Writer: 
Share
วันนี้นำสถิติการใช้งานสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมาให้อ่านกันอีกแล้วค่ะ โดยคราวนี้เป็นการไปเจาะดูกลุ่มเฉพาะกันบ้างดีกว่านั่นคือกลุ่มแม่บ้านที่ในรายงานนี้จะเรียกว่า “Smartphone Moms” ที่มีคุณลูกๆ กันแล้ว ใครว่าคุณแม่บ้านนั้น Low Tech (ไม่จิ๊งไม่จริงค่ะ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา:P) Greystripe บริษัทด้าน Mobile Advertising ได้ออกมาเผยผลการสำรวจในสหรัฐอเมริกาช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2011 โดยมุ่งไปที่คุณแม่บ้านที่ใช้ iPhone และ Android ค่ะ
- โดยผลการสำรวจเผยออกมาว่าคุณแม่บ้านนั้นใช้สมาร์ทโฟนเพื่อการ Shopping สูงถึงกว่า 66% เลยทีเดียว, ?45% มีการใช้เพื่อค้นหาร้านค้าต่างๆ ในระแวกใกล้ๆ , 36% นั้นจะใช้ apps ไม่ก็บริการที่เปรียบเทียบราคาสินค้า, 31% ค้นหาสินค้าใหม่ๆ และจะสังเกตเห็นได้ว่ากว่า 21% จะมีการดาวน์โหลดคูปองมาใช้งาน
- และเมื่อพวกเธอไปถึงร้านค้าแล้วสิ่งที่เธอมักจะทำนั่นก็คือ เปิดดู Shopping list สูงถึง 32% ?และแอบเห็นอีก 10% มีการค้นหาข้อมูลโภชนาการ (คงห่วงครอบครัวว่าจะได้รับประโยชน์จากสารอาหารเพียงพอหรือไม่ ^^”)
- กว่า 67% ยอมรับว่าพวกเธอตัดสินใจซื้อสินค้าโดยมาจากเพื่อนและครอบครัวแนะนำ และมีกว่า 55% ที่ออกมายอมรับว่าโฆษณามีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของพวกเธอ
- อีกตัวเลขนึงที่น่าสนใจมากๆ คือกว่า 57% นั้นจะใช้คูปองส่วนลดที่ได้มาในการซื้อสินค้าทุกครั้ง
บทสรุปอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- กลุ่ม “Smartphone Moms” 99% ออกมากล่าวว่าเธอเป็นผู้ตัดสินใจหลักในการซื้อของใช้ในบ้าน (อันนี้ก็น่าจะชัวร์อยู่แล้ว)
- การโฆษณานั้นถือว่ามีอิทธิพลกับพวกเธอค่อนข้างมากไม่ว่าจะเป็นคุณแม่วัยไหนก็ตามโดยกว่า 91% พวกเธอรู้สึกชอบ Free apps ที่มีโฆษณามาด้วยมากกว่า apps เสียเงินที่ไม่มีโฆษณา พูดง่ายๆ ก็คือยอมเอาของฟรีดีกว่าเสียเงินเพื่อแลกกับแค่ไม่มีโฆษณานั่นเอง
- แน่นอนว่าคุณแม่วัยสาว (18-44ปี) จะมีการใช้งานสมาร์ทโฟนมากกว่ากลุ่มคุณแม่อายุมาก (45ปี+) ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานด้าน Mobile Banking, Social Network, Shopping และดาวน์โหลดคูปอง
แม้ข้อมูลนี้จะเป็นผลสำรวจที่สหรัฐอเมริกาแต่ก็ค่อนข้างเชื่อว่าอีกหลายประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีพอสมควรก็น่าจะมีเทรนด์การใช้งานสมาร์ทโฟนของกลุ่มแม่บ้านในทิศทางที่ไม่แตกต่างกันมาก เช่นแถบยุโรปหรือญี่ปุ่น แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะเหมือนกันแน่ๆ ทั่วโลกคือ ธรรมชาติการชอบของฟรีและส่วนลดยังคงอยู่แน่นอน ธุรกิจคูปองจึงได้คงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้แต่มาในรูปแบบที่แตกต่างกันนั่นเอง ^^”
ที่มา : greystripe.com
