Site icon Thumbsup

เปิดตัว “LINE Official Account” (LINE@ เดิม) คิดราคาตามจำนวนข้อความที่ส่งออก

ปรับครั้งใหญ่!! LINE ประเทศไทยเปิดตัว LINE Official Account รวมเอาบริการเดิมอย่าง LINE@ และ LINE Official เข้ามาเป็นแบรนด์เดียวกัน (เคยประกาศไว้ตั้งแต่งาน LINE Conference 2018) โดยเปลี่ยนวิธีการคิดค่าบริการใหม่ จากเดิมคิดจากจำนวนผู้ติดตาม เปลี่ยนเป็นคิดราคาตามจำนวนข้อความที่ส่งออกจากระบบแทน

เมื่อวานนี้ (18 เมษายน 2562) LINE ประเทศไทยเผยแพร่โพสต์ผ่าน LINE Developers Thailand โดยระบุว่าเป็นการประกาศ “LINE Redesign” ครั้งใหญ่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ระบบส่งข้อความทำงานได้มากขึ้น

อย่างแรกเลย คือ มีการเพิ่มโหมดในการส่งข้อความให้เลือกได้ คือ

ส่วน CMS ของ LINE Official Account จะมีการเปลี่ยนเพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้น เช่น ดูข้อมูล Report ต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น

หรือก่อนจะส่ง Broadcast Message จะสามารถ Preview ข้อความที่เรากำลังจะส่งได้เลย เป็นต้น

การย้ายบัญชี LINE@ มาเป็น LINE Official Account เสร็จสิ้นตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป หากเราล็อคอินเข้าไปในหน้าแอดมิน แล้วเห็นหน้าการจัดการแบบใหม่ นั่นแปลว่าบัญชีของเราถูกเปลี่ยนแล้ว

และจากมีการออกแอปพิลเคชัน LINE Official Account (LINE OA) ออกมาให้ใช้แทนทั้งบน Android และ iOS (ออกมาเร็วๆ นี้) ส่วนแอปฯ LINE@ เดิมที่อยู่ในมือถือของเราจะใช้ได้ถึงเดือนกันยายนนี้

คิดราคาจากจำนวนข้อความที่ส่งออกจากระบบ

เริ่มจากการเปลี่ยนวิธีคิดจำนวนข้อความที่ Broadcast ใหม่หมด เดิมแพ็คเกจจ่ายรายเดือนที่คิดจากฐาน Followers หลังจากนี้จะเปลี่ยนมาคิดจาก 1 ข้อความที่ส่งไป แล้วมี Target Reach (คือ Follower ที่ไม่บล็อกและใช้งาน LINE ประจำ) 1 คน ก็จะถือว่าเป็น 1 ข้อความ (1 ข้อความ = 5 Bubbles)

ซึ่งการเปลี่ยนวิธีคิดการคำนวณข้อความ ก็ทำให้มีการปรับราคาแพ็คเกจการส่งด้วย โดยมี 3 แพ็คเกจ คือ

วิธีการคิดราคาของข้อความส่วนเกินในแพ็คเกจ Pro จะเป็นอัตราแบบหลดลั่นลง เมื่อมีการส่งข้อความมากขึ้น

ซึ่งข้อความที่เก็บเงิน คือข้อความแบบ Push Message คือการที่เราให้ Chatbot หรือเราส่ง (Broadcast) ข้อความไปยังคนที่ต้องการผ่านตัว CMS โดยการส่ง 1 ข้อความมีได้สูงสุดถึง 5 Bubbles

ส่วน Reply Message คือมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับ LINE Chatbot ที่ถูกส่งมาจากผู้ใช้ เช่น มีการส่งข้อความเข้ามา หรือ ผู้ใช้ทำการ Add Chatbot เป็นเพื่อน หรือผู้ใช้เป็นส่งข้อความทักมาหา Account เราก่อน แล้วเราตอบแบบ 1-on-1 และตอบผ่าน CMS เจ้าของ LINE Official Account จะไม่ต้องเสียเงินแต่อย่างใด

ส่วน Premium ID (ตั้งชื่อ LINE ของเราเป็นชื่อแบรนด์ตัวเอง เช่น @linecafe) จะยังมีเหมือนเดิม สามารถจ่ายเงินได้เพียง 444 บาทต่อปี ส่วนบัญชี LINE เพื่อธุรกิจมีทั้งหมด 3 แบบเหมือนเดิม

ลงทุนแทนประกาศยุติใช้ LINE@

ส่วนเว็บไซต์และเพจด้านธุรกิจ-การเงิน-การลงทุนอย่าง ‘ลงทุนแมน’ ประกาศยุติใช้ LINE@ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป

“สิ่งที่จะกระทบหนักสุดคือ ผู้ทำคอนเทนต์ขนาดกลางถึงขนาดเล็กที่มีผู้ติดตามมาก และไม่ได้ขายสินค้าอะไรในนี้ จะทำให้เขาไม่กล้าส่งข้อความอะไรเลย” ลงทุนแมน กล่าว “และนั่นก็เป็นที่มาของการประกาศในครั้งนี้”

ส่วนใครที่อยากติดตามลงทุนแมน ยังสามารถติดตามได้ผ่าน Facebook, Twitter, Instagram และแอปพลิเคชันที่เป็นแพลตฟอร์ม Social Media ด้านคอนเทนต์ที่ลงทุนแมนพัฒนาอย่าง Blockdit

“สำหรับคนทำธุรกิจโดยใช้ LINE@ ลองศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลองคำนวณราคาที่จะต้องจ่ายต่อเดือนกันดีดี รับรองว่าถ้าเรามีผู้ติดตามมาก เราอาจจะต้องร้องจ๊าก” ลงทุนแมนกล่าวปิดท้าย

ที่มา : LINE Developers Thailand และ LINE for Business