
น่าสนใจมากเมื่อ Alibaba เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซจีนประกาศแต่งตั้งผู้บริหารที่ร่วมหัวจมท้ายกับบริษัทมานานกว่า 13 ปีอย่าง Jonathan Lu Xaoxi (ในภาพ) เป็นซีอีโอคนใหม่
ถือเป็นการประกาศหลังจาก Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba ยืนยันเมื่อ 2 เดือนที่แล้วว่ากำลังจะลาออกจากตำแหน่ง สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนตัวซีอีโอคนใหม่ แต่นี่คือการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ของ Alibaba ซึ่งมีการตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ไปแล้วมากกว่า 25 หน่วย เพื่อดำเนินงานแยกกันตามจุดหมายหลากหลายที่ Alibaba ให้ความสนใจ
รายงานจาก Techcrunch ระบุว่าการเปลี่ยนตัวซีอีโอครั้งนี้สะท้อนว่า Alibaba กำลังปรับโครงสร้างองค์กรอย่างจริงจังเพื่อให้สามารถดูแลหน่วยธุรกิจของบริษัทที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 25 หน่วย ซึ่งประกอบด้วยบริการตลาดออนไลน์ Taobao, บริการซื้อยกกลุ่ม Juhuasuan, บริการชำระเงินออนไลน์ Alipay, แพลตฟอร์มอุปกรณ์พกพา Aliyun ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ ซีอีโอ Ma ของ Alibaba เคยประกาศว่ากำลังอยู่ระหว่างการลงจากตำแหน่งซีอีโอเพราะอายุที่ล่วงเลยเข้าวัย 48 ปี ครั้งนั้น Ma ระบุว่าอายุ 48 นั้นมากเกินไป และใน Alibaba ยังมีบุคลากรอายุน้อยกว่าที่มีความสามารถซึ่งจำเป็นต่อการเติบโตของบริษัท โดย Lu ซีอีโอคนใหม่ของ Alibaba ซึ่งมีอายุ 43 ปีจะเข้ารับตำแหน่งซีอีโอในวันที่ 10 พฤษภาคม และ Ma จะขึ้นหิ้งไปดูแลกลยุทธ์บริษัทในฐานะประธาน
ว่าที่ซีอีโอ Lu นั้นมีดีกรีเป็นทีมงานฝีมือดีที่ร่วมงานกับ Alibaba นาน 13 ปี โดยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Alibaba.com และแพลตฟอร์มช็อปปิ้ง Taobao ซึ่งกำลังจะมีอายุ 10 ปี ที่สำคัญ Lu เป็นหัวเรือสำคัญของการพัฒนาแพลตฟอร์มชำระเงินบนอุปกรณ์พกพาของ Alibaba อย่าง Aliyun ด้วย
![]()
ภารกิจที่รอซีอีโอคนใหม่ของ Alibaba อยู่คือการดูแลภาพรวม 25 หน่วยธุรกิจของ Alibaba ให้ดี โดยรายงานระบุว่ากลุ่มบริการด้านการเงินอย่าง “บริการสินเชื่อขนาดย่อม Alibaba Small and Micro Financial Services Group” อาจไม่ได้อยู่นความดูแลของว่าที่ซีอีโอ Lu เนื่องจากแผนกงานนี้มี Lucy Peng ซึ่งเพิ่งถูกแต่งตั้งเป็นประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Alibaba และประธานกลุ่มพัฒนา Alipay เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผู้ดูแล
การเปลี่ยนตัวซีอีโอนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ Alibaba ยักษ์ใหญ่ผู้ค้าสินค้าออนไลน์ในจีนซึ่งสามารถสร้างชื่อ Alibaba Group ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีอิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนพนักงานมากกว่า 24,000 คน บนมูลค่าตลาดมากกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา: TechCrunch



