ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ตัวเลขล่าสุดจากแดนมังกรได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญ เมื่อจีนสามารถสร้างสถิติการเกินดุลการค้าได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้จะต้องเผชิญกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกาก็ตาม สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวครั้งใหญ่ของห่วงโซ่อุปทานโลก โดยมี “อาเซียน” เป็นตัวละครหลัก และไทยกำลังอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
บทความนี้ Thumbsup สรุปข้อมูลสำคัญจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เพื่อวิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นและสิ่งที่จะตามมาในปีหน้า

ปรากฏการณ์ “เบนเข็ม” สู่ตลาดใหม่: สหรัฐฯ กีดกัน จีนหันซบอาเซียน
ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2568 (2025) ภาคการส่งออกของจีนเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของจีนกับทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.07 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
เบื้องหลังตัวเลขมหาศาลนี้ เกิดจากการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับมาตรการกีดกันทางการค้า หลังจากที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในระดับสูงเมื่อช่วงต้นปี 2025 ทำให้การส่งออกสินค้าจากจีนไปสหรัฐฯ หดตัวลง จีนจึงแก้เกมด้วยการกระจายสินค้าไปยังตลาดอื่นเพื่อชดเชยส่วนที่หายไป โดยมีเป้าหมายหลักคือภูมิภาคอาเซียน
เจาะลึกตัวเลข: ไทยและเวียดนาม คือ “ด่านหน้า” ที่เติบโตสูงสุด
ข้อมูลระบุชัดเจนว่าการส่งออกของจีนมายังอาเซียนขยายตัวสูงมาก โดยเฉพาะสองประเทศหลักที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ได้แก่:
- เวียดนาม: ยอดส่งออกขยายตัวสูงถึง 22.7% (YoY)
- ไทย: ตามมาด้วยการขยายตัว 20.4% (YoY)
สินค้าที่จีนส่งออกมายังประเทศเหล่านี้ไม่ใช่สินค้าทั่วไป แต่เป็นกลุ่ม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และโทรศัพท์ ซึ่งประเด็นนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมการส่งออกผ่านประเทศที่สาม (Transhipment) เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ นั่นเอง

Outlook 2026: 4 ความท้าทายที่ต้องระวัง
แม้ปี 2025 จะเป็นปีที่ตัวเลขดูสวยหรู แต่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าในปี 2569 (2026) ภาคการส่งออกของจีนมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลง โดยต้องเผชิญกับคลื่นลมแรงจาก 4 ปัจจัยหลัก ดังนี้:
- กับดักฐานสูง (High Base Effect): เนื่องจากการเร่งส่งออกในปี 2568 ทำไว้สูงมาก ทำให้การเติบโตต่อเนื่องในปีถัดไปทำได้ยากขึ้น
- ความไม่แน่นอนเรื่องภาษี Transhipment: การใช้ประเทศที่สามเป็นทางผ่านอาจทำได้ยากขึ้น หากมีการเก็บภาษี Transhipment ซึ่งจะกดดันการส่งออกผ่านไทยและเวียดนามโดยตรง
- เส้นตายข้อตกลงการค้า: ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และจีน กำลังจะสิ้นสุดอายุลงในเดือนพฤศจิกายน 2569 ซึ่งจะสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดอีกครั้ง
- มาตรา 232 ขยายวงกว้าง: การบังคับใช้ภาษีผ่านเงื่อนไขความมั่นคง (มาตรา 232) มีแนวโน้มจะครอบคลุมกลุ่มสินค้าที่กว้างขึ้น
บทสรุป: การที่ยอดนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยพุ่งสูงขึ้น เป็นดาบสองคมที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณา แม้จะดูเหมือนมีเม็ดเงินสะพัด แต่ความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้า (Rules of Origin) และมาตรการภาษีใหม่ๆ ในปี 2026 เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจไทยต้องเตรียมแผนรับมืออย่างรัดกุม



