Meta บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของ Facebook, Instagram และ WhatsApp ประกาศแผนการปรับลดพนักงานจำนวนประมาณ 5% หรือคิดเป็นราว 3,600 คน จากจำนวนพนักงานทั้งหมด 72,000 คน การลดจำนวนพนักงานครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่กลุ่มพนักงานที่มีผลงานต่ำกว่าเกณฑ์
Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta เปิดเผยในบันทึกภายในที่ถูกเผยแพร่ครั้งแรกโดย Bloomberg ว่า “ผมตัดสินใจยกระดับมาตรฐานการบริหารผลการปฏิบัติงาน และเร่งการปรับลดพนักงานที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น”
การปรับลดพนักงานครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอย่างรวดเร็วใน Meta โดยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายด้าน เช่น การเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงฝ่ายนโยบายไปเป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรครีพับลิกัน
รวมทั้งยังประกาศยุติโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริง (fact-checking) โดยบุคคลที่สามในสหรัฐฯ และการปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับการแสดงออกที่เกี่ยวข้องกับการเกลียดชัง เช่น Meta อนุญาตให้เนื้อหาบางประเภทที่เคยถูกแบน เช่น การเปรียบเทียบผู้หญิงเป็นสิ่งของ หรือการเรียกกลุ่ม LGBTQ+ ว่า It กลับมาอีกครั้ง
ทางด้านของ Mark Zuckerberg ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน Meta โดยอธิบายว่าเขาเริ่มดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว และแสดงความเชื่อว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการควบคุมเนื้อหามากเกินไปในอดีตทำให้ผู้ใช้งานสูญเสียความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม
ขณะนี้ Meta เผชิญกับการปรับโครงสร้างองค์กรและการปลดพนักงานจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทได้ลดจำนวนพนักงานลงกว่า 11,000 คนในเดือนพฤศจิกายน 2022 และยังมีการปรับลดเพิ่มเติมอีกในปีต่อมา
การตัดสินใจลดพนักงานในรอบล่าสุดนี้สะท้อนถึงความพยายามในการควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพเชิงกลยุทธ์ขององค์กร แม้ว่าจะเกิดคำถามเกี่ยวกับผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง Meta กับพนักงาน รวมถึงผลต่อความไว้วางใจในฐานะแพลตฟอร์มสื่อสังคม
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของ Meta จะต้องเผชิญกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการทางธุรกิจ การดูแลพนักงาน และการตอบสนองต่อกระแสสังคมที่มีความคาดหวังสูงขึ้น
ที่มา : CNN