วงการเทคโนโลยีการศึกษา หรือ EdTech กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อสองยักษ์ใหญ่ที่เป็นเหมือน สถาบันสามัญ และ วิทยาลัยวิชาชีพ ของโลกออนไลน์ตัดสินใจรวมร่างกัน
ล่าสุด Coursera แพลตฟอร์มการเรียนรู้ระดับโลก ประกาศข้อตกลงเข้าซื้อกิจการ Udemy คู่แข่งคนสำคัญ ในรูปแบบการแลกหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท) ดีลนี้ไม่ใช่แค่การซื้อคู่แข่งเพื่อลดส่วนแบ่งตลาด แต่เป็นการจัดทัพใหม่เพื่อเตรียมรับมือกับคลื่นลูกใหญ่ที่สุดอย่าง Generative AI ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าทักษะแรงงานทั่วโลก
Thumbsup พามาเจาะลึกดีลหยุดโลกครั้งนี้ ว่าเบื้องหลังตัวเลขมหาศาล มีกลยุทธ์อะไรซ่อนอยู่ และทำไมคนทำงานอย่างเราถึงต้องจับตามอง

เมื่อเสือสองตัวเลือกที่จะอยู่ถ้ำเดียวกัน
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ผู้ถือหุ้นของ Udemy จะได้รับหุ้นสามัญของ Coursera จำนวน 0.800 หุ้น ต่อหุ้น Udemy 1 หุ้น ซึ่งถือเป็นราคาพรีเมียมประมาณ 26% จากราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อนประกาศดีล โดยหลังจากการควบรวมกิจการเสร็จสิ้น คาดว่าผู้ถือหุ้นเดิมของ Coursera จะถือครองหุ้นประมาณ 59% และผู้ถือหุ้น Udemy จะถือครองประมาณ 41% ของบริษัทใหม่
ดีลนี้ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากบอร์ดบริหารของทั้งสองบริษัท และคาดว่าจะปิดดีลได้อย่างสมบูรณ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 โดยต้องผ่านด่านการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ถือหุ้นของทั้งสองฝ่ายเสียก่อน
ในส่วนของทัพหน้า Greg Hart ซีอีโอคนปัจจุบันของ Coursera จะยังคงนั่งแท่นเป็น CEO ของบริษัทใหม่ โดยมี Andrew Ng ศาสตราจารย์ด้าน AI ชื่อดังและผู้ร่วมก่อตั้ง Coursera นั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดต่อไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทิศทางของบริษัทใหม่จะยังคงเน้นความเข้มข้นทางวิชาการและเทคโนโลยี AI เป็นแกนหลัก
“AI” และ “ความเร็ว” คือเหตุผล
หากมองเข้าไปในไส้ในของธุรกิจ Coursera และ Udemy มีจุดแข็งที่ ต่างกันแต่เติมเต็มกัน
- Coursera: แข็งแกร่งในด้าน Verified Skills หรือทักษะที่มีการรับรอง มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 375 แห่ง มีหลักสูตรปริญญาและใบรับรองวิชาชีพที่น่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับการ Reskill ระยะยาวและการศึกษาในระบบ
- Udemy: คือเจ้าแห่ง Agile Skills หรือทักษะที่มาไวไปไว เป็น Open Marketplace ที่มีผู้สอนอิสระกว่า 85,000 คน สามารถผลิตคอร์สสอนใช้เครื่องมือใหม่ ๆ ได้ทันทีที่เทคโนโลยีเปิดตัว เหมาะสำหรับการ Upskill แบบ Just-in-time ที่คนทำงานต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้
เมื่อ AI เข้ามาดิสรัปต์ทักษะการทำงานเดิม ๆ เช่น World Economic Forum คาดว่า 44% ของทักษะหลักจะเปลี่ยนไปใน 5 ปีข้างหน้า ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องการโซลูชันที่ ครบวงจร คือต้องมีความน่าเชื่อถือแบบมหาวิทยาลัย แต่ก็ต้องเร็วทันโลกแบบ Marketplace
Greg Hart ซีอีโอของ Coursera กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “เราอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่ AI กำลังนิยามทักษะที่จำเป็นในการทำงานใหม่… การรวมจุดแข็งของทั้งสองบริษัทจะทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในการคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงนี้”
เจาะลึก Synergy 1 + 1 ต้องได้มากกว่า 2
จากการวิเคราะห์ข้อมูล Presentation ของทั้งสองบริษัท การควบรวมครั้งนี้จะสร้าง Super Platform ที่มีสเกลน่าตกใจ
- ฐานผู้เรียนมหาศาล: รวมกันแล้วจะมีผู้เรียนลงทะเบียนเกือบ 300 ล้านคน (Coursera 191 ล้าน + Udemy 82 ล้าน)
- รายได้ที่สมดุล: เมื่อดูรายได้รวมย้อนหลัง 12 เดือน บริษัทใหม่จะมีรายได้แตะ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสัดส่วนรายได้จากฝั่ง Consumer และ Enterprise ที่ใกล้เคียงกันมาก (Consumer 764 ล้านเหรียญ / Enterprise 772 ล้านเหรียญ) ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาขาใดขาหนึ่ง
- การประหยัดต้นทุน (Cost Synergies): คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนซ้ำซ้อนได้ถึง 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 24 เดือนหลังปิดดีล โดยเฉพาะในส่วนของค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร
แรงกดดันจากกระดานหุ้น
นอกเหนือจากเหตุผลด้านเทคโนโลยี อีกปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดดีลนี้คือ สถานะทางการเงินและแรงกดดันจากตลาดทุน
อัปเดตล่าสุดจากกระดานหุ้น NYSE ณ วันปิดตลาด 17 ธันวาคม 2025 (วันที่ประกาศดีล) หุ้น Coursera (COUR) ปิดที่ 7.84 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยภาพรวมตั้งแต่ต้นปี (Year to Date) กราฟยังคงอยู่ในแดนลบ ปรับตัวลดลงถึง -7.55%
ตัวเลข Market Cap ของ Coursera ที่ยืนอยู่ระดับ 1.30 พันล้านดอลลาร์ฯ เมื่อเทียบกับมูลค่าบริษัทใหม่หลังควบรวมที่คาดการณ์ไว้ราว 2.5 พันล้านดอลลาร์ฯ สะท้อนให้เห็นว่าลำพังการเติบโตแบบ Organic อาจไม่ทันใจนักลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน การดึง Udemy เข้ามาเติมมูลค่าและฐานรายจึงเป็นทางออกที่ Make Sense ที่สุด เพื่อกู้ศรัทธาและสร้างเสถียรภาพทางการเงิน
หากดูผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2025 ประกอบจะพบว่า
- Coursera: รายได้โต 10% (YoY) แตะ 194.2 ล้านดอลลาร์ ขาดทุนสุทธิ 8.6 ล้านดอลลาร์ (ดีขึ้นจากปีก่อน) และเพิ่งทำ Free Cash Flow ได้ถึง 26.6 ล้านดอลลาร์
- Udemy: แม้จะมีรายได้ใกล้เคียงกัน แต่ราคาหุ้นที่ผ่านมาเผชิญแรงเทขายอย่างหนักจนร่วงกว่า 26% หากนับจากต้นปี
การรวมกันครั้งนี้จึงเหมือนการ กอดคอพากันรอด เพื่อสร้างอำนาจต่อรองที่แข็งแกร่งขึ้น และสร้างกระแสเงินสดที่มากพอจะนำไปลงทุนพัฒนา AI สู้กับยักษ์ใหญ่เจ้าอื่น
AI-First อาวุธลับในการครองตลาด
สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลข แต่คือ Technology Stack ที่ทั้งคู่กำลังพัฒนา
Coursera กำลังรุกหนักเรื่อง AI-Native Innovation ไม่ว่าจะเป็น
- Coursera Coach: ติวเตอร์ AI ส่วนตัวที่โต้ตอบได้
- AI-Powered Translation: การแปลภาษาอัตโนมัติด้วย AI ที่ขยายการเข้าถึงผู้เรียนทั่วโลก
- ChatGPT Integration: การเป็นพันธมิตรกับ OpenAI เพื่อนำคอร์สเรียนไปโผล่ใน ChatGPT โดยตรง
ในขณะที่ Udemy เองก็เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ AI-powered microlearning และมีจุดเด่นเรื่องคลังข้อมูลทักษะที่ละเอียดและอัปเดตตลอดเวลา
เมื่อนำ Data มหาศาลจากผู้เรียนทั้งสองฝั่งมารวมกัน บริษัทใหม่จะสามารถเทรนโมเดล AI ให้แนะนำเส้นทางการเรียนรู้ได้แม่นยำที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหาด้วย AI หรือการวัดผลทักษะที่องค์กรต่าง ๆ โหยหา
Thumbsup มองว่า ดีลนี้คือสัญญาณเตือนว่ายุคของ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์แบบเดี่ยว ๆ อาจจะจบลงแล้ว ผู้เล่นในตลาดต้องมีครบทั้ง Content, Credential และ Technology ถึงจะอยู่รอด
สำหรับพวกเราที่เป็นนักการตลาดหรือคนทำงาน นี่คือข่าวดี เพราะในอนาคตเราน่าจะได้เห็น
- Subscription เดียวจบ: อาจมีความเป็นไปได้ที่เราจะจ่าย Coursera Plus แล้วเข้าถึงคอร์ส Udemy ได้ด้วย (อันนี้ต้องรอลุ้น)
- AI ที่รู้ใจกว่าเดิม: ระบบแนะนำคอร์สเรียนจะไม่ใช่แค่ keyword matching แต่จะเป็นการวิเคราะห์ Career Path ของเราจริง ๆ
- มาตรฐานทักษะใหม่: เมื่อสองยักษ์รวมกัน มาตรฐานการวัด Skill ของพวกเขาอาจกลายเป็นมาตรฐานกลางที่ HR ทั่วโลกยอมรับ
ในสมรภูมิที่ทุกคนต้องวิ่งแข่งกับ AI การมี เพื่อนร่วมทาง ที่แข็งแกร่ง ย่อมดีกว่าวิ่งคนเดียวแน่นอน จับตาดูกันยาว ๆ ว่าดีลนี้จะเปลี่ยนวิถีการเรียนรู้ของเราไปในทิศทางไหน



