นี่คือยุคที่เส้นแบ่งระหว่างโลกดิจิทัลและโลกจริงพร่าเลือนจนแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียว โดยเฉพาะในแวดวง “Creator Economy” ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และคงไม่มีใครที่จะเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตนี้ได้ชัดเจนเท่า ‘MrBeast’ หรือ Jimmy Donaldson
ข่าวล่าสุดที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการ คือการที่ MrBeast ยูทูบเบอร์ผู้มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดในโลก ประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ที่ทะเยอทะยานที่สุดของเขาจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ ‘Beast Land’ สวนสนุกเต็มรูปแบบแห่งแรกของเขา แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องขมวดคิ้วและหันมาวิเคราะห์ทันที ไม่ใช่แค่ตัวสวนสนุก แต่เป็น “สถานที่” ที่เขาเลือก
‘Beast Land’ กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย
คำถามตัวโต ๆ จึงเกิดขึ้นทันที ทำไมต้องซาอุดีอาระเบีย? ทำไมไม่ใช่ในบ้านเกิดที่อเมริกาเหนือซึ่งเป็นฐานแฟนคลับหลัก? และสวนสนุกของ MrBeast จะแตกต่างจากสวนสนุกที่เราเคยรู้จักอย่าง Disneyland หรือ Universal Studios อย่างไร?
นี่ไม่ใช่แค่การ “เปิดสวนสนุก” แต่นี่คือการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ซับซ้อน ซึ่งสะท้อนภาพอนาคตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์, การตลาดแบบ “Phygital” (Physical + Digital) และภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป
![]()
Beast Land สวนสนุกที่ “เล่นจริง” ไม่ใช่แค่ “นั่งดู”
สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ ‘Beast Land’ ไม่ใช่สวนสนุกแบบดั้งเดิม ที่เน้นเครื่องเล่นหวาดเสียว หรือการเดินชมมาสคอต เพราะ MrBeast นิยามมันว่าเป็นการ “สร้างเกมที่ผมอยากเล่นเอง” และเป็นเกมที่ “ไม่มีที่ไหนในโลก”
แก่นแท้ของ Beast Land คือการถอดรหัส DNA จากคอนเทนต์วิดีโอของเขา นั่นคือ “การแข่งขัน” และ “การท้าทาย” มาสู่โลกจริง ผู้เข้าร่วมไม่ได้เป็นแค่ “ผู้เข้าชม” แต่เป็น “ผู้เล่น”
เขาอธิบายถึงเกมไฮไลท์ต่าง ๆ เช่น
- Tower Siege: ผู้เล่นต้องบรรจุกระสุน (ลูกบอล) ใส่ “หนังสติ๊กยักษ์” ของจริง และยิงให้เข้าท่อขนาดยักษ์สูง 60 ฟุตเพื่อทำคะแนน
- Drop Zone: ผู้เล่น 6 คน ยืนบน “ประตูกล” เมื่อปุ่มไฟสว่างขึ้น ใครกดช้าที่สุดจะถูก “ปล่อย” ตกลงไป คนที่ยืนหยัดเป็นคนสุดท้ายคือผู้ชนะ
- Airmail: เกมสำหรับคนชอบ Zipline ที่คุณต้องโหนสลิงและทิ้งถุงถ่วงน้ำหนักลงบนเป้าหมายด้านล่าง ยิ่งใกล้จุดศูนย์กลาง ยิ่งได้คะแนนเยอะ
- Dungeon Escape: เขาวงกตที่ต้องหาทางออกให้เร็วกว่าคนอื่น
นี่คือ “Gamification” ของสวนสนุกอย่างแท้จริง มันคือการเปลี่ยนประสบการณ์แบบ Passive (การนั่งเฉย ๆ) ให้เป็น Active (การมีส่วนร่วม) เสริมด้วยสิ่งที่ MrBeast ถนัดที่สุด นั่นคือ “ของรางวัล” โดยเขาระบุว่าจะมี “กำแพงของรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
นี่คือการแปล “แบรนด์ IP” ของเขาจากดิจิทัลมาสู่ประสบการณ์ทางกายภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ แฟน ๆ ที่เคยแต่นั่งดูคนอื่นแข่งขันในวิดีโอ ตอนนี้สามารถกระโดดเข้ามา “เล่น” ในเกมของ MrBeast ได้ด้วยตัวเอง
ถอดรหัสโมเดลราคา ‘Freemium’ ในโลกสวนสนุก
กลยุทธ์การตั้งราคาของ Beast Land ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มันฉีกตำราสวนสนุกแบบเดิม ๆ ที่มักจะตั้งราคาค่าเข้าสูงลิ่ว แต่รวมทุกอย่างไว้
MrBeast เลือกใช้โมเดลแบบ “Tiered Pricing” ประกอบด้วย
- General Admission: ราคาประมาณ 7 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 250 บาท) นี่คือกลยุทธ์ “Low Barrier to Entry” ราคาถูกมากเพื่อให้ทุกคนสามารถ “ก้าวขา” เข้ามาในสวนสนุกได้ แต่… ตั๋วนี้ ไม่รวม เครื่องเล่น, เกม หรือประสบการณ์ใด ๆ เลย
- ‘Beast Mode’: ราคาประมาณ 25 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 900 บาท) แพ็กเกจ “Standard” ที่ให้คุณเข้าร่วม Challenges, เล่นเกม และรวมเครื่องเล่น 3 อย่าง
- ‘Beast Mode+’ (โหมดบีสต์ พลัส): ราคาประมาณ 66 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,400 บาท) แพ็กเกจ “Premium” ที่ให้คุณเล่นได้ทุกอย่างแบบไม่จำกัด
นี่คือโมเดล “Freemium” (หรือในที่นี้คือ “Cheap-mium”) ผ่านกลยุทธ์คือการดึงดูด Traffic จำนวนมหาศาลด้วยราคาค่าเข้าที่ถูกเหลือเชื่อ และอาศัยบรรยากาศความสนุก, การแข่งขัน และแรงจูงใจจากกำแพงของรางวัล เพื่อกระตุ้นให้เกิดการ “Upsell” หรือ “In-App Purchase” (ในที่นี้คือ In-Park Purchase) ภายในพาร์ค มันคือจิตวิทยาแบบเดียวกับเกมมือถือ ที่ให้คุณเข้าเกมฟรี แต่ถ้าอยากเก่ง อยากชนะ ก็ต้อง “จ่าย”
ทำไมต้อง ‘ซาอุดีอาระเบีย’? การเดิมพันใน Blue Ocean และ Soft Power
มาถึงคำถามที่สำคัญที่สุด ทำไมต้องริยาด?
MrBeast ให้เหตุผลง่าย ๆ ผ่าน X ส่วนตัวว่า: “มันคือศูนย์กลางของโลก เพราะฐานผู้ชมส่วนใหญ่ของผมอยู่นอกอเมริกา และเรามีฐานแฟนคลับในตะวันออกกลางที่ใหญ่มาก อยากให้โอกาสพวกเขาได้มีส่วนร่วมบ้าง!”
แม้เหตุผลเรื่องฐานแฟนคลับจะเป็นความจริง แต่ในมุมมองของการตลาด เรื่องนี้ลึกซึ้งกว่านั้นมาก
- กลยุทธ์ Blue Ocean: ตลาดอเมริกาเหนือและยุโรปคือ “Red Ocean” ที่เต็มไปด้วยยักษ์ใหญ่ด้านสวนสนุก (Disney, Universal) การแข่งขันสูงลิ่วและตลาดอิ่มตัวแล้ว ในทางกลับกัน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย คือ “Blue Ocean” ที่มีศักยภาพมหาศาล ประชากรมีกำลังซื้อสูง และยัง “กระหาย” ความบันเทิงระดับโลก การเป็น “เจ้าแรก” ที่นำ IP ระดับโลกอย่าง MrBeast มาปักธง จึงเป็นการเคลื่อนไหวที่แทบจะไร้คู่แข่ง
- Saudi Vision 2030: นี่คือจิ๊กซอว์ชิ้นที่ใหญ่ที่สุด ซาอุดีอาระเบียกำลังอยู่ในช่วงปฏิรูปประเทศครั้งประวัติศาสตร์ ภายใต้วิสัยทัศน์ 2030 ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจจากที่เคยพึ่งพาน้ำมัน ไปสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยว, กีฬา, และความบันเทิงระดับโลก
เราจึงได้เห็นการทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อดึงดูดอีเวนต์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน F1, กอล์ฟ LIV, การเป็นเจ้าภาพ WWE (เช่น WrestleMania) และล่าสุดคือการเปิดตัว Esports World Cup ที่ริยาด
การที่ MrBeast ซึ่งเป็นไอคอนของ Gen Z ทั่วโลก เลือกเปิด Beast Land ที่นี่ จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็น “การร่วมมือ” เชิงกลยุทธ์ที่ Win-Win ทั้งสองฝ่าย
- MrBeast ได้อะไร? ได้รับการสนับสนุน (อาจรวมถึงงบประมาณมหาศาล) จากรัฐบาลหรือกองทุนซาอุฯ, ได้บุกตลาดใหม่ที่ไร้คู่แข่ง และได้สร้างโปรเจกต์ที่ทะเยอทะยานที่สุดในสเกลที่ใหญ่กว่าที่อื่น
- ซาอุดีอาระเบีย ได้อะไร? นี่คือการใช้ “Soft Power” ที่ทรงพลังที่สุด พวกเขาได้ “MrBeast” มาเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่จากทั่วโลก และที่สำคัญคือการ “Rebranding” ภาพลักษณ์ของประเทศให้ทันสมัย, เปิดกว้าง, และเป็นมิตรต่อคนรุ่นใหม่
แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่ารัฐบาลซาอุฯ “จ่าย” ให้ MrBeast หรือไม่ แต่เป็นที่ชัดเจนว่านี่คือการผนึกกำลังทางธุรกิจที่สอดคล้องกับวาระแห่งชาติของซาอุฯ อย่างสมบูรณ์แบบ
Thumbsup มองว่า การเปิดตัว ‘Beast Land’ คือหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า “Creator Economy” ได้วิวัฒนาการไปไกลแค่ไหน
- ยุคที่ 1: AdSense (รายได้จากโฆษณาบนวิดีโอ)
- ยุคที่ 2: Merchandising & CPG (การขายสินค้า เช่น เสื้อผ้า, MrBeast Burger และช็อกโกแลต Feastables)
- ยุคที่ 3: Location-Based Entertainment (LBE) (การสร้างประสบการณ์ทางกายภาพ)
MrBeast กำลังเดินตามรอยเท้าของ Walt Disney ที่เปลี่ยนจาก “Mickey Mouse” (IP ในสื่อ) ไปสู่ “Disneyland” (ประสบการณ์ทางกายภาพ) แต่เขาใช้เวลาบีบอัดกระบวนการนี้จาก 50 ปี ให้เหลือเพียงไม่ถึง 10 ปี
นี่คือการประกาศว่า “IP ของ Creator” ในปัจจุบัน มีพลังและมูลค่าไม่ต่างจาก IP ของสตูดิโอฮอลลีวูดอีกต่อไป เขากำลังพิสูจน์ว่า Creator ไม่ใช่แค่ “คนทำคอนเทนต์” แต่คือ “เจ้าพ่อสื่อ” และตอนนี้คือ “ผู้ประกอบการสวนสนุก”
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ MrBeast ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนเกมสำหรับตัวเขาเอง แต่ยังเป็นการยกระดับเพดานความคาดหวังและโอกาสให้กับ Creator ระดับท็อปคนอื่น ๆ ทั่วโลก นี่คือการก้าวข้ามจาก “Phygital” ไปสู่การสร้าง “จักรวาล” ของแบรนด์อย่างแท้จริง และเป็นกรณีศึกษาที่นักการตลาดทุกคนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
อ่านเพิ่มเติม

