Site icon Thumbsup

6 ปัจจัยที่จะช่วยให้เว็บไซต์ทำ SEO ได้ผลในปี 2013

SEOWB-SEO-glossary-590-300-1
ภาพจาก http://seo.artnanastudio.com/

SEO (Search Engine Optimization) หรือการทำให้เว็บไซต์ติดอยู่ในอันดับต้นๆของเสิร์ชเอนจินที่เราคุ้นเคยกันดียังคงเป็นรูปแบบในการทำการตลาดที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเว็บไซต์ Seomcompany.com ได้รวบรวม 6 ปัจจัยสำคัญในการทำ SEO ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนสามารถทำ SEO อย่างได้ผลในปีนี้

ปัจจัยแรกในการทำ SEO ที่เว็บไซต์ Seomcompany.com นำเสนอ คือคุณภาพของเนื้อหา (Quality of Content) เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา การจัดอันดับของเสิร์ชเอนจินในปี 2013 เน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหามาก่อนเป็นอันดับหนึ่ง โดยข้อมูลที่นำเสนอต้องเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์ มีคุณค่า และมีเอกลักษณ์แตกต่างจากคนอื่น

ปัจจัยต่อมา คืออันดับและชื่อเสียงของนักเขียน (Author Rank) การสำรวจพบว่าข้อมูลนักเขียนนับว่ามีผลโดยตรงต่อการแสดงผลการค้นหาในเสิร์ชเอนจิน เหตุผลคือการที่นักเขียนมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก จะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยการันตีถึงคุณภาพของเนื้อหาที่นำเสนอ รวมไปถึงยังเสริมให้เว็บไซต์ที่ดูมีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้เนื้อหาที่ถูกนำเสนอจากนักเขียนที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ยังถือว่าเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ที่บุคคลหรือเว็บไซต์อื่นไม่สามารถลอกเลียนแบบได้

ปัจจัยที่ 3 คือการรองรับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ (Mobile Response) ถึงแม้ว่าการใช้งานโทรศัพท์มือถือจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเสิร์ชเอนจิน แต่ในยุคดิจิตอลโทรศัพท์มือถือกลายมาเป็นช่องทางใหม่ในการเสิร์ชหาข้อมูลต่างๆ โดยล่าสุดการเสิร์ชหาข้อมูลผ่านมือถือคิดเป็นสัดส่วนถึง 16% ของยอดการเสิร์ชทั้งหมด ซึ่งการที่เว็บไซต์สามารถรองรับการใช้งานบนมือถือได้นั้น ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสในการค้นหาและเข้าถึงเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น

ปัจจัยที่ 4 คือการทำการตลาดด้วยเนื้อหาหรือ Content Marketing ปกติแล้ว Content Marketing มักถูกใช้เพื่อดึงดูดความสนใจให้คนเข้ามาในเว็บไซต์ผ่านองค์ความรู้และข้อมูลน่าสนใจ การสำรวจพบว่าปี 2013 เป็นปีที่ Content Marketing เริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำ SEO เพิ่มมากขึ้น และเว็บไซต์ที่ทำ Content Marketing หลายแห่งมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และควรค่าแก่การแสดงผลไว้ที่หน้าแรกเสิร์ชเอนจิ้น

ปัจจัยที่ 5 คือการระบุตำแหน่งหรือสถานที่ (Localization) ผลการสำรวจในช่วงหลายปีที่ผ่านมาระบุว่า การค้นหาข้อมูลแบบเฉพาะเจาะจงหรือแบบระบุตำแหน่งสถานที่คิดเป็นสัดส่วนถึง 40% จากยอดการค้นหาทั้งหมด ซึ่งส่งผลทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญโดยการนำข้อมูล เช่น Map data และรีวิวต่างๆ มารวมไว้ภายในเว็บไซต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานเสิร์ชเอนจินสามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น

ปิดท้ายด้วย Social Signals ปัจจัยที่ 6 ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ทำ SEO อย่างได้ผลในปีนี้คือสถิติด้านการใช้งานโซเชียลมีเดีย เช่น จำนวนการ Share, ปริมาณการ Like, ยอดส่งต่อ Retweet และออกเสียงให้คะแนน +1S โดยสัญลักษณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงคุณภาพและความนิยมของเนื้อหาที่ถูกนำเสนอ ซึ่งจำนวนของ Social Signals นับว่ามีผลอย่างมากต่อการจัดอันดับของเสิร์ชเอนจินในปี 2013

ที่มา : Visual.ly