Writer: 
Share
ในโลกของเทคโนโลยี คำว่า Comeback ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่เคยเป็นไอคอนิกในยุคหนึ่งแล้วหายไปจากสปอตไลท์อย่าง BlackBerry แต่เชื่อไหมว่าในขณะที่เรากำลังยุ่งอยู่กับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI และยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ชื่อของ BlackBerry กลับค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปอยู่ในรากฐานของอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างแข็งแกร่ง
วันนี้เราจะพาชาว Thumbsup มาส่องผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2026 ที่บอกเลยว่า ไม่ธรรมดา เพราะนี่คือการส่งสัญญาณชัดเจนว่า BlackBerry ในร่างใหม่นั้นคืนชีพอย่างสมบูรณ์แล้ว
เมื่อวินัยนำมาซึ่งกำไรที่จับต้องได้
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดในรายงานฉบับนี้คือการที่ BlackBerry สามารถรักษา กำไรสุทธิ (GAAP Net Income) ไว้ได้เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน โดยในไตรมาสล่าสุดนี้ทำไปได้ถึง 13.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปเพียงไม่กี่ปี ตัวเลขเหล่านี้ยังเคยเป็นสีแดงเข้มติดลบหนัก ๆ อยู่เลย
ปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขสวยขนาดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของโชคช่วย แต่มาจากการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดควบคู่ไปกับการเติบโตของรายได้ โดยรวมแล้ว BlackBerry มีรายได้รวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 141.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แถมยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เป็นบวกถึง 17.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 3 เท่า สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าโครงสร้างธุรกิจใหม่ของพวกเขานั้นมีความยั่งยืนและเริ่มออกดอกออกผลแล้ว
QNX อาวุธลับที่ครองหัวใจค่ายรถทั่วโลก
ถ้าจะถามว่าดาวเด่นของ BlackBerry ตอนนี้คือใคร คำตอบคือ QNX อย่างไม่ต้องสงสัย ในไตรมาสนี้ QNX ทำสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 68.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ลองนึกภาพดูว่า ปัจจุบันมีรถยนต์มากกว่า 275 ล้านคันบนท้องถนนทั่วโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของ QNX ตั้งแต่ค่ายรถหรูไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ใหม่ ๆ ล่าสุดแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับลักชูรีจากจีนก็ได้เลือกใช้ QNX Sound สำหรับไลน์อัพใหม่ ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของการขยับจากแค่การเป็น ระบบปฏิบัติการ ไปสู่การเป็น Integrated Software Platform ที่ครอบคลุมทั้งความปลอดภัย ความบันเทิง และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (ADAS)
หัวใจสำคัญที่ทำให้ค่ายรถยนต์เลือก BlackBerry คือ “ความปลอดภัย” ในระดับที่หาตัวจับยาก ด้วยมาตรฐานอย่าง ISO26262 ASIL-D ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Software-Defined Vehicles (SDV) ที่กำลังมาแรง
ป้อมปราการความปลอดภัยสำหรับโลกยุคใหม่
อีกหนึ่งเซกเมนต์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Secure Communications ซึ่งเป็นรากเหง้าดั้งเดิมของ BlackBerry ในด้านความปลอดภัย แม้รายได้ในส่วนนี้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ในแง่ของ คุณภาพ ของรายได้ถือว่าน่าสนใจเพราะตัวเลขรายได้ต่อเนื่อง (ARR) เติบโตขึ้นมาอยู่ที่ 216 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
จุดแข็งที่ทำให้ส่วนนี้ยังคงแกร่งคือการได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงทั่วโลก เช่น การที่รัฐบาลมาเลเซียขยายการใช้งาน BlackBerry Secure Communications สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summits) ครั้งที่ 46 และ 47 หรือการที่ AtHoc ยังคงเป็นโซลูชันจัดการเหตุการณ์วิกฤตอันดับ 1 ในรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สิ่งเหล่านี้คือกำแพงที่คู่แข่งเข้ามายึดพื้นที่ได้ยากมาก
กางแผนอนาคต กับโอกาสในสมรภูมิ IoT
BlackBerry ไม่ได้มองแค่ปัจจุบัน แต่มีการประเมินตลาดล่วงหน้าไว้อย่างชัดเจน โดยมองว่าตลาดที่เข้าถึงได้ ในฝั่ง QNX สำหรับรถยนต์และอุปกรณ์ฝังตัว (GEM) จะมีมูลค่าสูงถึง 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2026 และหากรวมการลงทุนเชิงกลยุทธ์ใหม่ ๆ อาจทะยานไปถึง 5.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2028
ความน่าสนใจคือการเปลี่ยนจากการขายแค่ License ทีละส่วน ไปสู่การขายแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์แบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งจะช่วยเพิ่มค่าเฉลี่ยรายได้ต่อคันให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือกลยุทธ์ Upselling ที่น่าสนใจในฝั่ง B2B
Thumbsup มองว่า ความสำเร็จของ BlackBerry ในไตรมาสนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขทางการเงินที่สวยหรู แต่คือบทเรียนราคาแพงของการ กล้าทิ้งภาพจำเก่าเพื่อสร้างตัวตนใหม่
- Financial Discipline: การทำกำไรสุทธิได้ 3 ไตรมาสติดพิสูจน์ว่าโมเดลธุรกิจซอฟต์แวร์ให้ Margin ที่ดีกว่าฮาร์ดแวร์มหาศาล (Adjusted Gross Margin อยู่ที่ 78%)
- Strategic Moat: การยึดหัวหาดในกลุ่มยานยนต์ด้วยความปลอดภัยคือการเลือกสมรภูมิที่ตัวเองถนัดที่สุด เพราะในโลกของรถยนต์ ความผิดพลาด หมายถึงชีวิต ซึ่งต่างจากซอฟต์แวร์ทั่วไป
- Shareholder Value: การเริ่มซื้อหุ้นคืนถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสนี้ เป็นการส่งสัญญาณความมั่นใจจากผู้บริหารว่าสถานะทางการเงินของบริษัท แข็งแกร่ง พอที่จะดูแลผู้ถือหุ้นแล้ว
BlackBerry ตอนนี้ไม่ใช่บริษัทมือถือที่ ตายแล้ว แต่เป็นบริษัท Cybersecurity และ IoT ที่ เพิ่งเกิดใหม่ และกำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ความท้าทายหลังจากนี้คือการรักษาระดับนวัตกรรมให้ทันค่าย Tech ยักษ์ใหญ่ที่เริ่มกระโดดเข้ามาในตลาดรถยนต์มากขึ้น แต่ด้วยความไว้วางใจจากค่ายรถยนต์เดิมที่มีอยู่มหาศาล ก็เพียงพอที่จะทำให้ BlackBerry ยืนระยะได้ในระยะยาว
อ่านเพิ่มเติม
