Egg Digital

ถ้าใครได้ติดตามข้อมูลภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาจาก MI GROUP ที่เพิ่งออกมาคงจะรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ กันอยู่ไม่น้อย ตัวเลขการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่โตขึ้นเพียง 1.1% และคาดการณ์ทั้งปีที่โตแบบชะลอตัวสุดๆ ที่ 1.5% นั้น เป็นสัญญาณเตือนชั้นดีว่าสมรภูมินี้ “ไม่หมู” อีกต่อไป ปัจจัยลบรอบด้านไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ, ภัยธรรมชาติ, ไปจนถึงข้อพิพาทชายแดน ล้วนส่งผลให้ผู้บริโภคขาดความมั่นใจในการใช้จ่าย

แต่โจทย์ที่ท้าทายที่สุดสำหรับคนทำงานอย่างเรา ๆ คือปรากฏการณ์ที่ MI GROUP เรียกว่า “เมื่อทุกคนคือผู้ขาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ขายได้” การเติบโตของ Social Commerce ทำให้ตลาดตอนนี้เต็มไปด้วยผู้ขายมืออาชีพกว่า 3 ล้านราย และมือสมัครเล่นอีกกว่า 9 ล้านราย ในขณะที่ผู้ซื้อกลับระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ต้นทุนการตลาดที่สูงขึ้นสวนทางกับประสิทธิภาพที่ลดลง การจะเข้าถึง (Reach) ลูกค้าก็แพงขึ้น แต่การจะสร้างความสนใจ (Attention) และเปลี่ยนเป็นยอดขาย (Conversion) กลับยากเย็นแสนเข็ญกว่าเดิม

ท่ามกลางสมรภูมิที่ดุเดือดนี้เอง EGG Digital หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและ MarTech ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัว 3 โซลูชันใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ภายใต้แนวคิด “SMART DATA MATCHING TO TURN CHALLENGES INTO GROWTH” หรือการเปลี่ยนทุกความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสในการเติบโต 8 ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการขยับตัวที่ถูกที่ถูกเวลาและน่าจับตามองอย่างยิ่ง

Egg Digital

โจทย์ใหญ่เมื่อ Influencer ล้นตลาด แล้วใครคือ “ตัวจริง”?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ Influencer Marketing กลายเป็นเครื่องมือหลักที่แบรนด์ขาดไม่ได้ไปแล้ว ข้อมูลระบุชัดเจนว่าผู้บริโภคเชื่อถือสื่อเฉพาะบุคคลมากขึ้น และงบโฆษณากว่า 30% ก็ถูกเทไปที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ โดยเฉพาะในกลุ่ม FMCG และ Beauty แต่ปัญหาที่ตามมาคือ “ความเกร่อ” และ “การวัดผล” ที่ยังคงเป็นเรื่องน่าปวดหัวของนักการตลาด การเลือกอินฟลูฯ ที่ผิด ไม่ใช่แค่การเสียเงินเปล่า แต่ยังอาจทำลายภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เลย

EGG Digital เสนอทางออกด้วย Influmatch.AI Platform ซึ่งถ้ามองเผิน ๆ อาจจะเหมือนแพลตฟอร์มค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ทั่วไป แต่หัวใจของมันคือการใช้ AI เข้ามาช่วยแก้ปัญหา แทนที่จะเลือกจากยอด Follower หรือภาพลักษณ์ผิวเผิน AI จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทั้งกลุ่มผู้ติดตาม, อัตราการมีส่วนร่วม (Engagement) และความเหมาะสมกับแคมเปญ เพื่อให้ได้ “Perfect Matches” ที่ไม่ใช่แค่ “ดูดี” แต่ “ใช่” สำหรับแบรนด์จริง ๆ

ในมุมมองของคนทำงาน นี่คือการยกระดับจากการทำการตลาดแบบ “คาดเดา” ไปสู่การตัดสินใจบน “ข้อมูล” (Data-Driven) อย่างแท้จริง มันตอบโจทย์กลยุทธ์ “เข้าใจเก่ง” ที่ MI GROUP แนะนำไว้เป๊ะ ๆ คือการเลือกสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่ “อิน” กับแบรนด์จริง ๆ และยังสามารถนำไปต่อยอดกับการทำ “Tribal Marketing” ที่เน้นสร้างคอมมูนิตี้สำหรับกลุ่ม Gen Z ตามแนวทางของ SPA-Hakuhodo ได้อีกด้วย การมีอินฟลูเอนเซอร์กว่า 100,000 คนในฐานข้อมูล พร้อม AI ช่วยคัดกรอง ย่อมดีกว่าการสุ่มหาเอาเองในมหาสมุทรโซเชียลมีเดียแน่นอน

Egg Digital

Admatch.AI วอร์รูมสู้ศึกค่าโฆษณาสุดโหด

อีกหนึ่ง Pain Point สุดคลาสสิกของนักการตลาดดิจิทัลคือความซับซ้อนในการบริหารจัดการโฆษณาบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Facebook, Google, TikTok และอื่น ๆ การที่จะบริหารแคมเปญให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและเห็นภาพรวมได้ในที่เดียวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

Admatch.AI ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “Command Center” หรือศูนย์บัญชาการสำหรับจัดการโฆษณาออนไลน์ ช่วยให้นักการตลาดสามารถบริหารจัดการทุกอย่างได้จากหน้าจอเดียว ลดความซับซ้อนและประหยัดเวลาไปได้มหาศาล แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ “บริการเสริม” ที่ให้มาด้วย ไม่ว่าจะเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลและแก้ปัญหาแบบเรียลไทม์, การจัดเวิร์กช็อปให้ความรู้ ไปจนถึง AdChat ที่พร้อมให้คำปรึกษา 24/7

นี่คืออาวุธที่ออกมาเพื่อต่อสู้กับปัญหา “ต้นทุนการตลาดสูงขึ้น” โดยตรง ในยุคที่ทุกคลิกมีราคาแพง การบริหารจัดการที่ผิดพลาดหมายถึงงบประมาณที่ละลายหายไปในอากาศ การมีเครื่องมือที่ช่วยให้ทำงานได้ “ฉลาดขึ้น” และ “มีประสิทธิภาพมากขึ้น” พร้อมทีมซัพพอร์ต ย่อมเป็นแต้มต่อที่สำคัญในสนามรบดิจิทัล เหมือนกับที่แบรนด์แฟชั่นไทยบน Shopee ประสบความสำเร็จจากการใช้เครื่องมือโฆษณาของแพลตฟอร์มอย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง

Lucky Boost Campaign เปิดประตู MarTech ให้ SMEs เข้าถึงได้จริง

โซลูชันสุดท้ายอาจจะเป็นไฮไลท์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย นั่นคือ Lucky Boost Campaign for SMEs ที่ผ่านมาเครื่องมืออย่างระบบ CRM หรือโปรแกรมสะสมแต้ม มักจะเป็นของเล่นราคาแพงสำหรับองค์กรใหญ่ ๆ เท่านั้น ทำให้ SMEs เสียเปรียบในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า (Customer Retention)

EGG Digital พลิกเกมด้วยการนำเสนอระบบ CRM ในโมเดล “Pay-Per-Use” ที่กล้าประกาศว่า ฟรีค่าติดตั้งและค่าบริการรายเดือน! โดยจะคิดค่าบริการก็ต่อเมื่อมีลูกค้าเข้ามาใช้งานหรือร่วมกิจกรรมเท่านั้น นี่คือการทลายกำแพงทางการเงินที่เคยขวางกั้น SMEs ออกจากเครื่องมือการตลาดระดับ Enterprise อย่างสิ้นเชิง

แคมเปญนี้ (ซึ่งจำกัดเพียง 100 แบรนด์) มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน ตั้งแต่การตรวจเช็คใบเสร็จ, การสะสมแต้ม, การแลกของรางวัล, การบริหารจัดการร้านค้า ไปจนถึงระบบรีพอร์ตที่แสดงผลแบบเรียลไทม์ มันคือการติดอาวุธให้ปลาเล็กสามารถต่อสู้กับปลาใหญ่ได้อย่างสูสีมากขึ้น เป็นการตอบโจทย์กลยุทธ์ “Connection before Conversion” สร้างความสัมพันธ์ก่อนการขาย ที่จะช่วยสร้างฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งและภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

Thumbsup มองว่า การเปิดตัว 3 โซลูชันของ EGG Digital ในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่มันคือการประกาศจุดยืนและคำตอบที่ชัดเจนต่อความท้าทายที่อุตสาหกรรมการตลาดกำลังเผชิญอยู่ พวกเขาไม่ได้เพียงแค่วิเคราะห์ปัญหาจากข้อมูลของตัวเอง แต่ยังนำเสนอเครื่องมือที่สอดรับกับคำแนะนำของเอเจนซี่ชั้นนำอย่าง MI GROUP และเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคจาก SPA-Hakuhodo ได้อย่างลงตัว

ในยุคที่เศรษฐกิจเปราะบางและตลาดเต็มไปด้วยผู้ขาย การแข่งขันไม่ได้วัดกันที่ “ใครตะโกนดังกว่า” อีกต่อไป แต่วัดกันที่ “ใครเข้าใจลูกค้าและใช้เครื่องมือได้ฉลาดกว่า” การผสมผสานพลังของ Big Data เข้ากับ AI เพื่อสร้าง Dynamic Personalization กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการ

สำหรับนักการตลาดและผู้ประกอบการ นี่คือสัญญาณว่าเราต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน การพึ่งพาความรู้สึกหรือวิธีการเดิม ๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป การเปิดใจรับเทคโนโลยี MarTech ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ทางรอด” ที่จะช่วยให้เราสามารถนำเสนอสิ่งที่ “ใช่” ให้กับลูกค้าที่ “ใช่” ในเวลาที่ “ใช่” ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว นี่คือหัวใจสำคัญของการตลาดที่จะทำให้แบรนด์สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และเติบโตได้อย่างยั่งยืนในสมรภูมิที่ไม่มีวันสิ้นสุดนี้

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: