ช่วงนี้อาจจะได้เห็นบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้พอสมควรครับ กับแวดวง Digital Publishing เพราะผมสนใจในเรื่องนี้ และกำลังติดตามข่าวสารด้านนี้ วันนี้มาว่ากันอีกเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ว่ากันว่า เป็นอุปสรรคในการที่จะก้าวเดินไปสู่โลกดิจิตอลของบรรดาสำนักพิมพ์ ที่จะเปลี่ยนจากหนังสือในรูปแบบของ Hard Copy เป็นกระดาษ ไปเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกสั้นๆ กันติดปากว่า “eBook” นั่นเอง…

เชื่อว่าเพื่อนๆ thumbsup’er หลายท่านอาจจะเคยสังเกตกันว่า เราได้เห็นนิตยสารหลายๆ ต่อหลายหัว หลายเล่ม บนอุปกรณ์พกพาอย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แต่บนแผงหนังสือก็ยังมีหนังสืออีกหลายๆ เล่ม ที่ยังคงปักหลักอยู่ในตลาดสิ่งพิมพ์แบบเดิมๆ อยู่ คำถามเกิดขึ้นมาทันทีครับว่า “อะไรกันแน่ คือสาเหตุที่พวกเขาเหล่านั้น ยังคงไม่กระโดดเข้ามาในธุรกิจดิจิตอล” ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็สรุปได้จากภาพประกอบด้านล่างนี้เลยครับ

ภาพประกอบนี้เป็นผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการด้านสิ่งพิมพ์รูปแบบเดิมๆ ถึงปัจจัยที่มีผลในการเปลี่ยนรูปแบบการจัดจำหน่ายหนังสือของพวกเขา ไปอยู่ในรูปแบบของสื่อดิจิตอล

โดยผลสำรวจดังกล่าวมากถึงร้อยละ 91 จากกลุ่มตัวอย่างสำนักพิมพ์กว่า 366 แห่ง กล่าวว่าการลงทุนในเม็ดเงินมหาศาล คือสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องหยุดคิดในเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน เพราะแม้ว่าการประหยัดต้นทุนในส่วนของการพิมพ์จะดูเหมือนว่าลดลง และน่าจะทำให้สำนักพิมพ์เกิดความสนใจในการเปลี่ยนตัวเอง แต่ต้องไม่ลืมว่า พวกเขาจะต้องลงทุนในเครื่องมือต่างๆ รวมถึงบุคคลากรที่จะเป็นคนสร้างคอนเทนต์เหล่านี้ มากพอสมควร

การฝากหนังสือขายบน iBook Store ของทาง Apple เองนอกจากจะโดนหักค่าหัวคิวไปพอสมควรแล้ว คุณยังต้องคิดถึงเรื่องของพื้นที่ในการจัดเก็บหนังสือดิจิตอลเหล่านี้ ซึ่งเท่าที่เคยทราบ แมกกาซีนในรูปแบบดิจิตอลหนึ่งเล่ม ก็มีขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 300-500 MB เลยทีเดียว แถมยังต้องเสียค่าลิงค์ในการโอนถ่ายข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ไปยังลูกค้าอีกด้วย

ส่วนอุปสรรครองลงมา ก็ประกอบไปด้วยเรื่องของการขาดความรู้ความสามารถในการพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ การขาดข้อมูลเพียงพอต่อระบบสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิตอล รวมไปถึงการที่สำนักพิมพ์ส่วนมาก ยังมีคำถามคาใจถึงความชัดเจนในธุรกิจด้านนี้อยู่อีกด้วย

ในความคิดเห็นของผู้เขียน:?เมื่อเห็นตัวเลขและปัจจัยจากทางสำนักพิมพ์ ผมคิดถึงข้อหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นคำถามในใจว่า นี่จะเป็นปัญหาหลักหรือไม่ กับเรื่องของ “ความปลอดภัยในตัวคอนเทนต์” เนื่องจากมีความกังวลของสำนักพิมพ์เกี่ยวกับการถูกลักลอบ หรือละเมิดในลิขสิทธิ์ แต่ผู้เขียนคิดว่าแม้จะเป็น Hard Copy เองก็ตาม ก็ยังอาจจะพบปัญหาเหล่านี้ได้อยู่ดี เพราะปัจจุบันพบว่ามีความพยายามในการลักลอบ ด้วยการนำหนังสือเล่มนั้นๆ ไปสแกนแล้วบันทึกออกมาในรูปแบบดิจิตอล แล้วแจกจ่ายทั่วๆ ไป

ดังนั้นปัญหาดังกล่าวจึงอาจจะไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสิ่งพิมพ์ครั้งนี้ หากแต่การลงทุนมหาศาลใน Infrastructure ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจ ไม่แน่ว่าการเลือกที่ใช้บริการบริษัท Third Party ในการจัดการสร้างคอนเทนต์ และระบบ Book Shelf อาจจะเป็นทางออกหรือไม่ เพราะนอกจากผลสำรวจข้างต้น ยังมีการระบุว่า กว่าร้อยละ 60 ของกลุ่มตัวอย่าง อาจจะเลือกใช้วิธีการนี้แทนการลงทุนทั้งระบบแทน ก็เป็นได้ครับ

10 years experience in telecommunication business, specialize in customer experience management and call center operation. Rungroj also passionate about how social technologies shape human interaction via social media. He is a co-author of "Marketing 2.0 and 2.1 - Social Media Marketing" and author of many best-selling mobile phone guidebook in Thailand.