เรื่องเงินเดือนคือเรื่องเซนซิทีฟในที่ทำงาน เพราะเงินเดือนก็เหมือนกับค่าตัวของคนๆ นั้น แต่โบนัสเป็นเรื่องเซนซิทีฟกว่าเงินเดือน เพราะวัดจาก Performance โดยตรง รวมถึงปัจจัยของแต่ละบริษัทด้วย แล้วโบนัสมีผลต่อการทำงานยังไง สำคัญแค่ไหนกับการทำงานในบริษัทเดิมต่อหรือจะเป็นผลให้ลาออกดี
โบนัสเหมือนของขวัญความเหนื่อย
โบนัสส่วนใหญ่จะออกช่วงเมษา ไม่ก็สิ้นปีเลย ขึ้นอยู่กับกฏของแต่ละบริษัท ถ้าถามว่าโบนัสสำคัญยังไง สำหรับคนที่ทำงานแล้วมาระดับหนึ่ง นอกจากเงินเดือนที่เป็นประเด็นพูดคุยกับคนใกล้ตัวแล้ว โบนัสก็เช่นกัน
ส่วนใหญ่จะไม่บอกตัวเลขชัดเจน แต่จะบอกเป็นเท่า โดย 1 เท่าคือปกติ 2 เท่าดีต่อใจ 3 เท่าเริ่มเยอะแล้ว ด้วยความที่หลายเท่านี้เอง ทำให้เวลาโบนัสออกแต่ละครั้ง สามารถเปลี่ยนวิกฤติการเงินในช่วงนั้นได้เลย แถมช่วยให้เงินคล่องมือขึ้นอีกเยอะ
ทำให้ความบากบั่นในการทำงานมาทั้งปี จะมาอุ่นใจเอาก็ตอนนี้ แถมบวกกับเงินเดือนปกติไปแล้วก็ยิ่งเยอะเข้าไปอีก
นักวางแผนการเงินหลายท่านบอกว่าเมื่อมีเงินนอนในบัญชีหลักแสนหรือยอดคงเหลือมากขึ้นหลังจ่ายหนี้สินครบแล้ว จะทำให้เงินสามารถงอกเงยขึ้นได้ เช่น เก็บเงินได้เยอะขึ้น หรือเอาเงินส่วนนี้ไปลงกับธุรกิจเล็กๆ โบนัสจึงเหมือนจุดเปลี่ยนของมนุษย์เงินเดือนหลายคน
ไม่มีโบนัสก็เหมือนทำงานฟรี
สิ่งนี้อาจจะไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่ถ้าเราไม่รู้ฐานเงินเดือนในภาพรวมและโบนัสที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆได้รับ เพราะเพื่อนย่อมรู้ศักยภาพในการทำงานของกันและกันดี ยิ่งสายงานเดียวกันยิ่งมองออกง่าย แต่ถ้าอยู่คนละบริษัท คนละกฏ ผลตอบแทนที่ได้ก็ย่อมต่างกัน การเปรียบเทียบกันอาจน้อยกว่า
แน่นอนว่ามีผลต่อกำลังใจในการทำงานที่ลดลงเช่นกัน หากคนหนึ่งทำงานหนักมากแต่ได้เงินน้อย ขณะที่อีกคนทำงานน้อยแต่บริษัทให้ผลตอบแทนดีกว่า ย่อมส่งผลต่อความรู้สึก ทำให้ไม่อยากทำงานตาอ และวางแผนลาออกได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ทุกคนนะคะ เป็นแค่แนวโน้มมากกว่า
โบนัสสะท้อนองค์กร
ประเด็นนี้พูดยากที่สุดเพราะทุกองค์กรมองค่าตัวพนักงานไม่เท่ากัน บางบริษัทคิดว่างานหนักๆ ที่เราทำตอนนี้ยังไม่คุ้มกับเงินที่จ่าย แถมไม่ให้โบนัสอีก กลายเป็นทำงานหนักแต่ไม่ได้ผลตอบแทนที่ดีเลย
แต่คำว่าผลตอบแทนที่ควรได้ของแต่ละคนก็เป็นเรื่องที่พูดยากอีก มันขึ้นอยู่กับว่าเราให้คุณค่าตัวเองเท่าไหร่ ถ้าทำงานไปสักพักจะพบว่า ไม่ใช่คนเก่งที่ได้เงินดี แต่คนที่รู้จักค่าตัวของตัวเองต่างหากที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดี
ดังนั้น การเติบโตในสายงานไม่ได้มีแค่ความสามารถ แต่ยังรวมถึง พฤติกรรม ทักษะในการต่อรองเงินเดือนกับองค์กร รวมทั้งภาพลักษณ์ของเราอีกด้วย
พูดมาขนาดนี้หลายคนอาจมีความคิดที่จะเปลี่ยนบริษัทกันแล้วใช่ไหมคะ อย่าเพิ่งตัดสินใจแบบนั้นนะคะ เพราะความพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และการอยู่ทำงานต่อไม่อยากให้มองแค่โบนัสอย่างเดียว
แต่อยากให้มองที่ความก้าวหน้าในสายอาชีพนั้นๆ ในอนาคตมากกว่าว่ามีกำเพงเงินเดือนเท่าไหร่ โตไปได้อีกแค่ไหนในบริษัทที่ทำอยู่ หรือถ้าย้ายไปบริษัทอื่นแล้วจะขึ้นไปได้อีกในระดับที่เท่าไหร่ เมื่อคิดครอบคลุมแล้ว เราจะได้คำตอบที่ชัดเจน มากกว่าแค่บ่นว่าอยากออกๆ แต่ทำงานต่ออีกหลายๆ ปีค่ะ
ช้อปปิ้ง Tesco Lotus ออนไลน์ คลิกเลย
ช้อปปิ้ง BigC ออนไลน์ คลิกเลย