ในโลกของการตลาดที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การสร้าง ประสบการณ์ กลายเป็นอาวุธสำคัญที่แบรนด์และประเทศต่าง ๆ นำมาใช้ดึงดูดเม็ดเงินและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจปี 2568 ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตแบบชะลอตัวเพียง 1.5% ท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้าน การขยับตัวครั้งใหญ่ของภาครัฐผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ในการสนับสนุนเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Tomorrowland จึงเป็นสัญญาณที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ภาพจาก Tomorrowland
Tomorrowland Thailand เริ่มเมื่อไหร่ ที่ไหน?
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้อนุมัติการส่งเสริมการลงทุนให้กับ บริษัท วีอาร์วัน.เวิลด์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างไทยและเบลเยียม เพื่อจัดงาน Tomorrowland Thailand มหกรรมดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDM ระดับโลกครั้งแรกในไทยและเป็นที่แรกในเอเชีย
รายละเอียดสำคัญที่นักการตลาดและผู้ประกอบการต้องจดลงตารางคือ
- วันเริ่มจัดงาน: ครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2569
- สถานที่: Wisdom Valley จังหวัดชลบุรี
- ระยะเวลา: จัดต่อเนื่อง 3 วัน
- ขีดความสามารถในการรองรับ: ผู้ชมสูงสุด 50,000 คนต่อวัน
- กลุ่มเป้าหมาย: คาดว่าจะเป็นชาวต่างชาติกว่า 60%
พลังของ Soft Power และตัวเลขเศรษฐกิจ 21,000 ล้านบาท
นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ ประเมินว่าโครงการนี้จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมไม่ต่ำกว่า 21,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 5 ปีของการจัดงาน ตัวเลขนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเมื่อพิจารณาจากฐานแฟนคลับของ Tomorrowland ทั่วโลก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและพร้อมออกเดินทางเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ
การเข้ามาของ Tomorrowland ไม่ได้มาแค่เสียงเพลง แต่มาพร้อมกับ Tomorrowland Academy โครงการถ่ายทอดองค์ความรู้และมาตรฐานการจัดงานระดับสากลสู่บุคลากรไทย ซึ่งจุดนี้เองที่จะช่วยยกระดับศักยภาพของคนไทยในอุตสาหกรรมอีเวนต์และบริการให้ก้าวสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง
บีโอไอให้อะไรบ้าง?
หนึ่งใน Pain Point ใหญ่ของการจัดงานระดับโลกในไทยคือเรื่องกฎระเบียบและภาษี ซึ่งบีโอไอได้เข้ามาช่วย ปลดล็อก อย่างเป็นรูปธรรมผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการจัดงานมหกรรมนานาชาติ
- สิทธิประโยชน์ด้านภาษี: ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์จัดการแสดงที่นำเข้ามาใช้ชั่วคราว
- ความสะดวกด้านบุคลากร: อำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) สำหรับศิลปินและทีมงานต่างชาติผ่านศูนย์ One Stop Service
- เกณฑ์การส่งเสริม: ต้องเป็นงานใหญ่ที่มีเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทต่องาน
เมื่อมองย้อนกลับไปที่ข้อมูลของเอเจนซี่ต่าง ๆ ที่ระบุว่าสื่อดิจิทัลและสื่อนอกบ้านยังคงเติบโต การจัดงานในพื้นที่ชลบุรีซึ่งเชื่อมโยงซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงเทพมหานครจะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าผ่านสื่อเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่ากลุ่ม Gen Z และ Gen Y คือกลุ่มที่กล้าลองและพร้อมใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเอง กลุ่มคนเหล่านี้คือ Target หลักของเทศกาลดนตรีระดับโลก ขณะที่กลุ่ม Gen Horizon ที่มีกำลังซื้อสูงและมองหาประสบการณ์ที่เข้าใจในตัวตนของพวกเขา ก็เป็นอีกกลุ่มที่แบรนด์ไม่ควรละเลยในการทำตลาดแฝงไปกับงานเฟสติวัลนี้
Thumbsup มองว่า การที่ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ Tomorrowland เป็นที่แรกในเอเชีย คือชัยชนะครั้งสำคัญในการประกาศตัวเป็น Festival Hub นี่คือโอกาสทองของแบรนด์ไทยที่จะได้เรียนรู้มาตรฐานการทำงานระดับโลก และหาช่องทางเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงซึ่งจะหลั่งไหลเข้ามาในประเทศ
กุญแจสำคัญไม่ได้อยู่ที่การจัดงานให้จบไปใน 3 วัน แต่อยู่ที่การสร้าง Ecosystem ต่อเนื่องหลังจากนั้น ทั้งเรื่องการพัฒนาบุคลากรผ่าน Academy และการกระจายรายได้สู่ธุรกิจท้องถิ่น โรงแรม และร้านอาหาร หากแบรนด์สามารถเชื่อมโยง คุณค่า ของตัวเองเข้ากับ ความกล้า ของผู้บริโภคแต่ละเจเนอเรชันที่มารวมตัวกันในงานนี้ได้ นี่จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสร้างการจดจำได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
อ่านเพิ่มเติม



