Site icon Thumbsup

อีก 2 ปี รัสเซียจะ block ทุกบริการออนไลน์ที่ไม่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ไว้ในประเทศ

russia
ถือเป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องกับวงการบริการออนไลน์ทุกประเภทควรรู้ นั่นคือรัฐสภารัสเซียได้ผ่านร่างกฏหมายใหม่ที่บังคับให้ทุกบริษัทที่ให้บริการผ่านเว็บไซต์หรือ web service ต้องตั้งเซิร์ฟเวอร์เก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประชาชนไว้ในดินแดนรัสเซียทั้งหมด โดยขีดเส้นปี 2016 เป็นกำหนดปิดกั้นหรือ block ไม่ให้ชาวรัสเซียใช้บริการออนไลน์ที่ไม่ได้เก็บข้อมูลในประเทศอย่างเด็ดขาด ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับประเทศอื่นในอนาคต

สำนักข่าว AFP รายงานว่ารัฐสภารัสเซียลงมติผ่านร่างกฎหมายนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่าร่างกฏหมายนี้ถือเป็นการผลักดันให้บริษัทผู้ให้บริการออนไลน์ทุกค่ายหันมาย้ายสถานที่ตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์มาไว้ในดินแดนรัสเซีย เพื่อให้ข้อมูลของประชาชนรัสเซียทุกคนถูกเก็บไว้ที่ประเทศบ้านเกิด ก่อนที่จะเสี่ยงถูกปิดกั้นไม่ให้ประชาชนรัสเซียใช้บริการ

รายงานจาก AFP ระบุว่ารัฐสภารัสเซียขีดเส้นว่าจะลงดาบปิดกั้นบริการที่ไม่จัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้รัสเซียตั้งแต่เดือนกันยายน 2016 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปเพื่อความปลอดภัยจากความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมหรืออาชญากรรมที่ไม่คาดฝัน

นักวิเคราะห์มองความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของรัสเซียว่าจะทำให้รัฐบาลรัสเซียสามารถควบคุมบริการออนไลน์ได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติที่ให้บริการประชาชนในวงกว้างทั้ง Facebook, Twitter และ Google รวมถึงทุกบริการออนไลน์ที่มีสำนักงานหลักอยู่นอกรัสเซีย ดังนั้นการผลักดันให้ทุกบริษัทข้ามชาติหันมาตั้งเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ในรัสเซีย ย่อมทำให้การบังคับใช้กฏหมายเพื่อเรียกดูข้อมูลของชาวออนไลน์ทำได้สะดวกมากขึ้น

ไม่เพียงประโยชน์ในการควบคุมบริษัทข้ามชาติ นักสังเกตการณ์มองว่าร่างกฏหมายนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมออนไลน์สัญชาติรัสเซียเอง ทั้ง Mail.ru ที่เป็นคู่แข่งของ Gmail หรือ Yandex เสิร์ชเอนจิ้นคู่แข่ง Google รวมถึง VKontakte เครือข่ายสังคมที่ท้าชน Facebook รวมถึงบริการอื่นๆที่จะได้รับความเท่าเทียมในการปฏิบัติมากขึ้น

ข่าวการผ่านร่างกฏหมายนี้เกิดขึ้นราว 1 สัปดาห์หลังจากรัสเซียตกเป็นข่าวว่ากำลังพัฒนาระบบประมวลผลหรือ microprocessor ของตัวเอง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้งานแทนชิปจากบริษัทต่างชาติอย่าง Intel หรือ AMD ทั้งหมดนี้ไม่เพียงสามารถรักษาดุลการค้าในประเทศไว้ แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับคอมพิวเตอร์ของชาวรัสเซียด้วย ท่ามกลางนักวิเคราะห์บางรายที่มองว่ารัสเซียอาจกำลังสานต่อสงครามเย็นกับสหรัฐฯก็ได้

ที่มา : VentureBeat