Site icon Thumbsup

เซ็นทรัลรีเทล ฟื้นได้ด้วยกลยุทธ์ดิจิทัล สานต่อเมกะเซลล์หวังเพิ่มรายได้

ไม่ได้เป็นปีที่ง่ายเลย สำหรับธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล รีเทล ที่จำต้องปิดให้บริการหลายสาขาในช่วงที่สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ลุกลามอย่างหนัก แม้จะได้รายได้จากช่องทางออนไลน์เข้ามาเสริม โดยผู้บริหารเซ็นทรัลมองว่าหลังจากมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยได้แล้ว ยังอยากให้คงมาตรการ Social Distancing อย่างเดิมไว้ก่อน เพื่อป้องกันความรุนแรงจากวิกฤตที่อาจจะคาดไม่ถึงรวมทั้งต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยด้วย

นิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการก้าวเข้าสู่ยุคอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว การใช้จ่ายทางช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคไทย มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างมากและทั่วถึงในกลุ่มลูกค้าทุกเจเนเรชั่น

ส่งผลให้มียอดสะพัดในแคมเปญเมกะเซลล์ของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท จากการจัดงานในช่วง 11.11 เพียงแค่ครั้งเดียว และในสถานการณ์วิกฤตนี้เชื่อว่าการทำเมกะเซลล์มากถึง 3 ครั้ง คือ 9.9, 10.10 และ 11.11 ทำให้มีโอกาสที่ตัวเลขเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาท

แม้ว่าในช่วงนี้จะมีผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายผ่านหน้าร้านมากขึ้นแล้ว แต่ผู้บริโภคก็ยังวางแผนในการใช้จ่ายมากขึ้น ทางเซ็นทรัลรีเทลจึงจำเป็นต้องวางแผนให้รอบด้านในการนำเสนอโปรโมชั่นให้ลูกค้าที่ไม่ใช่แค่ประหยัด แต่ต้องคุ้มค่าในการจ่ายไม่ว่าจะซื้อในช่องทางออนไลน์หรือเดินทางมาที่ห้างสรรพสินค้า

ทั้งนี้ รายได้ของเซ็นทรัลรีเทล บอกได้แค่ว่าดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่เจอสถานการณ์ล็อกดาวน์ แต่ไม่สามารถให้ตัวเลขที่ชัดเจนได้ แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือของปี 2020 ทุกอย่างจะกลับมาดีขึ้น

ดึงป็อก-มาร์กี้ มาช่วยเจาะกลุ่มครอบครัว

แม้ว่าช่วงล็อกดาวน์ลูกค้าที่มาเดินสาขาจะลดลงอย่างมาก แต่โชคดีที่เซ็นทรัลรีเทล มีช่องทางการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ครบทุกความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็น LINE Facebook หรืออีคอมเมิร์ซ ทำให้เพิ่มโอกาสในการใช้จ่ายของลูกค้ามากขึ้น ทำให้รายได้จากกลุ่มดิจิทัลเพิ่มขึ้น 10% ในภาพรวมของ CRC โดยมีลูกค้าใช้งานช่องทางออนไลน์ของเซ็นทรัลสูงถึง 3 ล้านรายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์

“จากสถานการณ์หกเดือนที่ผ่านมา ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันหันมาช้อปออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้มียอดการเข้าซื้อสินค้าทางเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชในเครือเซ็นทรัล รีเทล เติบโตมากในทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็น สินค้าของใช้จำเป็น, อุปกรณ์กีฬา, เครื่องสำอาง, สินค้าแฟชั่น, ของตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า แพลตฟอร์มดิจิทัลที่หลากหลายช่องทางของเราสร้างยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 350% ในไตรมาสที่สองของปี 2563 (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน)”

แคมเปญ Central Retail Double Mega Sale  ประกอบไปด้วย

โปรโมชั่นในแต่ละเดือน โดยเริ่มจาก 9.9, 10.10, 11.11, และ12.12 ลดจัดหนักแบบดับเบิ้ล ๆ ผสานบริการต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อ ด้วย Dual Platform จากร้านค้าในอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล

ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลโรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ซีเอ็มจี (สาขาที่ร่วมรายการ), ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์ และบีทูเอส ผ่านบริการ Call & Shop, Chat & Shop ที่ LINE Official Account หรือ LINE ของสาขา (LINE Store), Facebook Live, Click & Collect, E-ordering หรือช้อปผ่านเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา 24 ชั่วโมง พร้อมบริการสุดพิเศษต่าง ๆ ทั้ง Free Delivery และรับ/คืนสินค้าได้ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากนี้ พาร์ทเนอร์ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล นำโดยศูนย์การค้าของเซ็นทรัลพัฒนาทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัลเซ็นทรัล ภูเก็ตและเซ็นทรัลวิลเลจ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่พร้อมใจกันมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษให้แก่ลูกค้า ดังนี้

สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญ Central Retail 9.9 Double Mega Sale ของเซ็นทรัล รีเทล ได้ทางเว็บไซต์ www.centralretail.com/99DoubleMegaSale และที่หน้าร้านของร้านค้าในอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัลที่ร่วมรายการได้ตั้งแต่ 1-13 กันยายน 2563