Motor Expo 2025

หากเปรียบเทียบอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นกราฟหุ้น ปี 2568 คงเป็นปีที่กราฟมีความผันผวนทางอารมณ์ของผู้บริโภคสูงสุดปีหนึ่ง จากภาวะเศรษฐกิจที่หลายคนมองว่า ซึมยาว แต่เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญอย่าง Motor Expo 2025 ตัวเลขที่ออกมากลับสะท้อนหนังคนละม้วน ด้วยยอดจองรถยนต์รวมกว่า 75,246 คัน และเงินสะพัดกว่า 7 หมื่นล้านบาท

ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย หรือแค่ความต้องการรถใหม่ตามปกติ แต่เกิดจาก แรงกดดันทางนโยบาย และ สงครามราคา ที่บีบให้ผู้บริโภคต้องตัดสินใจว่าไม่ซื้อตอนนี้จะให้ซื้อตอนไหน? Thumbsup จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้ ว่ามันบอกอะไรนักการตลาดและคนทำธุรกิจบ้าง

Motor Expo 2025

ปรากฏการณ์ Panic Buy หรือ Real Demand?

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ Motor Expo ปีนี้ร้อนแรงจนปรอทแตก คือเงื่อนไขของเวลา ตามที่ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานได้ระบุไว้ชัดเจนว่า นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดแห่งปี ผนวกกับมาตรการสนับสนุน EV 3.0 ที่จะสิ้นสุดในปีนี้ และการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่จะเริ่มในปี 2569

ในมุมมองการตลาด นี่คือการใช้กลยุทธ์ Scarcity Marketing หรือ การสร้างความขาดแคลนด้านเวลา ในระดับมหภาค ผู้บริโภครับรู้ว่าหากไม่ซื้อตอนนี้ ราคาในปีหน้าอาจจะไม่มีทางดีเท่านี้อีกแล้ว โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ที่ได้รับอานิสงส์จากส่วนลดและเงินอุดหนุน

ผลลัพธ์ที่ได้คือยอดจองรถยนต์ทั้งหมด 75,246 คัน และจักรยานยนต์ 5,263 คัน โดยมีราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่ขายได้ในงานอยู่ที่ 1,122,347 บาท ซึ่งถือว่าเป็น Ticket Size ที่ไม่ได้ลดลงเลยแม้เศรษฐกิจจะดูชะลอตัว สะท้อนให้เห็นว่า กำลังซื้อ ของคนไทยยังมีอยู่มหาศาล เพียงแต่พวกเขารอ จังหวะ และ ข้อเสนอ ที่คุ้มค่าที่สุดเท่านั้น

Motor Expo 2025

สัดส่วน EV ทาบรัศมีรถสันดาปแบบ 50:50

ข้อมูลที่น่าตกใจและเป็น Highlight ของปีนี้คือข้อมูลจากกิจกรรม ซื้อรถ…ชิงรถ ที่พบว่า รถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) มีสัดส่วนยอดจองสูงถึง 50% เทียบเท่ากับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป (รวมถึง Hybrid และ PHEV) อีก 50%

นี่คือจุดพลิกผันที่สำคัญของวงการยานยนต์ไทย จากเดิมที่ EV เป็นเพียงทางเลือกของ Early Adopter วันนี้มันกลายเป็น Mass Adoption อย่างสมบูรณ์แบบ แบรนด์จีนสามารถเจาะทะลุกำแพงความกลัวเรื่องสถานีชาร์จหรือราคาขายต่อได้ด้วย สงครามราคา และ อัดออพชั่น จนผู้บริโภครู้สึกว่าความเสี่ยงนั้นคุ้มค่าที่จะเสี่ยง

ใครอยู่ใครไปในสมรภูมิเดือด

เมื่อกางตารางยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2025 ออกมาดู เราจะเห็นภาพการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่านระหว่าง ค่ายญี่ปุ่นเจ้าตลาด กับ คลื่นลูกใหม่จากจีน

  • Toyota ยังคงครองบัลลังก์: ด้วยยอดจอง 10,872 คัน Toyota พิสูจน์ให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของ Brand Loyalty และเครือข่ายศูนย์บริการ ยังเป็นปราการด่านสำคัญที่คู่แข่งยังเจาะไม่เข้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Conservative ที่ยังเชื่อมั่นในระบบ Hybrid และความทนทาน
  • Honda ประคองตัว แต่ BYD หายใจรดต้นคอ: Honda เข้าป้ายอันดับ 2 ที่ 6,278 คัน แต่สิ่งที่น่าจับตามองคือ BYD ที่ตามมาติด ๆ ในอันดับ 3 ด้วยตัวเลข 6,212 คัน ช่องว่างเพียงหลักสิบคันนี้ส่งสัญญาณเตือนภัยระดับสีแดงว่า ในปีหน้า เราอาจได้เห็นค่ายรถ EV แซงหน้าค่ายญี่ปุ่นเบอร์รองขึ้นมาเป็น Top 2 ได้ไม่ยาก
  • กองทัพจีนยึดหัวหาด: หากดูอันดับรองลงมาอย่าง GAC Aion, Geely, MG, GWM และ Deepal จะเห็นว่าพื้นที่ใน Top 10 ถูกแบรนด์จากจีนยึดครองไปเกินครึ่ง นี่คือการ Disruption ที่รุนแรงและรวดเร็วที่สุดอุตสาหกรรมหนึ่งในไทย

คนไทยไม่ได้อยากได้รถเก๋งอีกต่อไป?

นอกจากนี้ตัวเลขประเภทรถที่ได้รับความสนใจสะท้อน Lifestyle คนไทยที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

  • SUV ครองเมือง: สัดส่วนสูงถึง 58.4%
  • Sedan: เหลือเพียง 27.8%

ทำไม SUV ถึงชนะขาด? คำตอบอยู่ที่ ความคุ้มค่าแบบ Multi-purpose ในยุคที่ผู้บริโภคฉลาดเลือก พวกเขามองหารถคันเดียวที่ตอบโจทย์ได้ทุกมิติ ทั้งขับไปทำงาน ขนของ และพาครอบครัวเที่ยว ประกอบกับรถ EV รุ่นใหม่ ๆ มักเปิดตัวในรูปทรง SUV หรือ Crossover ทำให้ตัวเลขนี้พุ่งสูงขึ้นไปอีก รุ่นยอดนิยมอย่าง Mitsubishi Xforce, Honda HR-V, BYD Atto 3 และ Toyota Yaris Cross ต่างก็อยู่ในเซกเมนต์นี้ทั้งสิ้น

ออฟไลน์แน่น ออนไลน์เดือดในแง่โปรโมชัน

ความสำเร็จของงานครั้งนี้ไม่ได้วัดแค่ยอดขายหน้างาน แต่รวมถึงการจัดการ Traffic และ Experience ของผู้บริโภค

  • Infrastructure Impact: การเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยระบายคนเข้างานได้มหาศาล ลด Pain Point เรื่องรถติดและที่จอดรถ ทำให้ยอดผู้เข้าชมงานพุ่งไปถึง 1.5 ล้านคน
  • Online Engagement: ยอดผู้ชมงานออนไลน์กว่า 2 ล้านวิว และการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกว่า 4.5 หมื่นคน สะท้อนว่า Customer Journey ของคนซื้อรถในปัจจุบันเป็นแบบ Hybrid คือหาข้อมูล ดูรีวิว และตัดสินใจผ่านหน้าจอก่อน แล้วค่อยมา สัมผัสตัวจริง และ จองซื้อ ที่หน้างาน

Thumbsup มองว่า ตัวเลข 7 หมื่นล้านบาทในงาน Motor Expo 2025 คือสัญญาณชีพที่บอกว่าเศรษฐกิจระดับรากหญ้าอาจจะเหนื่อย แต่ระดับกลางถึงบนยังมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่ง สิ่งที่นักการตลาดต้องจับตามองในปี 2026 คือ เมื่อไม่มีส่วนลดภาครัฐแล้ว แบรนด์ EV จะงัดไม้ตายอะไรมาสู้ และแบรนด์ญี่ปุ่นจะทวงคืนพื้นที่ด้วย Hybrid ได้มากน้อยแค่ไหน

สำหรับผู้บริโภค นี่คือยุคทองของตัวเลือก แต่สำหรับแบรนด์ มันคือยุคที่ Product is King แต่ Price is God ใครที่ปรับตัวช้า อาจจะไม่มีที่ยืนในตาราง Best Selling ของปีหน้าก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: