Site icon Thumbsup

โอโม เอฟเฟค…อีกหนึ่ง Branded App. ของคนไทย

แม้จะไม่ใช่ของใหม่นักสำหรับ Branded Application กับการเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักการตลาดที่จะยกแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักและได้รับกระแสนิยมเพื่อประโยชน์ทางการค้า และเมื่อไม่กี่วันมานี้ หนึ่งในแบรนด์ใหญ่หนึ่งรายที่เรียกว่าเป็นที่รู้จักกันกับคำพูดติดปากว่า “ขาวโอโม” ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึง ผงซักฟอก “โอโม” อยู่ และพวกเขาก็ทำแอพพลิเคชันออกมา ซึ่งถือได้ว่าเป็น Branded Application ที่น่าสนใจมาก แต่ความน่าสนใจจะอยู่ที่ไหน เราไปดูกันได้เลยครับ…

สำหรับบางท่านที่อาจจะยังไม่คุ้น ลองมารู้จักกับคำๆ นี้กันก่อนดีกว่า ว่าเจ้า Branded Application มันคืออะไร แล้วมีประโยชน์อะไรกันบ้าง?

จริงๆ แล้ว Branded Application นั้นก็คือแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนธรรมดานี่ล่ะครับ แต่จุดมุ่งหมายส่วนใหญ่ของการทำ Branded Application ก็เพื่อให้เจ้าของแบรนด์นั้นสร้าง Awareness หรือการระลึกถึงได้กับแบรนด์นั้นๆ

การทำแอพฯ นั้น อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องมีคุณสมบัติใดๆ ที่เอื้อต่อการขายของให้กับแบรนด์นั้นๆ มากจนเกินไป แต่อาจจะมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน และให้ผู้ใช้งานได้รู้จักแบรนด์ไปได้โดยทางอ้อม

โดยทาง Unilever เลือกที่จะให้บริษัทผลิตแอพฯ อย่าง Liffilab สร้างแอพฯ ถ่ายรูป โดยคงคอนเซปต์ที่พยายามสื่อให้นึกถึงความขาวให้นึกถึงโอโมทันที โดยคุณสมบัติของแอพฯ อย่าง “โอโม เอฟเฟค” ก็สามารถที่จะทำให้ภาพถ่ายของคุณที่เลือกจาก Camera Roll หรือจะถ่ายภาพใหม่จากกล้องบน iPhone ก็ได้

หลังจากถ่ายเสร็จแล้วคุณยังสามารถที่จะแชร์ต่อไปยัง Facebook ของคุณ บันทึกเก็บไว้ในอัลบั้มของคุณ หรือจะส่งเข้าประกวดกับโครงการ “ส่งท่าขาวมั่นลุ้นทอง” ซึ่งก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและภาพของผู้เข้าประกวดแต่ละท่านที่ Fan Page ของทาง OMO Thailand

นอกจากนี้ในหน้า Fan Page ของ OMO Thailand ยังให้ผู้ที่จะเข้าสนุกได้ส่งภาพเข้าประกวดได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ

แต่สิ่งที่พูดถึงมาข้างต้นนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะชื่นชมหรอกนะครับ หากแต่หากริเริ่มที่จะมีกิจกรรม และการสร้าง Branded Application ที่ไม่ได้เป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าในลักษณะที่เน้นการขายตัวสินค้าโดยตรง หากแต่สร้าง Awareness ให้ผู้ใช้งานเห็นและจดจำได้เองต่างหาก

นอกจากนี้การนำคอนเซปต์และคำที่ติดปาดของใครหลายคนมาเล่นอย่าง “ขาวโอโม” มาสร้างเป็นแอพฯ ถ่ายภาพที่ปรับแต่งให้ขาวขึ้น เรียกว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยทีเดียวล่ะครับ

สำหรับ “โอโมเอฟเฟค” ผู้ใช้งาน iPhone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชัน 4 ขึ้นไปสามารถไปดาวน์โหลดมาลองเล่นได้เลย และก็อย่าพลาดการเข้าร่วมสนุกในโครงการของพวกเขาด้วยนะครับ…