Site icon Thumbsup

YDM Thailand เข้าซื้อกิจการ MullenLowe Thailand แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ 650 ล้านบาท

“เอเจนซี่ยุคนี้จะเก่งแต่ออฟไลน์ไม่ได้ แต่ต้องทำออนไลน์ได้ด้วย”

จากจำนวนของเอเจนซี่ที่เกิดขึ้นใหม่เยอะขึ้น ทำให้ทาง YDM Thailand ประกาศซื้อกิจการ MullenLowe Thailand เครือ IPG กลุ่มธุรกิจเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ระดับโลกสัญชาติอเมริกัน เพื่อดึงมาร่วมทีมเสริมความแข็งแกร่งด้าน Branding & Creative และสร้างสรรค์ผลงานให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านการตลาดครบวงจรทั้งออฟไลน์-ออนไลน์แบบ one stop service เนื่องจากทาง YDM Thailand จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งด้าน Digital Marketing และ Marketing Technology Tools ให้กับ MullenLowe Thailand พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น MullenLowe Bangkok” (มัลเลนโลว์ แบงคอก) นับเป็นบริษัทที่ 10 ในเครือ YDM Thailand ที่จะมาช่วยเสริมทัพเพื่อเตรียมพร้อมสู่การนำบริษัทฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

ภาพรวมรายได้ในปีที่ผ่านมาปิดรายได้ 580 ล้านบาท ส่วนปีนี้น่าจะทำได้ที่ 650 ล้านบาท (รวมรายได้จาก MullenLowe แล้ว) ที่ไม่ตั้งไว้สูง เพราะประเมินจากสภาพเศรษฐกิจที่ทุกอย่างชะลอตัวด้วย โดยรายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากกลุ่มของ Adyim และ FCB เป็นฐานหลักที่จะทำรายได้ดีในปีนี้เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ CEO YDM Thailand กล่าวว่า ด้วยจำนวนดิจิทัลเอเจนซี่รายใหม่ที่เกิดขึ้นทุกวัน ทำให้การทำงานของนักการตลาดยุคใหม่ต้องมีความท้าทาย ไม่ได้จำกัดแค่การทำงานแบบออฟไลน์ แต่ต้องใช้เทคโนโลยีให้มากขึ้น ก้าวข้ามให้พ้นคำว่า Advertising แบบเดิมๆ และต้องมองหาวิธีทำให้ลูกค้ารักเรามากกว่าเดิม เพราะออนไลน์เข้ามาอยู่ในไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งต้องมองหาโซลูชั่นที่เหมาะสม

ยกตัวอย่าง จากปัญหาของกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ที่ส่งสัญญาณเป็นกลุ่มแรก ว่าเจอผลกระทบชะลอตัวอย่างมาก ทั้งจากการเริ่มลดราคาขาย ยิ่งกลุ่มระดับกลาง ค่าส่วนกลาง ลดราคาลงเยอะ สะท้อนให้เห็นถึงสภาพคล่องของกลุ่มนี้น้อยลงกว่าเดิม แต่ในกลุ่มธุรกิจลูกค้าอื่นๆ อย่างสินค้าอุปโภคบริโภคยังมีการใช้จ่ายที่ดีอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบไปในช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น

สำหรับปัญหา COVID-19 มองว่าตอนนี้ยังยากที่จะเรียกความมั่นใจในการใช้จ่าย ควรวางแผนระยะสั้นก่อนดีกว่าว่าจะทำอะไรได้บ้างตอนนี้ หรือเพิ่มเติมช่องทางการขายบนออนไลน์อะไรได้บ้างในสถานการณ์นี้ มากกว่าแค่ขายหน้ากาก เพราะส่วนตัวเชื่อว่ายังมีโอกาสใหม่ๆ ซ่อนอยู่ แต่อยู่ที่ว่าในแต่ละธุรกิจมองตัวเองออกไหม หรือสามารถนำ access อะไร ที่จะนำมาสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจได้บ้าง หรือหมุนคนในองค์กรไปทำงานในจุดที่ต่างจากเดิม แต่สร้างโอกาสใหม่ให้เกิดประโยชน์กับองค์กรได้มากกว่าเดิมบ้าง เพราะไม่รู้อนาคตที่จะเกิดขึ้นจริง

สิ่งที่เรามองว่าเราสามารถทำได้คือการผลักดันผู้ประกอบการให้เข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น อาจจะเปิดสอนหลักสูตรออนไลน์เพื่อให้ธุรกิจนำไปปรับใช้งานได้ เน้นการเพิ่มองค์ความรู้มากกว่าเรื่องของเงินทอง

“เรามีลูกค้าหลายระดับ ถ้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่และกลาง คนกลุ่มนี้ต้องการสำรองเงินไว้ และจะลดการทำมาร์เก็ตติ้งซึ่งอันนี้อาจจะส่งผลกระทบกับบริษัทเอเจนซี่ แต่กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีรายเล็กที่มีจำนวนมากจะน่าเป็นห่วง เพราะเขากำลังมองหาโอกาสในการขายใหม่ๆ หรือหาเน็ตเวิร์คใหม่ๆ ซึ่งยังอยู่ในช่วงพูดคุยกับทีมว่าจะใช้โซลูชั่นไหนถึงจะเหมาะสมกับลูกค้าของเรา”

ทางด้านของ คุณทุติยา ดิสภานุรัตน์ Head of O2O Business, YDM Thailand กล่าวว่า เรามองว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้คือโอกาส เพราะลูกค้าของเราจากที่เคยให้เราดูแลในเชิงออฟไลน์ แต่ก็ต้องการเซอร์วิสที่เป็น One Stop Agency ทำให้เรามองว่าการทำงานกับ YDM Thailand จะช่วยให้ทำงานได้แบบครบวงจรมากขึ้น

ธุรกิจโฆษณาปัจจุบันจำเป็นต้องมีการ “Diversify” ธุรกิจตนเอง ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าธุรกิจเอเจนซี่ จะอยู่ในรูปแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกต่อไป ส่วนอีกเทรนด์หนึ่งที่เห็นได้ชัด คือ การมองหา Local Partner ที่แข็งแกร่งมาจับมือทำธุรกิจร่วมกัน อย่างที่ MullenLowe ทำอยู่ เพื่อจะได้มีผู้ที่ชำนาญการทำธุรกิจในพื้นที่นั้นๆ จริงๆ มาช่วยดำเนินงานให้ เรียกว่าหมดยุคที่เอเจนซี่เจ้าเดียวจะทำงานรวมศูนย์ในภูมิภาคนั้นๆ แล้ว”

แม้ว่าการชะลอการลงทุนของแบรนด์เพื่อดูสถานการณ์และประเมินผลกระทบก่อนในสถานการณ์ที่ประเมินยากอย่าง COVID-19 แต่เชื่อว่าถ้าเจ้าของธุรกิจที่มีความมั่นใจและรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ ย่อมส่งผลต่อภาพรวมรายได้ในระยะยาว