Writer: 
Share
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับธรรมเนียมการตั้ง New Year’s Resolution พอเข้าสู่เดือนมกราคม เราก็มักจะไฟแรงเขียนลิสต์สิ่งที่อยากทำยาวเหยียด แต่พอผ่านไปสัก 3 เดือน… ไฟนั้นก็มอดลง และเราก็กลับไปใช้วงจรชีวิตแบบเดิม ๆ รอจนถึงเดือนธันวาคมค่อยมานั่งเสียดายว่า ปีนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
คำตอบไม่ได้อยู่ที่ความขี้เกียจ แต่อยู่ที่ กรอบเวลา ที่เรามอบให้ตัวเองมันนานเกินไป
วันนี้ Thumbsup จะพามาถอดรหัสหนังสือ The 12 Week Year ของ Brian P. Moran และ Michael Lennington หนังสือที่จะมาบอกว่า เลิกคิดเป็นรายปีซะ แล้วหันมาโฟกัสแค่ 12 สัปดาห์ เพื่อรีดศักยภาพสูงสุดของคุณออกมา
กับดักของ Annualized Thinking
Brian P. Moran ผู้เขียนชี้ให้เห็นจุดตายของคนส่วนใหญ่ นั่นคือสิ่งเรียกว่า Annualized Thinking หรือการมองเวลาในกรอบ 1 ปี หรือ 12 เดือน การที่เราคิดว่าเรามีเวลาตั้ง 365 วันในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ มันทำให้เราเกิด ความชะล่าใจ
เรามักจะคิดว่า เดี๋ยวค่อยเริ่มเดือนหน้าก็ได้ ยังมีเวลาอีกเยอะ ความคิดนี้แหละคือยาพิษที่ฆ่า Productivity อย่างเลือดเย็น เพราะมันขาดสิ่งที่เรียกว่า Sense of Urgency หรือความรู้สึกเร่งด่วน
ลองสังเกตดูสิว่า ช่วงเวลาที่คนเราจะ Productive ที่สุด มักจะเป็นช่วง ใกล้เส้นตาย เสมอ เหมือนกับช่วงสิ้นปีที่หลายบริษัทเร่งทำยอดขาย หรือช่วงก่อนปิดงบประมาณที่ทุกคนวิ่งวุ่นทำงานจนเสร็จ แล้วถ้าเราสามารถจำลอง ความเร่งด่วนช่วงสิ้นปี ให้เกิดขึ้นตลอดเวลาล่ะ?
นั่นคือที่มาของคอนเซปต์ The 12 Week Year คือการสมมติว่า 1 ปีของคุณ มีแค่ 12 สัปดาห์ หรือ 3 เดือน เท่านั้น ไม่มีเดือนที่ 4, 5 หรือ 6 พอจบ 12 สัปดาห์ คือจบปี แล้วเริ่มปีใหม่ทันที
ด้วยวิธีนี้ คุณจะมี สิ้นปี ถึง 4 ครั้งใน 1 ปีจริง ซึ่งแปลว่าคุณจะมีช่วงเวลาแห่งความตื่นตัวและการเร่งสปีดเพื่อปิดยอดถึง 4 รอบ!
ความรู้ท่วมหัว แต่ตัวไม่ขยับ
มีประโยคหนึ่งในหนังสือที่น่าสนใจมาก คือการอ้างถึง Steven Pressfield ผู้เขียน The War of Art ที่บอกว่า เราทุกคนมีชีวิตอยู่ 2 แบบ คือชีวิตที่เราเป็นอยู่ และชีวิตที่เราสามารถเป็นได้”
ช่องว่างระหว่างสองสิ่งนี้ ไม่ใช่การขาดความรู้ แต่คือการขาด การลงมือทำ
ในยุค Information Overload แบบนี้ พวกเราชาวการตลาดรู้วิธีลดความอ้วน รู้วิธีทำการตลาดให้ปัง รู้วิธีเขียนคอนเทนต์ที่ดี ข้อมูลพวกนี้หาได้ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต แต่ทำไมเราถึงยังไม่สำเร็จ? เพราะ Knowledge is Power เป็นคำโกหก ความรู้จะเป็นพลังก็ต่อเมื่อถูกนำไปใช้เท่านั้น
The 12 Week Year ไม่ได้เน้นให้คุณไปเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติม แต่เน้นให้คุณ “ทำ” ในสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้วว่าต้องทำ แต่ทำให้ สม่ำเสมอ และ เข้มข้น ขึ้น
เจาะลึกระบบ Execution System กับ 3 หลักการ 5 วินัย
เพื่อให้การย่อปีเหลือ 12 สัปดาห์ได้ผลจริง ไม่ใช่แค่การมโนเอาเอง หนังสือได้วางระบบไว้ค่อนข้างชัดเจน โดยแบ่งเป็น 3 หลักการ และ 5 วินัย
3 หลักการสู่ความสำเร็จ (Principles)
- Accountability (ความรับผิดชอบ): เลิกโทษดินฟ้าอากาศ เลิกโทษเศรษฐกิจ หรือ Algorithm Facebook คุณต้องยอมรับว่าผลลัพธ์ในชีวิตคุณ เกิดจากการตัดสินใจของคุณเอง การเป็นเจ้าของผลลัพธ์ทั้งดีและร้าย คือจุดเริ่มต้นของคนจริง
- Commitment (พันธะสัญญา): คำนี้ต่างจาก ความสนใจ อย่างสิ้นเชิง ถ้าคุณแค่ สนใจ คุณจะทำเมื่อสะดวก แต่ถ้าคุณ Commit คุณจะทำแม้ในวันที่ไม่อยากทำ มันคือการรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับตัวเอง
- Greatness in the Moment (ความยิ่งใหญ่ในขณะปัจจุบัน): ผลลัพธ์ไม่ได้เกิดขึ้นตอนที่คุณรับรางวัล แต่มันเกิดขึ้นในวินาทีที่คุณเลือกที่จะ ทำ ตามแผน แทนที่จะนอนไถมือถือ ความสำเร็จซ่อนอยู่ในกิจวัตรเล็ก ๆ ประจำวัน
5 วินัยในการปฏิบัติ (Disciplines)
- Vision (วิสัยทัศน์): ก่อนจะวิ่ง ต้องรู้ก่อนว่าจะวิ่งไปไหน การมีภาพฝันที่ชัดเจนจะช่วยฉุดคุณขึ้นมาในวันที่เหนื่อยล้า วิสัยทัศน์ต้องสอดคล้องทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เพราะ Work-Life Balance ที่ดีเกิดจากการวางแผน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
- Planning (การวางแผน): แผนที่ดีต้องนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงในระบบ 12 สัปดาห์ แผนงานของคุณต้องละเอียดระดับรายสัปดาห์ และรายวัน
- Process Control (การควบคุมกระบวนการ): ใช้เครื่องมือช่วยเพื่อลดโอกาสความผิดพลาด เช่น ถ้าต้องตื่นเช้า ก็ตั้งนาฬิกาปลุกวางไว้ไกล ๆ มือ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำตามแผน
- Measurement (การวัดผล): ในการกีฬา คะแนนคือสิ่งที่บอกว่าใครแพ้ใครชนะ ในชีวิตจริงก็ต้องมี Scorecard เพื่อบอกว่าเรา On Track หรือไม่ การวัดผลรายสัปดาห์จะช่วยให้เรารู้ตัวเร็ว ปรับตัวทัน ไม่ใช่รอจนสิ้นปีค่อยรู้ว่าเจ๊ง
- Time Use (การใช้เวลา): เวลาคือทรัพยากรที่แพงที่สุด จงเรียนรู้ที่จะปฏิเสธงานที่ไม่สำคัญ แล้วเอาเวลาไปลงกับ Keystone Actions หรือกิจกรรมหลักที่ส่งผลต่อเป้าหมายจริง ๆ
ทำไมต้อง 12 สัปดาห์ และจะเริ่มยังไง?
เหตุผลที่เลข 12 สัปดาห์เวิร์ก เพราะมัน นานพอ ที่จะทำโปรเจกต์ใหญ่ให้เสร็จ แต่ก็ สั้นพอ ที่จะมองเห็นเส้นชัยได้ชัดเจนจนไม่กล้าอู้ ผ่าน 4 วิธีง่าย ๆ ดังนี้
- กำหนดเป้าหมาย: เลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดมา 1-3 อย่าง (อย่าเยอะกว่านี้) ที่อยากให้สำเร็จใน 12 สัปดาห์ข้างหน้า
- วางแผนรายสัปดาห์: แตกเป้าหมายนั้นออกมาเป็น Action Plan ว่าในแต่ละสัปดาห์ต้องทำอะไรบ้าง
- สร้าง Scorecard: เช็กตัวเองทุกสัปดาห์ว่าทำตามแผนได้กี่เปอร์เซ็นต์
- Celebrate Small Wins: ฉลองความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเติมกำลังใจ
Thumbsup มองว่า การอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ไม่ได้การันตีความสำเร็จ แต่การ เริ่มทำ ต่างหากคือคำตอบ
ในโลกการทำงานจริง โดยเฉพาะสาย Tech และ Marketing ที่ทุกอย่างหมุนเร็ว การรอประเมินผลรายปีอาจจะล้าหลังเกินไป การนำคอนเซปต์ The 12 Week Year มาปรับใช้ ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่อง Productivity ส่วนบุคคล แต่ยังช่วยให้ทีมมีความคล่องตัวมากขึ้น
จำไว้ว่า คุณเป็นคนกำหนดโชคชะตาตัวเองผ่านการกระทำในแต่ละวัน อย่ารอให้ถึงปีหน้า เพราะ ปีใหม่ เริ่มต้นได้ทันทีที่คุณตัดสินใจ… เริ่มนับสัปดาห์ที่ 1 ของคุณตั้งแต่วันนี้เลย
อ่านเพิ่มเติม
