Site icon Thumbsup

แล้ววันนี้ก็มาถึง เมื่อเม็ดเงินโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตแซงหน้าโทรทัศน์ไปแล้วในสหรัฐอเมริกา


06_Linkedin_Imagethink_Digital_Advertising-X2-Gunther-1024x512

ภาพประกอบจาก Sell or Else

Digital advertising หรือการโฆษณาผ่านช่องทางดิจิทัลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์พกพาต่างๆ ฯลฯ ถูกจับตาและคาดการณ์อย่างต่อเนื่องว่าวันหนึ่งจะแซงหน้าช่องทางเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรือนิตยสารต่างๆ และวันนั้นก็ดูเหมือนจะมาถึงเร็วกว่าคิดคาดเล็กน้อย เมื่อเม็ดเงินโฆษณาบนช่องทางใหม่ๆ เหล่านี้ในสหรัฐอเมริกาแซงหน้าช่องทางยอดนิยมอย่างโทรทัศน์ไปเรียบร้อยแล้ว

Interactive Advertising Bureau รายงานว่า ปี 2013 ที่ผ่านมา เม็ดเงินการลงทุนโฆษณาบนช่องทางดิจิทัลในสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้น 17% และถือเป็นการแซงหน้าช่องทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยเม็ดเงินที่ลงโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตคิดเป็นมูลค่า 42,800 ล้านเหรียญ หรือราว 1.38 ล้านล้านบาท ในขณะที่เม็ดเงินที่โฆษณาบนช่องทางโทรทัศน์นั้นอยู่ที่ 40,100 ล้านเหรียญ หรือราว 1.3 ล้านล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าช่องทางดิจิทัลที่มีการเติบโตสูงที่สุดก็คือช่องทางอุปกรณ์พกพา โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนนั่นเอง

ภาพประกอบจาก Tech Know

ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ช่องทางอุปกรณ์พกพาสามารถเติบโตได้ด้วยอัตรา 3 หลัก โดยปีที่ล่าสุดยอดการเติบโตอยู่ที่ 110% ทำให้ยอดการโฆษณาบนช่องทางอุปกรณ์พกพาขึ้นไปแตะที่ 7,100 ล้านเหรียญ หรือราว 230,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 17% ของการโฆษณาทั้งก้อน เทียบกับ 9% ในปี 2012 ถือว่ามีการขยายตัวที่โดดเด่นมาก ในขณะที่ฝั่งของ display ads มีการเติบโต 7% คิดเป็นเม็ดเงิน 12,800 ล้านเหรียญ หรือราว 414,000 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของยอดการโฆษณาฝั่งดิจิทัลทั้งก้อน

การโฆษณาบนฝั่งของ search หรือการค้นหาข้อมูลยังเป็นก้อนที่ใหญ่ที่สุด โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 43% ด้วยเม็ดเงิน 18,400 ล้านเหรียญ หรือร่วม 600,000 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโต 9% จากปี 2012 ที่ผ่านมา

เชื่อว่าอีกไม่นานนักบ้านเราก็น่าจะมีตัวเลขที่น่าสนใจมาให้ได้ติดตามเช่นกัน แต่ความแตกต่างคือบ้านเราเพิ่งจะเริ่มมีการให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล ซึ่งถือเป็นการเปิดพื้นที่ให้คอนเทนต์และการโฆษณาได้ทุ่มเม็ดเงินกันอย่างกว้างขึ้นหลายเท่าตัว การที่จะเห็นการโฆษณาดิจิทัลแซงหน้าโทรทัศน์น่าจะยังไม่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีนี้แน่นอน

สำหรับใครที่อยากฟังเรื่องราวของ Digital TV และแนวโน้มของผลที่จะตามมาทั้งฝั่งของผู้สร้างคอนเทนต์และฝั่งของเอเจนซี่ อย่าพลาดงาน Digital Matters ครั้งที่ 5 ที่เจาะเรื่องของ Digital TV เต็มๆ แล้วพบกันที่งานนะครับ

ที่มา: Warc