Writer: 
Share
หลังจากงาน f8 2014 ที่เพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน Facebook ก็เริ่มปล่อยเครื่องมือใหม่อีกตัวให้กับเหล่านักการตลาดที่ใช้ Facebook อยู่ กับเครื่องมือที่ชื่อว่า Facebook Audience Insights ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ใช้งานบน Facebook
โดยปกติแล้วเวลาที่ผู้ที่ดูแล Facebook Page อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานที่เป็น Fan ที่ติดตาม Page เราอยู่ก็สามารถทำได้ด้วยการเข้าไปที่ Facebook Insights ของแต่ละ Page ซึ่งก็มีข้อมูลที่ช่วยในการวิเคราะห์อยู่บ้างแล้ว แต่ก็จะคงได้เฉพาะในกลุ่มที่กด Like เพจเราเท่านั้น ซึ่งก็รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับการกด Like, Comment และ Share
แต่เครื่องมือ Facebook Audience Insights นี้จะช่วยให้ข้อมูลที่มากกว่านั้น โดยนำเสนอในแง่ของพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่แท้จริง นั้นคือการกรองข้อมูลจากผู้ใช้งานทั้งหมดจากตัวเลือกที่มีอยู่ ซึ่งเครื่องมือนี้จะให้ข้อมูลของผู้ใช้งานในแง่ของเทรนด์ของตลาดในปัจจุบันภายใต้ Facebook โดยเครื่องมือนี้จะถูกฟังอยู่ใน Ads Manager
ตัว Facebook Audience Insights สามารถเข้าไปดูข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานได้ตามหมวดหมู่ที่มีให้เลือกดังนี้
- Demographics – ข้อมูลใช้งานทั่วไปของผู้ใช้งาน อายุ, เพศ, การใช้ชีวิต, การศึกษา, สถานะความสัมพันธ์, ตำแหน่งหน้าที่การงาน, จำนวนคนในครอบครัว
- Page likes – ลักษณะของ Page ที่เข้าไปกด Like แบ่งตามหมวดหมู่
- Location and Language – ประเทศที่อยู่อาศัยปัจจุบัน, ภาษาที่พูดได้
- Facebook Usage – ดูความถี่และลักษณะการใช้งานของกลุ่มคนที่สนใจ รวมทั้งการใช้อุปกรณ์ใดในการเข้าใช้ Facebook
- Purchase Activity – ดูลักษณะและประเภทการซื้อของในอดีต เช่น ซื้อของที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าบ่อยๆ, ของที่เกี่ยวกับผู้หญิง และวิธีการซื้อ เช่น ซื้อแบบออนไลน์ หรือไปที่หน้าร้าน (เข้าใจว่าน่าจะเป็นการดูลักษณะการ Check-in มาเป็นส่วนประกอบด้วย)
โดยจากข้อมูลข้างบน เราสามารถแยกแยะกลุ่มคนออกได้เป็นอีก 3 กลุ่มคือ
- ผู้ใช้งาน Facebook ทั้งหมด
- คนที่กด Like หรือเข้าร่วม Event ที่จัดขึ้นโดย Page
- กลุ่มคนที่ถูกจัดกลุ่มด้วยการใช้ Custom Audiences (อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ เพิ่มขีดความสามารถในการลงโฆษณาบน Facebook ด้วย Custom Audience)
ตัวอย่างที่ทาง Facebook หยิบขึ้นมาอธิบายเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องมือตัวนี้ คือการที่เราใช้เครื่องมือนี้ หาคนที่จะสนใจและมีความเป็นไปได้ที่จะมาเป็นลูกค้าของเรา เช่น เราเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นออกแนวหรูหราหน่อยสำหรับผู้หญิง โดยที่เปิดหน้าร้านจริงขายของ เจ้าของเองอยากจะรู้ว่ามีคนที่อยู่ Facebook ที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กับร้านของเราได้ และดูได้ว่าคนที่อยู่ใกล้ๆ เรานั้นสนใจอะไร, พฤติกรรมการซื้อของก่อนหน้านี้เป็นแบบไหน และซื้อของแบบออนไลน์หรือหน้าร้านมากกว่ากัน เรียกได้ว่าเจาะลึกมากๆ ซึ่งข้อมูลนี้ก็จะสามารถเอาไปวิเคราะห์ต่อเพื่อวางกลยุทธเพื่อร้านต่อไป
สิ่งที่น่ากลัวคงไม่มีอะไรไปกว่าการที่ Facebook จะเอาข้อมูลส่วนตัวของเราทั้งหมดไปใช้งานเพื่อการทำโฆษณา ซึ่งจุดนี้ก็เป็นเหตุผลที่ใครหลายคนเลิกใช้งานในต่างประเทศนั่นเอง
สำหรับการใช้งาน Facebook Audience Insights ทาง Facebook เปิดให้ใช้งานเฉพาะอเมริกาก่อนในช่วงนี้ (ตามสไตล์) ส่วนการปล่อยให้คนทั่วโลกใช้ต้องรอกันอีก 2-3 เดือนครับ (น่าจะออกมาช่วงสิงหาคม 2557) ครับ
ส่วนตัวแล้วมองว่าเครื่องมือนี้น่าจะเป็นสิ่งที่มาช่วยในการวางแผนการลงมีเดียบน Facebook ได้ตรงจุดกว่าเดิมครับ ด้วยตัวเลือกที่เรียกได้ว่ามีอยู่มากมายและการล้วงเอาข้อมูลของทาง Facebook จะมีไม่ตรงก็ในส่วนที่เป็นข้อมูลการซื้อของที่อาจจะใช้กับเมืองไทยไม่ค่อยได้ครับ
เรียกได้ว่า คนดูแลหรือนักการตลาดยิ้มเพราะเครื่องมือนี้ แต่ผู้ใช้งานทั่วไปออกแนวสลดเพราะโดนดูดข้อมูลส่วนตัวไปหมดด้วยเครื่องมือนี้เช่นกัน…
ที่มา: Facebook for Business
