![]()
หากจะบอกว่า เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาของการออกแบบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตบนโลกกันใหม่ก็คงไม่ผิดนัก เพราะจากบรรยากาศเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากับงานสัมมนา Digital Matters ครั้งที่ 10 ณ Link Collaboration Space ภายใต้ธีมแห่งการมองย้อนอดีต และเลือกหยิบสิ่งที่น่าจดจำแห่งปี 2017 เพื่อจะนำมันติดตัวไปด้วยสู่ปีต่อ ๆ ไปนั้น เชื่อว่าเราคงได้เห็นแล้วว่า มีหลายสิ่งที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละเล็กทีละน้อยในปีที่กำลังจะจบลงนี้ และสุดท้าย เชื่อว่ามันจะวิวัฒนาการตัวเองกลายเป็นสินค้า และบริการตัวใหม่สำหรับผู้บริโภคในอนาคตเสียด้วย
ซึ่งสิ่งที่น่าจดจำแห่งปี 2017 ในมุมของของสองแขกรับเชิญอย่างคุณศิวัตร เชาวรียวงษ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) และคุณสุธีรพันธุ์ สักรวัตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดด้านการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา มีดังต่อไปนี้ค่ะ
![]()
1. ยุคของ Sharing Economy ว่าใหญ่แล้ว ยุคของ Autonomous Car น่าจะใหญ่กว่า
คุณสุธีรพันธุ์ในฐานะผู้เริ่มต้น เลือกที่จะมองการมาถึงของบริการ Ride-Sharing ที่กำลังเริ่มผนวกเข้ากับ Autonomous Car ว่าจะเป็นรูปแบบการให้บริการใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ได้อย่างมาก รวมถึงมีโอกาสต่าง ๆ ซ่อนอยู่ภายในความเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย
“เทรนด์ของ Autonomous มาแรงมาก ๆ และทำให้เราเกิดคำถามได้มากมายกับเทรนด์นี้ ที่จอดรถยังจำเป็นอยู่ไหม โชว์รูมต้องสร้างอีกหรือเปล่า คนอาจไม่ต้องการเป็นเจ้าของรถแล้ว แต่เปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบสมัครสมาชิก จ่ายเงิน 3,000 บาท แลกกับการเรียกรถอัตโนมัติมาใช้งาน 20 ชั่วโมงต่อเดือน ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ Business Model ของโลกในอนาคตจะเปลี่ยนไปหมด”
อย่างไรก็ดี ได้มีการตั้งคำถามถึงสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อย่าง “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI ด้วยเช่นกัน ว่าจะสามารถขึ้นมาควบคุม และอำนวยความสะดวกในชีวิตของมนุษย์ได้จริงหรือไม่
2. ยกหน้าที่ดูแลมนุษย์ให้ AI นั้นหนักเกินไปหรือไม่
ดร.โนริโกะ อาราอิ
ประเด็นที่ 1 มีความต่อเนื่องมาสู่ประเด็นที่ 2 เมื่อคุณศิวัตรได้ยกคลิปชิ้นหนึ่งชื่อ Todai Robot จาก TED Talk มาเปิดให้ฟังกัน โดยคลิปดังกล่าวกำลังจะสื่อว่า ความเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ในข้อ 1 ที่มี AI อยู่เบื้องหลังนั้น แท้จริงแล้ว AI มีพฤติกรรมการเรียนรู้ที่แตกต่างจากมนุษย์อยู่ไม่น้อย และรูปแบบการหาคำตอบของ AI ก็สวนทางกับวิธีประมวลผลของมนุษย์เสียด้วย นั่นจึงนำไปสู่การท้าทายว่า AI จะสามารถขึ้นมาเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ได้จริงหรือ
ซึ่งการจะถามคำถามนั้นอาจเร็วเกินไป โปรเจ็ค Todai Robot จึงนำ AI มาท้าทายว่าจะสามารถผ่านการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้ภายในปี 2020 หรือไม่ ซึ่งสิ่งที่นักวิจัยอย่างคุณโนริโกะ อาราอิ พบเพิ่มเติมก็คือ นอกจาก AI จะหาคำตอบได้เร็วและเก่งขึ้นแล้ว เด็กญี่ปุ่นที่ทำข้อสอบได้นั้นก็มีจำนวนน้อยลงอีกด้วย
![]()
นั่นจึงนำไปสู่ความท้าทายใหม่ที่ว่า ยังมีจุดใดบ้างที่มนุษย์ยังไม่แพ้หุ่นยนต์ และเราจะสามารถสร้างคนให้เก่งขึ้นเพื่อมาทำงานที่ควบคุม AI ได้จริงหรือไม่ ในสถานการณ์ดังกล่าว
“การทำงานของคนในด้านการใช้แรงงาน ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามนุษย์แพ้เครื่องจักรไปเรียบร้อย ส่วนเรื่องของสมอง วันนี้ หุ่นยนต์ก็แซงหน้ามนุษย์ไปแล้วเช่นกัน ดังนั้น ข้อแตกต่างเดียวที่หุ่นยนต์ยังทำไม่ได้ นั่นคือ ความเห็นอกเห็นใจ เพราะมันไม่มีสิ่งเหล่านี้อยู่” คุณสุธีรพันธุ์กล่าวสรุป
3. การดับลงของสื่อ (เก่า?) กับการเกิดขึ้นของสื่อ (ใหม่?)
เป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีกับการประกาศเลิกจ้างพนักงานของทีวีพูล หลังประสบภาวะขาดทุนกับการทำทีวีดิจิทัล ขณะที่เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็เกิดปรากฏการณ์ใหม่ของสื่อไทยเมื่อประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีช่องบน YouTube ที่มีผู้ติดตามทะลุ 10 ล้านคนเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับ GMM Grammy และเวิร์กพอยต์ ที่ GMM Grammy ชนะไปอย่างเฉียดฉิว

4. คนดูรายการทีวีลดลง แต่ดูรายการผ่านมือถือมากขึ้น
ข้อสามและข้อสี่มีความต่อเนื่องกัน โดยเชื่อว่าหลายคนจะสังเกตเห็นตัวเลขของ Nielsen ที่ส่งออกมาทุกเดือนเป็นเครื่องชี้วัดได้ดีว่าเม็ดเงินโฆษณากำลังจะหมุนออกจากสื่อทีวีมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งกลายเป็นจุดที่ทำให้คนทำรายการทีวีออกมาทำคลิปชวนให้ผู้บริโภค ถ้ามีเวลาว่างพอช่วยหันกลับมาดูรายการทีวีอีกครั้ง
“ความน่าสนใจของคลิปวิดีโอตัวนี้ คือ นักการตลาดนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้ดูในเรื่องเรตติ้งอีกแล้ว แต่ดูโปรไฟล์ของรายการนั้น ๆ มากกว่า มันจึงอยู่ที่การปรับทัศนคติ ปรับรูปแบบการผลิตคอนเทนต์ว่าจะปรับอย่างไรให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า” คุณสุธีรพันธ์กล่าว
5. ความสำเร็จของ “ฉลาดเกมส์โกง” – “ตราบธุลีดิน”
ภาพยนตร์เรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” จากค่าย GDH เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่นอกจากจะทำเงินในประเทศได้ไม่น้อยแล้ว ยังเป็นหนังที่บินไปโตไกลในต่างแดนแทบทุกประเทศในภูมิภาคเอเชีย ทั้งจีน (ขึ้นอันดับหนึ่ง Box Office) ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ฯลฯ ซึ่งคุณศิวัตรและคุณสุธีรพันธ์วิเคราะห์ภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ นั่นคือ การที่หนังเรื่องนี้นำเสนอประสบการณ์ร่วมที่ผู้บริโภคในเอเชียส่วนมากต่างพบเจอ นั่นคือการใช้การสอบเข้าวัดโอกาสในการประสบความสำเร็จในชีวิต
![]()
“ผมชอบเรื่องนี้เพราะมันเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า ถ้าหากเราจับจุดได้ และทำอะไรที่มันดี ๆ ขึ้นมาสักชิ้นหนึ่ง และเราทำการตลาดเป็น เราสามารถไปได้แล้ว” คุณศิวัตรกล่าว
“ถ้าหากเราย้อนไปดูฉลาดเกมส์โกง หนึ่งในความสำเร็จของหนัง GDH คือการหยิบเอา Insight ที่มันโดน ๆ มาเล่น ซึ่ง Insight ของเรื่องฉลาดเกมส์โกงนี้แรง และโดน และฐานคนดูโคตรจะเยอะ”
ด้านคุณสุธีรพันธุ์เสริมว่า “นี่ไม่ใช่หนังไทย มันคือหนังเอเชีย เพราะว่าในอดีตเรามีสอบจอหงวนใช่ไหม นั่นคือวัฒนธรรมการสอบของประเทศเอเชียที่ให้คุณค่ากับการสอบ และการสอบผ่าน และการได้คะแนนสูงมาก ซึ่งมันเป็นอารมณ์ร่วมของคนเอเชีย ที่มีการสอบ และการโกงอย่างเข้มข้นมาก ซึ่งจุดนี้ ไม่ว่าจะนักเรียนคนไหนในเอเชียดูก็โดน”
ความสำเร็จนี้ของฉลาดเกมส์โกงยังถูกโยงจากจอเงิน ไปสู่จอ YouTube เมื่อคอนเทนต์ของรายการ The Mask Singer 2 อย่างเพลง “ตราบธุลีดิน” ของหน้ากากหอยนางรม ขึ้นแท่นคลิปทั่วไปที่มีการรับชมมากที่สุดในโลกประจำปี 2017 ที่คุณสุธีรพันธ์ชี้ว่า นี่คือการหา Business Model ใหม่ ๆ ในธุรกิจที่เราอยู่ให้เจอ เพราะการดึงคอนเทนต์ขึ้นไปบน YouTube ในวันที่เวิร์กพอยต์ไม่มีอะไรจะต้องเสีย กลับทำให้พบว่า บนโลกออนไลน์นั้นมีผู้ชมรอดูอยู่เป็นจำนวนมาก และกลายเป็นความสำเร็จของเวิร์กพอยต์ในที่สุด
![]()
6. “วันคนโสด” วันแสดงพลังที่แท้ทรูของจีนแผ่นดินใหญ่
วันคนโสดเป็นอีกหนึ่งวันที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของปี 2017 โดยเป็นปีที่นักการตลาดทั่วโลกต่างจับตาถึงยอดขายว่าจะเกิดการทุบสถิติอะไรขึ้นบ้างในเมืองจีน ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึง ก็ไม่ได้ทำให้นักการตลาดผิดหวัง เมื่อยอดขายสินค้าในจีนแผ่นดินใหญ่พุ่งทะยานเป็นที่ตกตะลึงไปทั่วโลกถึงพลังการช้อปของคนจีน
หันกลับมาดูในตลาดบ้านเรา ก็มีสัญญาณบวกเช่นกันต่อวงการ E-Commerce แต่สิ่งที่ต้องเรียนรู้และนำไปปรับปรุงต่อไปคือเรื่องของระบบหลังบ้านที่บางรายอาจไม่พร้อมและเกิดเว็บล่ม ทำให้ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงได้อย่างราบรื่น
คุณศิวัตรเล่าว่า “ผมเชื่อว่าปีหน้า E-Commerce ไทยจะเตรียมตัวได้ดีกว่านี้ สำหรับแบรนด์ ผมอยากยกหลาย ๆ กรณีของแบรนด์ เช่น Xiaomi ขายได้ 11,800 ล้านหยวนใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถ้าซีอีโอของแบรนด์ต่าง ๆ มองเห็นถึงศักยภาพนี้ และใช้มันให้เกิดประโยชน์ มันจะเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพมาก”
![]()
7. สังคมไร้เงินสดกับ QR Code มาตรฐาน
ไม่ใช่ทุกประเทศที่ปรับตัวเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสดได้อย่างไร้รอยต่อ เพราะยังมีหลายประเทศที่ติดกับดักความคุ้นเคยดั้งเดิมของตัวเองจนไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ สำหรับประเทศไทย สังคมไร้เงินสดเป็นคำที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 – 4 ของปีนี้หลังการประการเปิดตัว QR Code มาตรฐานอย่างเป็นทางการ ซึ่งแขกรับเชิญทั้งสองท่านเห็นตรงกันว่า นี่คืออีกจุดเปลี่ยนที่น่าจดจำจุดหนึ่งของปีนี้เลยทีเดียว
“ทุกวันนี้ จีนและอินเดียมีการใช้ QR Code อย่างกว้างขวาง แต่ที่กำลังจะเป็นประเทศที่สามก็คือประเทศไทย ซึ่งจุดที่แตกต่างกับจีนและอินเดียคือการที่ประเทศไทยมี QR Code มาตรฐาน อีกทั้งการเข้าถึงสมาร์ทโฟนของคนไทยก็มีมากขึ้น และสัญญาณอินเทอร์เน็ตของไทยก็เข้าขั้นดี จึงเชื่อว่าสังคมไร้เงินสดน่าจะเกิดขึ้นในไทยได้ไม่ยาก” คุณสุธีรพันธ์กล่าว
![]()
8. ปรากฏการณ์ “ตูน บอดี้สแลม”
สำหรับปรากฏการณ์ก้าวคนละก้าว คุณป้อม – ศิวัตรเผยว่า “ในแวดวงการตลาด เรามักพูดกันเสมอ ๆ ว่าจากคนธรรมดา กลายเป็นดาราได้จากพลังของ Social Media แต่สำหรับกรณีของตูน บอดี้สแลมนั้น นอกจากจะไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว การออกมาวิ่งครั้งนี้ร่วมกับเพื่อน ๆ ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยได้อย่างใหญ่โตมากทีเดียว”
สิ่งที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ครั้งนี้ขึ้นได้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่ามาจากพลังของ Social Media และเทคโนโลยีที่เชื่อมคนเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งคุณป้อมมองว่า ในอนาคต ปรากฏการณ์ในลักษณะนี้จะสามารถสร้างขึ้นได้อีก ผ่านเครื่องมือทรงพลังที่ชื่อว่า Social Media นั่นเอง
Kris Snibbe/Harvard Staff Photographer
9. การกล่าว Speech ในพิธีสำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กเป็นใคร เชื่อว่าคำถามนี้ทุกคนคงทราบคำตอบกันดี แต่การกลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้งเพื่อกล่าว Speech แก่บัณฑิตที่กำลังจะจบการศึกษาในปีนี้ ได้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจและถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก กับหลาย ๆ ข้อคิดที่เขาได้ฝากไว้ ซึ่งแง่คิดที่โดนใจแขกรับเชิญของเรามากที่สุดมี 3 ข้อ ได้แก่
- การทำดีกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่จำเป็น (จริง ๆ นะ)
- หน้าที่ของคนเจเนอเรชันนี้ (Millennials) นอกจากการทำตามเป้าหมายของตัวเองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งคือการช่วยคนอื่นหา “Sense of Purpose” ของตัวเองให้เจอด้วย
- การเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่อยู่รอบตัวเราก่อน (Change starts local)
10. การเติมเต็มตัวเองด้วยแนวคิด Ikigai
![]()
คุณสุธีรพันธุ์ดึงแนวคิด Ikagai มาเป็นหัวข้อสุดท้ายของการพูดคุยในวันนี้ กับการเติมเต็มตัวเองที่ลงลึกได้มากกว่าความสุขแบบทั่วไป ซึ่งทุกจุดทุกความสัมพันธ์ในแผนภูมินี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์กับชีวิตได้จริง (สามารถฟังในคลิปย้อนหลังได้ช่วงนาทีที่ 1.35.00 ค่ะ)
ส่วนสาเหตุที่นำแผนภูมิ Ikigai มาปิดท้ายนั้น เชื่อว่าผู้ฟังในงานจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของความเป็นพี่ ที่อยากฝากให้คนรุ่นต่อไปนำข้อคิดนี้ไปพัฒนาตัวเอง และหาสิ่งที่ตัวเองรัก สิ่งที่ตนเองถนัดให้เจอ โดยที่สิ่งที่รักนั้นต้องทำประโยชน์ให้กับโลก และสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองอย่างยั่งยืนด้วย ซึ่งสุดท้ายแล้ว ชีวิตมนุษย์ก็อาจมีแค่นี้จริง ๆ ก็ได้ค่ะ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการมาเยือน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน พบกันใหม่กับ Digital Matters ครั้งที่ 11 ในปี 2018 นะคะ



