัท KDDI?โอเปอเรเตอร์รายใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้เริ่มขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในช่วงปลายปี พ.ศ.2554 มีการเปิดสำนักงานที่ประเทศสิงคโปร์ และต้นปีนี้ก็เพิ่งจะเปิดสำนักงานสาขาที่เกาหลีใต้

ล่าสุดบริษัทมีประกาศบนหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ?เกี่ยวกับการขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 3 ประเทศในช่วงกลางปีนี้พร้อมๆ กัน ซึ่งได้แก่ เวียดนามจะเปิดที่เมืองโฮจิมินห์ในเดือนมิถุนายน, ประเทศไทยเปิดที่กรุงเทพฯ?ในเดือนกรกฎาคม และอินโดนิเซียจะเปิดที่จาการ์ต้าช่วงกลางปีนี้

ในแต่ละสาขาที่จะเปิดขึ้นใหม่ทั้ง 3 ประเทศ จะดูแลเกี่ยวกับการสร้างและส่งเสริมการขายทางด้านเครือข่ายโฆษณาและด้านคอนเทนต์กับคู่ค้าทางธุรกิจเหมือนกันทั้งหมด โดยข้อมูลที่ตั้งของสำนักงานในกรุงเทพฯ ยังไม่มีการระบุอย่างแน่ชัดว่าจะตั้งอยู่ที่ใด รวมถึงไม่มีรายละเอียดการเปิดรับสมัครเข้าทำงาน จะมีเพียงแต่ข้อมูลของผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้จัดการประจำประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งได้แก่คุณ?Yojiro Koshi

สาเหตุการเพิ่มจำนวนสาขาอย่างรวดเร็วในต่างประเทศของ mediba เกิดจากบริษัทเห็นแนวโน้มการเติบโตเกี่ยวกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะสมาร์ทโฟนอย่าง Android และ iPhone ที่มีอัตราการใช้งานของคนทั้งโลกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง และสิ่งที่น่าสังเกตเกี่ยวกับประเทศที่ทาง mediba เลือกมาเปิดสาขา เป็นประเทศที่มีอัตราการใช้งานโทรศัพท์สมาร์ทโฟนสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทบทั้งสิ้น ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลโดย?Nielsen

น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่มาจากญี่ปุ่นที่เข้ามาขยายธุรกิจถึงในไทย และใครมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นน่าจะเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากหากสนใจร่วมงานกับบริษัทนี้

และหากทางทีมงานทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เราจะรีบเอามาบอกกับผู้อ่านทุกท่านอย่างเร็วที่สุดครับ

ที่มา: Tech In Asia,?Nielsen