ในสถานการณ์ตอนนี้ที่อะไรก็ไม่แน่นอน ทำให้หลายคนต้องเซฟตัวเอง และใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น บางคนต้องเปลี่ยนมา Work From Home ทำงานที่บ้านแทน แล้วเมื่อทำงานที่บ้านนาน ๆ การอยู่ในมุมเดิม ๆ ที่อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับการใช้ทำงานสักเท่าไหร่ ก็อาจจะทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย จนอาจเกิดเป็นอาการหมดไฟ (Burn Out) ได้
วันนี้ใครที่ไฟใกล้มอดเต็มที เรามีวิธีเติมไฟในการทำงานดี ๆ มาฝาก ด้วยไอเดียแต่งบ้านทาสีห้องใหม่ สร้างแรงบันดาลใจ ให้เป็นมุมทำงานสวยๆ 7 สี 7 สไตล์ จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปดูกันได้เลย
ไอเดียสีแต่งบ้านในช่วง Work From Home
ไม่ว่าก่อนหน้านี้คุณจะเคยใช้ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัวเป็นมุมทำงานที่บ้าน ขอแค่ให้ลองทาสีห้องเหล่านั้นใหม่ คุณจะรู้สึกได้ทันทีถึงความแตกต่าง เนื่องจากสีสันมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก ซึ่งถ้าบรรยากาศมันเอื้ออำนวยต่อการทำงาน คุณก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภาพมากขึ้น ซึ่งไอเดียสีห้องที่เอามาฝากเหล่านี้ เราคัดมาให้แล้วว่าเหมาะกับการทำงานเป็นที่สุด
ห้องโทนเหลือง เติมความคิดสร้างสรรค์
สำหรับสายครีเอทีฟ ที่ต้องการไอเดียบรรเจิดตลอดเวลา ต้องลองห้องโทนเหลืองมัสตาร์ด อย่างเฉด My Sunny Day 094-5 เพราะสีเหลืองจะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเพิ่มพลังบวกทางความคิดได้ดี
ห้องโทนเขียว ลดความเครียดฟื้นฟูจิตใจ
ทำงานทั้งวันจนมีความเครียดพอกพูน ห้องสีเขียวเฉด Jolt of Spring 048-6 นี้จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจิตใจ รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเสมือนนั่งทำงานกลางป่าเขียวชะอุ่ม จนความเครียดที่สะสมมาค่อย ๆ หายไป
ห้องโทนน้ำเงิน เพิ่มสมาธิไม่วอกแวก
พนักงานออฟฟิศทั้งหลายที่ต้องจ้องจอคอมนาน ๆ แนะนำสีนี้เลย น้ำเงิน Lockness 037-6 ที่ออกกรมท่าอมเขียว เป็นสีที่จะช่วยเยียวยาสายตา ทำให้ตาล้าน้อยลง พอเวลาเริ่มรู้สึกว่าปวดตา ให้ลองหลับตาสัก 15 วินาที แล้วกวาดสายตาไปมองผนังอีกสัก 15 วินาที ดูนะแล้วจะดีขึ้น
ห้องโทนชมพู กระตุ้นพลังงานความสุข
อยากอารมณ์ดีแฮปปี้กับการทำงานตลอดวัน สีชมพูอ่อน เฉด Dewey Rose 183-2 น่าจะถูกใจไม่มากก็น้อย แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ที่กลัวห้องจะละมุนเกินไป อาจหาเฟอร์นิเจอร์สีเข้ม ๆ เช่น สีดำ มาตัดความหวานลงก็ได้
ห้องโทนเบจ ล็อคสติให้มั่นคง
คนที่ต้องการสมาธิ แต่ไม่ชอบห้องโทนมืด สีเบจอมเทา ที่เป็นสีโทนสว่างคือคำตอบ เพราะเป็นสีที่ช่วยให้จิตใจสงบ เหมาะกับงานที่ต้องใช้สมาธิสูง เช่น งานที่มีตัวเลขเยอะ ๆ เป็นต้น แนะนำ เฉด Summer Town 158-4 เลย
ห้องโทนดำ จดจ่อกับงานหลุดออกจากโลกภายนอก
ที่สุดของสีห้องสำหรับสายดาร์กที่อยากจดจ่อกับงานชนิดตัดขาดจากโลกภายนอก ด้วยธรรมชาติของสีจะช่วยให้คุณมีสมาธิโฟกัสกับงานที่ทำได้มากที่สุด เช่น สีดำอมน้ำเงิน Keddington 145-6 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีใต้ท้องทะเลลึก
ห้องโทนขาว กลับสู่จุดเริ่มต้นของความสงบ
ไอเดียสุดท้ายเป็นสียอดนิยม นั่นก็คือห้องสีขาว แต่ไม่ใช่ขาวธรรมดา เป็นขาวนวลครีมอ่อนๆ อมชมพู เฉด OW-3-3 Pongee ที่จะทำให้คุณรู้สึกสงบ และอบอุ่นไปพร้อมๆ กัน จากสี Undertone แสนสบายตา ไม่ขาวจ้ารีเฟลกซ์สู้หลอดไฟ
ลงมือเติมไฟทาห้องสีใหม่ด้วยตัวเอง
ได้ไอเดียเฉดสีทาห้องใหม่เติมไฟกันไปแล้ว ต่อไปมาถึงขั้นตอนการลงมือแปลงโฉมห้อง อย่างไรก็ตามช่วงนี้บางท่านอาจจะไม่ค่อยสะดวกใจให้ใครไปบ้านเยอะ ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ทำเองเลยดีกว่า เพราะการทาสีห้องใหม่ไม่ได้ยากอะไรมากมาย ขอแค่คุณรู้เทคนิคสักนิด และมีเวลาสักหน่อย คุณก็จะได้ห้องสวยๆ ที่สร้างด้วยมือคุณเองแล้ว เอ้าลุย!
สิ่งแรกสุดของการเริ่มลงมือทาสี คือการประเมินพื้นที่ดูว่าจะทาตรงไหนบ้าง พื้นที่ประมาณเท่าไหร่ (กี่ตารางเมตร) จากนั้นก็เตรียมสีที่จะใช้ทา โดยแบ่งเป็น สีรองพื้น และสีทับหน้า โดยซื้อในปริมาณให้พอดี ในส่วนนี้ใครไม่รู้จะซื้อเท่าไหร่ สามารถสอบถามจากร้านค้าได้เลย
เมื่อเตรียมของพร้อมหมดแล้ว ต่อมาก็ให้ทำการทำความสะอาด ปัดฝุ่นเช็ดคราบ เตรียมพื้นผิวให้เรียบร้อย บางจุดที่อยู่ใกล้ขอบประตู ปลั๊กไฟ ก็เอาเทปกาวมาแปะกันเลอะ แล้วจึงทา สีรองพื้น เป็นขั้นตอนถัดไป
การทาสีรองพื้น เป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายท่านอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน ที่จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาสีที่อาจเกิดขึ้นจากพื้นผิวเดิม โดยเฉพาะผนังเก่ามากๆ โอกาสที่จะเกิดปัญหาก็มีมากด้วย ดังนั้นควรทาสีรองพื้นก่อนเสมอ สำหรับการทาสีรองพื้นแนะนำเป็น สีรองพื้นปูนอเนกประสงค์เบเยอร์ บี-2900 สูตรน้ำ กลิ่นอ่อนแห้งไว และมีเนื้อสีขาว ช่วยกลบรอยต่างๆ บนผนังได้อีกด้วย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือการลงสีทับหน้า ในยุคนี้นอกจากเรื่องความสวยงามที่เป็นหัวใจหลักของการทาสีแล้ว สิ่งที่ต้องดูควบคู่ไปด้วยคือเรื่องคุณสมบัติต่างๆ ทั้งเรื่องความสะอาด และความปลอดภัย ซึ่งถ้าเป็นสีทาภายในที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้ คงต้องยกให้ “สีเบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส” เลย
เนื่องจากเป็นสีทาภายในที่ใช้เทคโนโลยี โกลด์ ไอออน ที่สามารถกำจัดเชื้อ ฮิวแมนโคโรนาไวรัส* เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 มือเท้าปาก และแบคทีเรียอื่นๆ รวมกว่า 10 ชนิด บนผนังบ้านได้ ซึ่งมีผลรับรองจากสถาบันระดับโลก อาทิ สถาบันไวโรโลจี้ ประเทศอังกฤษ และสถาบันแอร์มิท ประเทศไอร์แลนด์ เป็นต้น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทนการเช็ดล้างได้ถึง 200,000 ครั้ง อีกด้วย
เพียงทำตามขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมา ทาสีห้องใหม่ตามเฉดที่เราแนะนำไป คุณก็จะได้มุมทำงานสวยๆ ที่ช่วยเติมไฟให้พร้อมลุยงานที่บ้านแล้วล่ะ
สำหรับใครที่ยังคงมีข้อสงสัยเรื่องการทาสี สามารถทักแชทมาปรึกษาวิธีการกับเบเยอร์ได้ที่ www.beger.co.th หรือโทร 02-8155888 กด 3