ภาพของ “มนุษย์เงินเดือน” ที่มีความมั่นคงทางการเงิน อาจเป็นเพียงภาพลวงตาในยุคเศรษฐกิจผันผวน เมื่อ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากโปรแกรมตรวจสุขภาพทางการเงิน ttb financial health check ที่สำรวจกลุ่มตัวอย่างมนุษย์เงินเดือนในไทยกว่า 96,000 คน วาดภาพสถานการณ์ที่น่ากังวล โดยชี้ว่า 8 ใน 10 คน หรือ 82% มีภาระหนี้สิน ทำให้พวกเขากลายเป็น “เดอะแบกตัวจริง” ของการเงินยุคนี้ ที่พร้อมสะดุดล้มได้ทุกเมื่อ
สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนถึงพฤติกรรมการใช้เงินและ “ภูมิคุ้มกันทางการเงิน” ที่อยู่ในระดับต่ำอย่างน่าใจหาย

เจาะลึกพฤติกรรม “ภูมิคุ้มกันต่ำ”
ข้อมูลจากการสำรวจระหว่างเดือนสิงหาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2568 ได้ฉายภาพพฤติกรรมทางการเงินของมนุษย์เงินเดือนที่น่าเป็นห่วงในหลายมิติ
- หนี้ท่วม: 82% มีภาระหนี้ โดย 53% เป็นหนี้ส่วนบุคคลและบัตรเครดิต ซึ่งเป็นหนี้เพื่อการบริโภค
- พฤติกรรมจ่ายหนี้สุ่มเสี่ยง: 49% ของผู้มีหนี้ มีพฤติกรรมจ่ายขั้นต่ำหรือผิดนัดชำระ และที่น่ากังวลคือ 65% ของกลุ่มที่ “ยังจ่ายไหว” ก็ยังเลือกจ่ายเพียงขั้นต่ำ ทำให้ต้องเผชิญกับดอกเบี้ยทบต้นและติดอยู่ในวงจรหนี้ไม่รู้จบ
- ขาดเงินออม: 77% มีเงินออมน้อยกว่า 10% ของรายได้
- ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉิน: 70% มีเงินสำรองฉุกเฉินไม่เพียงพอ (มีสำรองไว้ใช้จ่ายน้อยกว่า 6 เดือน)
- ปราการความคุ้มครองต่ำ: 80% ไม่มีความคุ้มครองที่เพียงพอหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง
The Paradox: รายได้สูง…แต่ไม่รอด ในมุมมอง ttb
หนึ่งใน Insight ที่น่าสนใจที่สุดคือ ปัญหาหนี้สินและสภาพคล่องไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลางเท่านั้น
ข้อมูลพบว่า 32% ของผู้ที่มีรายได้เกิน 100,000 บาทต่อเดือน ยังคงใช้ชีวิตแบบ “เดือนชนเดือน” และยิ่งไปกว่านั้น 16% ในกลุ่มนี้มีรายจ่ายมากกว่ารายได้
สิ่งนี้สะท้อนว่า “รายได้สูง” ไม่ได้แปลว่า “ความมั่นคงทางการเงินสูง” หากขาดการวางแผนและการบริหารจัดการหนี้สินที่มีประสิทธิภาพ ความไม่มั่นคงทางการเงินจึงเกิดขึ้นได้กับทุกระดับรายได้

ฟันเฟืองเศรษฐกิจที่กำลังเสี่ยง
นายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่มงาน Data และ Analytics ทีเอ็มบีธนชาต ให้ภาพว่า มนุษย์เงินเดือนในไทยมีกว่า 12.5 ล้านคน คิดเป็น 30% ของแรงงานทั้งหมด และเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ภาษีบุคคลธรรมดามากถึง 90% (กว่า 2.7 แสนล้านบาทต่อปี) ถือเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ
“แต่วันนี้พวกเขากลับต้องแบกรับความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งภาระหนี้ การขาดเงินออมและเงินฉุกเฉิน รวมถึงความคุ้มครองที่ไม่เพียงพอ” นายนริศกล่าว “สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า การเร่งสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน การวางแผน และการเลือกเครื่องมือทางการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน”
ttb ชู 4 โซลูชัน “แบ่งเบาภาระ” เดอะแบก
จากปัญหาที่ค้นพบ ttb จึงได้วางกลยุทธ์เพื่อเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระให้กับมนุษย์เงินเดือน
นางณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย ประธานกลุ่มกลยุทธ์ลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ttb พร้อมช่วยแบ่งเบาภาระของ “เดอะแบกตัวจริง” ผ่านโซลูชันทางการเงินที่ครอบคลุม 4 มิติสำคัญ
- แบ่งเบาภาระหนี้: มุ่งเน้นการรวบหนี้ (Debt Consolidation) เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและค่างวดต่อเดือน ผ่านสินเชื่อบ้าน-รถ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล รวมถึงโปรแกรม “ผ่อนดีมีรางวัล” สำหรับลูกค้าที่ชำระดี และสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์สำหรับพนักงานบัญชีเงินเดือนทีทีบี (ดอกเบี้ยต่ำสุด 7.99% ต่อปี)
- แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย: เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น บัญชี ttb all free ที่ฟรีค่าธรรมเนียม และบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ttb ME save ที่ให้ดอกเบี้ยโบนัสเมื่อฝากเพิ่ม (โดยพนักงานบัญชีเงินเดือนทีทีบีจะได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าทั่วไป 0.2%)
- แบ่งเบาความกังวล: สร้างความคุ้มครองพื้นฐานที่เข้าถึงง่าย เช่น ความคุ้มครองอุบัติเหตุฟรีจากบัญชี ttb all free และโซลูชันประกันสุขภาพที่ออกแบบมาให้ใช้ร่วมกับสวัสดิการของบริษัทเพื่อลดค่าเบี้ย (เช่น ประกัน ทีทีบี เหมา เหมา อัลตร้า แคร์)
- แบ่งเบาภาระภาษีและความเสี่ยงในอนาคต: คัดสรรกองทุนและประกันเพื่อการลดหย่อนภาษีที่ตอบโจทย์ความต้องการของมนุษย์เงินเดือนแต่ละกลุ่ม
นอกจากผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ttb ยังเดินหน้าเสริมความรู้ทางการเงินผ่านช่องทางต่างๆ เช่น fintips, คอร์สออนไลน์ และบริการโค้ชปลดหนี้
“ทีทีบีเชื่อว่าความมั่นคงทางการเงินไม่ใช่เรื่องของรายได้เพียงอย่างเดียว แต่คือการมีเครื่องมือและภูมิคุ้มกันทางการเงินที่รอบด้าน” นางณัฐวรรณกล่าวปิดท้าย “ธนาคารจึงมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันที่ครบทุกมิติ เพื่อช่วยให้มนุษย์เงินเดือนก้าวข้ามข้อจำกัด และมีชีวิตการเงินที่ดีขึ้น”

อ่านเพิ่มเติม



