เราทุกคนใน thumbsup รู้อยู่แล้วว่าคนทั่วโลกใช้ smartphone เพิ่มขึ้นทุกวัน…
เราพร่ำบอกกันถึงนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีอย่าง NFC (Near Field Communication ที่จะมีบทบาทในเรื่องการจ่ายเงินออนไลน์) แอพพลิเคชั่นมือถือ ที่ล้วนแล้วแต่มีส่วนทำให้วิธีการสร้าง วิธีการส่ง และวิธีการเสพ “เนื้อหา” หรือที่ชอบเรียกทับศัพท์กันว่า Content เปลี่ยนแปลงไปมากมาย…
สมัยก่อน… ใครจะคาดคิดว่าเราจะต้องซื้อโทรศัพท์มาเพื่อใช้แชตกัน ใครจะคิดว่าเราต้องซื้อโทรศัพท์มาเพื่อแชร์กันว่าเราอยู่ไหน ทำให้เกิดสื่อทั้งเว็บไซต์ นิตยสารแนะนำการซื้อโทรศัพท์มือถือ, smartphone ออกมาบานตะไท
แต่เรามาดูเหตุผลกันไหมว่า “ทำไม?” ผู้บริโภคถึงเลือกเครื่องนั้น ไม่เลือกเครื่องนี้ อะไรทำให้เขาตัดสินใจอย่างนั้น บทความใน Mashable อ้างอิงผลการวิจัยจากบริษัทวิจัยที่ชื่อว่า Mintel ได้ทำรายงานออกมาถึงภาพรวมและปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อ smartphone ของฝรั่ง มาดูกันนะครับว่าตรงกับของไทยเรามากน้อยแค่ไหน
คนอยาก UPGRADE เพราะมันมีคุณสมบัติต่างๆ มากขึ้น
Mintel แบ่งกลุ่มผู้ใช้ smartphone ออกเป็น 2 ประเภทครับ แบบแรกคือประเภท UPGRADE คือ มีเครื่องเก่าแล้วอยากจะอัพเกรดเป็น smartphone และประเภทที่ 2 ก็คือ REPLACEMENT คือใช้ smartphone อยู่แล้วแต่จะเปลี่ยนเครื่อง เพราะว่าราคา smartphones สูงกว่า feature phone ถึง 4 เท่าโดยเฉลี่ย ทำให้ผู้บริโภคจะซื้อทีนึงต้องคิดหน่อย แต่อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน ผู้ใช้มีแนวโน้มที่กำลังจะ UPGRADE เป็น smartphone อยู่แล้วเพราะช่วงนี้คือช่วงเปลี่ยนผ่าน จากคนที่ใช้ feature phone มาร่วมสิบปี จะ upgrade ทั้งทีก็เลยต้องเป็น smartphone และในผลการสำรวจผู้บริโภคของ Mintel ยังบอกอีกด้วยว่า 24% ของผู้ตอบแบบสอบถามผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือระบุว่าพวกเขาเปลี่ยนโทรศัพท์อย่างน้อยปีละครั้ง
แล้ว features อะไรที่กระตุ้นให้คนใช้ฟีเจอร์โฟนเปลี่ยนไปใช้ smartphone ล่ะ? อาจจะไม่เหมือนเมืองไทยสักทีเดียวนะครับ
- 4G (สำหรับเมืองไทยก็เอาแค่ 3G ก่อน รอเหงือกแห้งแล้ว!) ? ถึงจะยังมาไม่ถึงสักทีเดียวแต่ก็อย่าประมาทไป เครือข่าย 4G ทำให้เราดาวน์โหลดเนื้อหาได้ไว คนที่ซื้อ smartphone ในเมืองใหญ่ๆ ก็จะชอบ ในรายงานระบุว่า 16% ของเจ้าของมือถือกล่าวว่ามือถือที่ตัวเองจะซื้อรุ่นต่อไปจะต้องสนับสนุนเทคโนโลยี 4G (ในเมืองไทยผมเดาว่าถึงมีเครื่องที่สนับสนุน 4G ออกมาก็ยังใช้อะไรไม่ได้มากนัก เอาให้ 3G ผ่านๆ ไปก่อนเถอะ)
- Video Calling ? ตอนนี้เราคงเห็นกันแล้วว่า Video call แบบเห็นหน้ากันมันเป็นลูกเล่นธรรมดาไปแล้ว ในขณะที่ 15% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าสนใจใช้ลูกเล่นตัวนี้ แต่พอถามว่าจะเปลี่ยนมือถือใหม่ ต้องมีฟีเจอร์ Video call นี้เลยไหม ก็มีครับประมาณ 10% แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ผู้บริโภคคงไม่ต้องห่วงกันมากเพราะตอนนี้ “กล้องหน้า” กลายเป็นอะไรที่ผู้ผลิตทำออกมาอยู่แล้ว และเราจะใช้พวกบริการ VoIP อย่าง Skype ได้อยู่แล้ว
- จอใหญ่ๆ ? เดี๋ยวนี้เราจะเห็นว่า smartphone จอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในรายงานระบุว่า 27% ของผู้ตอบแบบสอบถามอยากให้หน้าจอของตัวเองใหญ่ขึ้น อย่างตอนนี้หน้าจอ 4 นิ้วกลายเป็นมาตรฐานมากขึ้นแล้ว
- GPS ? บริการ Location based อย่างพวก Foursquare, Quipster อาจจะไม่ใช่อะไรที่อยู่ในกระแสหลักแต่ผู้ใช้กว่า 52% บอกว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาใช้บริการ GPS นำทางมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง
คนซื้อ smartphone จากที่ไหน?
มาถึงตอนนี้ เรารู้เหตุผลแล้วว่าคนส่วนใหญ่กำลังจะซื้อหรืออัพเกรดโทรศัพท์ของตัวเอง ว่าแต่ซื้อกันที่ไหนบ้าง? ในเมืองนอกแตกต่างจากบ้านเราพอสมควรครับเพราะที่โน่นคนซื้อออนไลน์มากขึ้นในช่วงปี 2552 และ 2553 สัดส่วนของการซื้อโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น? 4.6 จุด ส่วนการซื้อทาง “หน้าร้าน” และทาง Call Center ลดลง 3.8 จุด และ 0.7 จุดตามลำดับ
![user-breakdown-smartphone-retailer-2](http://5.mshcdn.com/wp-content/uploads/2011/09/user-breakdown-smartphone-retailer-2.png)
![user-breakdown-smartphone-retailer](http://6.mshcdn.com/wp-content/uploads/2011/09/user-breakdown-smartphone-retailer.png)
เปรียบเทียบ Brands และ Users
ไม่ผิดคาดที่ผลออกมาจะเป็นว่าคนเปรียบเทียบ Google (ผู้ผลิตระบบ Android ให้กับค่ายมือถือใหญ่ๆ อย่าง HTC, LG, Samsung) กับ Apple อย่างตอนนี้ในเชิงของส่วนแบ่งตลาด Android เติบโตค่อนข้างมาก แต่ในเชิงของความนิยม iPhone ก็ยังได้รับความนิยมสูงสุดอยู่
![user-breakdown-smartphone-age](http://6.mshcdn.com/wp-content/uploads/2011/09/user-breakdown-smartphone-age.png)
![user-breakdown-smartphone-income](http://7.mshcdn.com/wp-content/uploads/2011/09/user-breakdown-smartphone-income.png)
smartphone กลายเป็นกระแสหลักหรือยัง?
ชัดเจนว่าอย่างไรคนก็จะเปลี่ยนจาก feature phone เป็น smartphone เพิ่มขึ้นแต่ก็ยังมีข้อแม้บางอย่างที่ผู้บริโภคต้องคิดต้องตัดสินใจ อย่างผู้บริโภคที่เกิดในยุคเบบี้บูมเมอร์ ผู้บริโภครุ่นเก๋าเหล่านี้ไม่ได้อยากได้ smartphone เพราะไม่ได้รู้สึกว่ามีคุณค่าอะไร อย่างไรก็ตามทาง Mintel มองว่านี่คือโอกาสครั้งใหญ่ที่จะเข้าไปทำตลาด นอกจากนี้ก็คงจะเป็นเรื่อง “ราคา” และ “ความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยี” … ถ้าเทคโนโลยีมีราคาเหมาะสมมากขึ้น การเชื่อมต่อกันระหว่างคอมพิวเตอร์ถึงคอมพิวเตอร์เป็นไปแบบทุกหนทุกแห่ง (ubiquitous) มากขึ้น เมื่อนั้นเองที่ smartphone ถึงจะกลายเป็นกระแสหลักแซงหน้า feature phone ได้ อย่างชาร์ตด้านล่างก็จะแสดงให้เห็นเลยว่าแต่ละช่วงอายุคิดอย่างไร
ที่มา: Mashable