ภาพจาก irishtimes.com

ภาพจาก irishtimes.com

ยักษ์ใหญ่ในวงการไอที Apple เริ่มมีแผนคิดขยายอาณาจักรออกจาก Cupertino แล้ว โดยแผนครั้งนี้จะตั้งในจีนตามที่เจาะตลาดอยู่ โดยมาในรูปแบบสถาบันการศึกษาในชื่อ Apple University ที่สร้างคน Apple มาแล้วนักต่อนักในอเมริกา

ก่อนอื่นมาพูดถึง Apple University กันก่อน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 เป็นโครงการเสริมและดันให้คนในองค์กร Apple เติบโตขึ้นทำการสอนโดยพนักงานระดับกลาง (mid-level) จนถึงระดับ manager ที่ผ่านการอนุมัติจาก Steve Jobs และผู้บริหารระดับสูงตัวหลักเท่านั้น โดย Steve Jobs ที่ดึงเอา Joel Podolny อดีตผู้อำนวยการ Yale School of Business มาช่วยทำให้วัฒนธรรมของ Apple ยังคงอยู่และล้ำหน้าต่อไป ซึ่งเป็นกุญแจความสำเร็จที่เกิดขึ้นอยู่แล้วของ Apple

ภาพจาก http://joshbersin.com

ภาพจาก http://joshbersin.com

สำหรับการตั้ง Apple University ในจีนนี้จะเป็นก้าวครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์ Apple ให้กลายเป็นบริษัทระดับโลก (ตอนนี้ก็ระดับโลกอยู่แล้ว) และจะเป็นครั้งแรกที่มีการออกมาสู่ภูมิภาคอื่น และแน่นอนว่าการเลือกจีนก็เพราะ Apple เห็นศักยภาพการบริหารและยอดขายที่คล้ายกันกับในอเมริกา โดยแหล่งข่าวจากที่มาบอกว่ากำลังมีการสัมภาษณ์หาคนที่จะมาเป็นอธิการบดีในจีนกันอยู่

ปัจจุบัน Apple มีพนักงานในจีนมากกว่า 5,000 คนและมี Apple Store อยู่ถึง 12 ร้าน (รวมที่ฮ่องกงด้วย) แถมมีแผนจะขยายเป็น 40 แห่งในอีก 2 ปีนี้ ดังนั้นการเล็งเข้ามาขยายส่วนที่เป็นการพัฒนาบุคคลากรที่นี่จึงเป็นสิ่งที่จะทำให้ Apple กลายมาเป็นมาเฟียแห่งไอทีที่ไม่ได้อยู่แค่ในสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว แต่กินได้ทั้งโลก เพราะยึด 2 ประเทศหลักที่สำคัญในโลกเศรษฐกิจของยุคนี้ และทำให้ลดช่องว่างในการทำงาน 2 ประเทศนี้ผ่านการฝึกคนได้อีกด้วย

ถามว่าไทยจะได้รับอะไรไหม? ส่วนตัวคิดว่าการมาของ Apple University นี่จะทำให้โอกาสในการร่วมงานกับบริษัทใหญ่ๆ ง่ายขึ้นกว่าเดิม และการตั้งฐานที่นี่จะทำให้จีนกลายเป็นศูนย์กลาง ซึ่งใหญ่กว่าที่สหรัฐฯ แน่ๆ ทำให้เอเชียเป็นภูมิภาคที่จะมีศักยภาพมากขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว ผลพลอยได้ก็น่าจะมีเกิดขึ้นที่ไทยด้วยเช่นกัน

ที่มา: 9to5mac

bank - full-time reader, part-time invisible writer, Fanpantae GDH