แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่นัก สำหรับ “Cloud Computing หรือ Cloud Services” แต่ในรอบหลายๆ ปีนี้ “Cloud” กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงมากเป็นพิเศษ แถมบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft หรือ Google ก็ให้บริการ Cloud Services ได้ประสบความสำเร็จไม่น้อย Apple เองก็เพิ่งจะประกาศถึงบริการอย่าง “iCloud” เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่าน แต่ Reuters กลับมองไปทาง Amazon และคาดว่าพวกเขาคือผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นราชาบังลังก์ระดับพันล้านสำหรับ “Cloud Computing” รายต่อไป…

อย่างที่หลายๆ คนรู้กันอยู่แล้วว่า Amazon คือร้านค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด แถมพวกเขายังไม่มีหน้าร้าน แต่ก็ประสบความสำเร็จกับธุรกิจค้าปลีกได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แถมภายหลังยุคฟองสบู่ดอทคอมแตกหลังปี 2000 นั้น พวกเขาเริ่มรู้สึกได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขานั้น ทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพนัก

นั่นทำให้ใน 2006 พวกเขาจึงเริ่มที่จะเปิดให้บริการ Amazon Web Services ซึ่งเป็น Cloud Computing ที่จะช่วยให้ผู้ที่เป็นตัวแทนขายหรือ Affiliate Program ของทาง Amazon นั้น สามารถที่จะดึงข้อมูลสินค้าให้มาแสดงอยู่บน API ตัวนี้ได้

และในช่วงปีที่ผ่าน Amazon Cloud Drive และ Amazon Cloud Player ก็ถูกปล่อยออกมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกในการเก็บข้อมูลและฟังเพลงผ่านระบบ Cloud Computing ได้ แถมยังมีการนำไปใช้กับการศึกษาด้วยการให้บริการเช่าหนังสือเรียนบน E-books reader อย่าง Kindle ได้อีก

การเติบโตของสารพัดบริการจาก Amazon ที่เกิดขึ้น และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้?Mark Mahaney นักวิเคราะห์ด้านอินเทอร์เน็ตของทาง?Citigroup เชื่อว่า แม้จะยังมีรายได้อยู่ในระดับ 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 2.25 หมื่นล้านบาท) เท่านั้นในปัจจุบัน แต่ด้วยโอกาสทางการตลาด โอกาส และความแข็งแรงของแบรนด์ Amazon นั้น คงจะทำให้รายได้ระดับพันล้านเหรียญ (ราว 3 หมื่นล้านบาท) นั้น คงไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ…

ที่มา: TechSpot

10 years experience in telecommunication business, specialize in customer experience management and call center operation. Rungroj also passionate about how social technologies shape human interaction via social media. He is a co-author of "Marketing 2.0 and 2.1 - Social Media Marketing" and author of many best-selling mobile phone guidebook in Thailand.