Site icon Thumbsup

“ซีอิ้วปลอม-ข้าวปลอม-ไวน์ปลอม” JD พร้อมรบด้วย Blockchain

เทคโนโลยี Blockchain ระบบเก็บข้อมูลแบบกระจายที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Bitcoin กำลังจะถูกนำมาใช้สู้พิษ “อาหารปลอม” ในจีน โดยแบรนด์คู่แข่ง Alibaba อย่าง JD จะใช้ blockchain เป็นอาวุธหลักไม่ให้ผู้บริโภคต้องรับเคราะห์ เพราะตามไม่ทันกลลวงผู้ผลิตของเก๊

นอกจากซีอี้ว ข้าว ไวน์ ยังมีไข่ปลอมที่ระบาดหนักในจีน เพื่อแก้ปัญหาสินค้ากลุ่มอาหารปลอม บริษัทอีคอมเมิร์ซอันดับ 2 ของจีนอย่าง JD จึงประกาศใช้ blockchain เพื่อการันตีการจัดส่งอาหารที่โปร่งใส ทำให้ JD สามารถชูจุดเด่นเรื่องอาหารปลอดภัยบนวงจรการผลิตหรือ supply chain ทั้งกลุ่มของ JD ได้

เรื่องนี้ Bridget van Kralingen รองประธานอาวุโสของ IBM Industry Platforms ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของ JD ระบุว่า Walmart ก็จะร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการนี้ด้วย โดยผลจากความร่วมมือของ JD สะท้อนว่าบริษัทจีนให้ความร่วมมือในการขยายโครงการพัฒนาเทคโนโลยี blockchain ที่ IBM และ Walmart เปิดตัวไปเมื่อกลางปีนี้ที่สหรัฐอเมริกา แถมยังมีมหาวิทยาลัยอย่าง Prestigious Tsinghua University ที่ร่วมดำเนินการในโครงการนี้ทางฝั่งจีนกับ JD ด้วยอีกทาง

ปัจจุบัน blockchain ถูกนำมาใช้ติดตามกระบวนการผลิตอาหารแปรรูปตั้งแต่การแล่เนื้อหมูจากหมูในฟาร์มประเทศจีน รวมถึงการติดตามมะม่วงที่ถูกส่งมาขายในสหรัฐ แต่ระบบเหล่านี้ยังไม่เปิดเสรีให้ผู้บริโภคทั่วไปได้เข้าถึงข้อมูล เพื่อยืนยันว่าอาหารในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านชำที่กำลังจะซื้อนั้นเป็นอาหารปลอดภัยตามที่ระบุในฉลากหรือไม่ ช่องโหว่นี้ทำให้โครงการ blockchain ของ JD IBM และ Walmart เกิดขึ้น โดยจะมีการรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวงจรการผลิตอาหาร ซึ่งจะเป้นข้อมูลข้ามระบบและบางข้อมูลยังอยู่ในรูปเอกสาร มาสู่ระบบ blockchain ที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ทั้งจากฝั่งผู้ค้าออนไลน์และออฟไลน์

Haibo Sun หัวหน้าฝ่ายงานวิจัยและพัฒนา blockchain ของ JD ระบุว่านอกจากอาหาร แบรนด์ที่อยู่ในกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก สินค้าแอลกอฮอล์ และสินค้าหรูหราราคาแพงจะถูกนำมาประยุกต์ใช้มากขึ้นในอนาคต ทั้งหมดนี้จะเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริโภคจีน

การประกาศโครงการนี้ของ JD ถือว่าตามหลัง Alibaba ที่ประกาศโครงการ blockchain ของตัวเองนำร่องไปก่อนตั้งแต่ต้นปี โดยที่ผ่านมา ทั้ง Alibaba และ JD ต่างถูกวิจารณ์ว่าไม่มีมาตรการแก้ปัญหาสินค้าปลอมระบาดบนแพลตฟอร์มอย่างจริงจัง ซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่เห็นตรงกันเรื่อง blockchain คือทางออกของปัญหาเหล่านี้

ที่มา: TechinAsia