Site icon Thumbsup

Ebay จบสัญญากับ Sanook แบบเงียบๆ

คิดว่าหลายคนคงพอจำได้เกี่ยวกับความร่วมมือของเว็บท่าอันดับหนึ่งของไทย Sanook.com กับยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซโลกอย่าง Ebay ในการเปิดตัวเว็บไซต์ Shopping.co.th เมื่อสี่ปีที่แล้วได้ วันนี้พอเรากลับเข้าไปดูด้วยการพิมพ์ Ebay.co.th ก็พบว่าแทนที่จะ redirect ไปที่ Shopping.co.th (หรือ http://shopping.sanook.com/) อย่างเคย ก็ปรากฏว่าส่งคนไปที่ http://export.ebay.co.th แทน ซึ่งเป็นการบอกได้ชัดเจนว่าสัญญาในการทำงานร่วมระหว่าง Sanook และ Ebay จบลงแล้วนั่นเอง

ต่อบุญ พ่วงมหา สมัยยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sanook ออกมาแถลงข่าวร่วมกับ Ebay

ย้อนอดีตไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว Sanook ได้ประกาศจับมือกับ Ebay ในการขยายตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย โดยเริ่มให้บริการประมูลซื้อขายสินค้าออนไลน์ทั้งภายในประเทศและ ระหว่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มของ Ebay ทั่วโลก? โดยได้มีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารเว็บไซต์นี้โดยเฉพาะ ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะเป็นบริษัทที่ Sanook ถือหุ้น 100% ขณะที่ Ebay จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาและความรู้เกี่ยวกับการทำอีคอมเมิร์ซ

จากการสังเกตการณ์ของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Shopping.co.th นั้น ก็มีคนมาใช้บริการในระดับกลางๆ แต่ไม่ได้มีกระแสความนิยมหวือหวาแต่อย่างใด สถานะในปัจจุบันทาง Sanook เอง ก็ยังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้ ปัจจุบันทาง Sanook แจ้งว่ามีสมาชิกเว็บไซต์กว่า 300,000 ราย ที่สามารถทำการซื้อขายสินค้าออนไลน์ กับผู้ใช้บริการในประเทศไทยที่ประกอบไปด้วย ผู้ประกอบการทุกระดับ ทั้งผู้ค้ารายย่อย ร้านค้า และผู้ประกอบการ SME ด้วยสินค้าที่หมุนเวียนในระบบกว่า 500,000 ชิ้น จึงสามารถตอบสนองความต้องการของทั้ง ผู้ซื้อ และผู้ขาย

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่น่าติดตามเกี่ยวกับวงการอีคอมเมิร์ซในบ้านเรา เพราะแม้ว่าดีล Ebay-Sanook จะจบลง แต่ทาง Sanook เองก็เริ่มเปิดธุรกิจใหม่อย่าง Dealfish ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แถมมีโฆษณาทีวีออกมายกใหญ่ และซับซ้อนไปกว่านั้นก็คือ จู่ๆ ก็มีข่าวลือออกมาว่าทางบริษัท MIH ซึ่งเป็นเจ้าของเก่าของทาง Sanook นั้นจะปิดตัว Dealfish และรีแบรนด์เป็น OLX แต่สำหรับเมืองไทยก็ยังเห็นใช้ Dealfish อยู่ ไม่ได้มีการรีแบรนด์แต่อย่างใด อาจเป็นเพราะ Sanook ปัจจุบันควบคุมโดย Tencent แล้วก็ได้ จึงไม่มีการรีแบรนด์?