Sport Betting

ในโลกของการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปี 2025 เราเห็นการรบที่ดุเดือดบนโลกอีคอมเมิร์ซที่แบรนด์ไทยต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ แต่ในอีกฟากหนึ่งของโลกเทคโนโลยีการเงิน หรือ Fintech รวมถึงการลงทุน กำลังเกิดปรากฏการณ์ที่ ดุเดือด ไม่แพ้กัน นั่นคือการระเบิดตัวของ Prediction Markets หรือตลาดการคาดการณ์เหตุการณ์ ซึ่งกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าจากการเดิมพันในวงแคบไปสู่แพลตฟอร์มการเทรดระดับแมสที่มูลค่ามหาศาล

ปรากฏการณ์ Kalshi vs Polymarket

หากจะพูดถึงตัวละครหลักในเรื่องนี้ คงหนีไม่พ้น Kalshi และ Polymarket สองแพลตฟอร์มที่เป็นหัวหอกสำคัญในการเปลี่ยนให้การคาดการณ์อนาคตกลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ซื้อขายได้จริง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมาก ข้อมูลระบุว่าปริมาณการซื้อขายรายสัปดาห์ของ Kalshi พุ่งทะยานจนสามารถแซงหน้า Polymarket ได้สำเร็จ โดยมีตัวเลขทะลุ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สิ่งที่น่าตกใจคือ กีฬา เพราะจากเดิมที่ตลาดเหล่านี้ถูกใช้เพื่อคาดการณ์เรื่องนโยบายสาธารณะหรือดัชนีทางเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันยอดการซื้อขายกว่า 70% ของ Kalshi มาจากสัญญาที่เกี่ยวข้องกับกีฬาโดยตรง นี่คือสัญญาณที่บอกเราว่า ผู้บริโภคไม่ได้มองกีฬาเป็นเพียงความบันเทิงเพื่อการผ่อนคลายอีกต่อไป แต่มองว่าเป็น Data Set ขนาดใหญ่ที่พวกเขาสามารถใช้ความเชี่ยวชาญส่วนตัวมาทำกำไรได้

เมื่อกระแสหลักกลายเป็นสมรภูมิเก็งกำไร

ความสำเร็จของ Prediction Markets ไม่ได้ดึงดูดแค่กลุ่มนักเล่นหน้าใหม่ แต่ยังรวมถึงยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเดิมด้วย DraftKings และ FanDuel สองเจ้าพ่อ Sportsbook ธุรกิจรับพนันกีฬา และคาสิโน) ของอเมริกาเริ่มขยับตัวเข้าหาโมเดลนี้เพื่ออุดช่องโหว่ทางกฎหมายในบางรัฐ เช่น แคลิฟอร์เนีย ซึ่งการพนันกีฬาแบบดั้งเดิมยังไม่ถูกกฎหมาย แต่การเทรด สัญญาเหตุการณ์ หรือ Event Contracts อาจมีช่องว่างให้ทำได้

ในฝั่งของ Fintech แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Robinhood และ Coinbase ก็ไม่ยอมตกขบวน โดยเฉพาะ Robinhood ที่ระบุว่าตลาดคาดการณ์กลายเป็นสายผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่บริษัทเคยมีมา โดยตั้งเป้ารายได้ต่อปีจากส่วนนี้สูงถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลยุทธ์ที่พวกเขาใช้คือการทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้ด้วยเงินเพียง 10 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโมเดลที่สอดคล้องกับการสร้าง Brand Positioning ที่เน้นความเท่าเทียมและการเข้าถึงง่ายสำหรับคนรุ่นใหม่

ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน vs เจ้ามือรับพนัน

ในฐานะนักการตลาด เราต้องมองให้ออกว่า Prediction Markets ต่างจาก Sportsbook อย่างไร

  • Prediction Markets: ทำหน้าที่เป็น Exchange หรือตลาดแลกเปลี่ยนที่ให้ผู้ใช้มาตั้งราคาและจับคู่ซื้อขายกันเอง แพลตฟอร์มกินค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรม
  • Sportsbook: ทำหน้าที่เป็น Market Maker หรือเจ้ามือที่กำหนดราคาเอง รับความเสี่ยงเอง และจ่ายเงินรางวัลเอง

ความต่างนี้เองที่ทำให้ Prediction Markets พยายามจัดประเภทตัวเองให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ในฐานะตราสารอนุพันธ์ ซึ่งแตกต่างจากการพนันทั่วไปที่ต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐ จุดนี้คือจุดแข็งที่สำคัญมากในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วประเทศโดยไม่ต้องรอการอนุมัติใบอนุญาตการพนันที่ซับซ้อน

เมื่อความโปร่งใสของกีฬาถูกท้าทาย

แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าเหรียญมีสองด้าน ลีกกีฬาระดับโลกอย่าง NFL, NBA และหน่วยงานอย่าง NCAA กำลังเป็นกังวลอย่างหนัก ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในสัปดาห์นี้คือการที่ Kalshi ยื่นขอเปิดตลาดเดิมพันว่านักกีฬามหาวิทยาลัยคนไหนจะย้ายสถาบัน

Charlie Baker ประธาน NCAA ออกมาเตือนว่านี่คือภัยคุกคามต่อตัวนักกีฬาเอง การเปิดให้คนทั่วไปมาวางเงินเดิมพันกับชีวิตส่วนตัวและการตัดสินใจของเยาวชน อาจนำไปสู่การคุกคามทางออนไลน์ หรือแม้แต่การล่อลวงให้นักกีฬาทำพฤติกรรมที่เอื้อต่อผลการเดิมพัน นี่คือโจทย์ใหญ่ที่แบรนด์ในกลุ่มนี้ต้องแก้ให้ตก หากต้องการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

Thumbsup มองว่า จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ เราจะเห็นภาพชัดเจนว่าโลกในปี 2025 กำลังเคลื่อนที่เข้าสู่ยุคที่ ข้อมูล และ การคาดการณ์ กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ต่างจากสินค้าแฟชั่นที่ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน นอกจากนี้ความสำเร็จของ Prediction Markets ในปีนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง 3 ปัจจัยคือ

  1. Technology Maturity: การมีระบบการชำระเงินที่รวดเร็วทำให้การเทรดเกิดขึ้นได้แบบเสี้ยววินาที
  2. Consumer Behavior: กลุ่ม Gen Z และคนรุ่นใหม่ต้องการมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์โลกในรูปแบบที่เป็นมากกว่าแค่ผู้ชม
  3. Regulatory Arbitrage: การใช้ช่องว่างทางกฎหมายระหว่างการพนันและการลงทุนเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

สำหรับแบรนด์ไทยและนักการตลาด สิ่งที่เราต้องเรียนรู้คือการ Gamify ประสบการณ์ของลูกค้า แต่ต้องทำบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ ความพยายามของ Kalshi ที่จะใช้ระบบเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการปั่นตลาด คือตัวอย่างของการพยายามสร้างมาตรฐานใหม่ แต่คำถามที่ยังคงอยู่คือ นวัตกรรมนี้จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ทางการเงิน หรือจะเป็นเพียงกระแสชั่วคราวอย่าง NFT?

อ้างอิง: The Information

อ่านเพิ่มเติม

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: