Site icon Thumbsup

ส่องวิกฤติ “แอพพลิเคชันราคาตก” ในรอบ 3 ปี

price1

แม้ว่าโลกจะมีจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ตลาดแอพพลิเคชันกลับดูซบเซาและทำเงินน้อยลง โดยเว็บไซต์ Appzapp.net ได้สรุปผลการสำรวจที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาแอพพลิเคชันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนเป็น Infographic ที่แสดงถึงแนวโน้มของตลาดแอพพลิเคชันในยุคนี้ได้อย่างชัดเจน

การรวบรวมของ Appzapp พบว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาตลาดแอพพลิเคชันไม่อู้ฟู้ร้อนแรงเหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะจำนวนแอพพลิเคชันแบบเสียเงิน (Paid App) ที่หันมารลดราคามากถึง 40% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงถูกเปลี่ยนมาให้ใช้บริการฟรีมากถึง 60%

กลุ่มแอพพลิเคชันที่”ราคาตก”เร็วที่สุด หรือมีการลดราคาเร็วที่สุดคือ แอพหมวดเกมส์ (Games) ซึ่งถูกนำมาลดราคาหลังจากเปิดใช้บริการในรูปแบบ Paid App ในระยะเวลาเฉลี่ยเพียงแค่ 83 วันเท่านั้น รองลงมาเป็นกลุ่มแอพที่เกี่ยวกับรูปภาพและวีดีโอ (Photo and Video) 85 วัน และแอพหมวดพยากรณ์อากาศ (Weather) 93 วัน

กลุ่มแอพพลิเคชันที่พบว่าสามารถคงราคาเดิม และทิ้งช่วงเวลาก่อนที่ราคาจะตกลงได้ยาวนานที่สุดคือ แอพแนะนำเส้นทาง (Navigation) ซึ่งสามารถทิ้งเวลายาวนานที่สุดราว 177 วัน ตามมาด้วยแอพหมวดท่องเที่ยว (Travel) 156 วัน และแอพหมวดอ้างอิงกรือ Reference 141 วัน

เมื่อลองเจาะลึกลงไปในกลุ่มแอพเกมส์ จะพบว่าแอพส่วนใหญ่เป็น Paid App ถึง 2 ใน 3 ของแอพทั้งหมด โดย 90% ของ Paid App จะถูกนำมาลดราคาหลังจากเปิดใช้งาน 83 วัน และนอกจากนั้น แอพที่ไม่ติดอันดับท็อป 3 มักจะถูกเปลี่ยนจากการใช้งานจากแบบ Paid App มาเป็น Free App อีกด้วย

ในกลุ่มผู้พัฒนาเกมส์อย่างค่าย Chillingo, Electronic Arts, Gameloft, Rovio Mobile และ SEGA พบว่า Chillingo ที่เคยพัฒนาเกมส์ฮิต เช่น Cut the Robe และ Contre Jour เป็นผู้พัฒนาเกมส์ที่มีจำนวน Paid App และแอพที่ถูกเปลี่ยนมาเป็น Free App มากที่สุด โดย Paid App มีจำนวนอยู่ที่ 253 แอพ และแอพที่ถูกเปลี่ยนมาเป็น Free App มีราว 70 แอพ

ส่วนค่าย Rovio Mobile สามารถครองแชมป์ค่ายที่มีแอพเกมส์ซึ่งได้รับความนิยมยาวที่สุด โดยแอพมีระยะเวลาก่อนลดราคาอยู่ที่ 270 วันและมีช่วงก่อนจะนำแอพมาเปิดให้ใช้ฟรียาวนานที่สุดถึง 623 วัน

ที่มา:?Visual.ly