การรอคอยสิ้นสุดลง เมื่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ได้เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 ตัวเลขพาดหัวที่ออกมาคือ “ขยายตัว 1.2%” เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
หากมองแค่ตัวเลขนี้ หลายคนอาจถอนหายใจว่า “ก็ยังโต” แต่ในโลกของธุรกิจและการตลาด เราต้องมองให้ลึกกว่านั้น เพราะตัวเลข 1.2% นี้ คือการ “ชะลอตัว” ลงอย่างชัดเจนจากไตรมาสที่ 2/2568 ที่เคยขยายตัวได้ 2.8%
แต่จุดที่นักวิเคราะห์และคนทำธุรกิจอย่างเราต้องขมวดคิ้วและหยิบปากกาไฮไลต์มาขีดเส้นใต้หนา ๆ คือตัวเลขเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ที่ปรับปัจจัยฤดูกาลแล้ว…เศรษฐกิจไทย “หดตัว” -0.6%
นี่คือสัญญาณเตือนภัยที่ดังที่สุดในรอบหลายไตรมาส!
การหดตัวแบบ QoQ หมายความว่า โมเมนตัมของเศรษฐกิจกำลังแผ่วลงอย่างน่าใจหาย และหากไตรมาสที่ 4/2568 ตัวเลขนี้ยังคงติดลบอีกครั้ง ประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะ “ถดถอยทางเทคนิค” (Technical Recession) ทันที
Thumbsup อยากจะพาไปผ่าตัดไส้ในของตัวเลขชุดนี้กันว่า ใครคือ “พระเอก” ที่ยังแบกเศรษฐกิจนี้ไว้ และใครคือ “ตัวฉุด” ที่ทำให้เครื่องยนต์ของเราแทบจะดับกลางอากาศ

วิเคราะห์ “ด้านการใช้จ่าย” ใครจ่าย ใครหยุด?
ด้านการใช้จ่ายเปรียบเหมือนการดูว่า “เงิน” ในระบบเศรษฐกิจมาจากกระเป๋าของใครบ้าง และในไตรมาสนี้ เราเห็นภาพที่ชัดเจนมากของ “ตัวแบก” และ “ตัวถ่วง”
- พระเอกหนึ่งเดียว: “การบริโภคภาคเอกชน” (คนไทยยังสู้)
ข่าวดีเพียงหนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรายงานฉบับนี้ คือ การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน (Private Consumption) ที่ยังคงขยายตัวได้ +2.6% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ “เท่ากับ” ไตรมาส 2/2568
พูดง่าย ๆ คือ “คนไทย” อย่างเรา ๆ นี่ยังคงเป็นเสาหลักที่ค้ำเศรษฐกิจทั้งไตรมาสไว้ไม่ให้พังทลายลงมา
แต่เมื่อเจาะลึกลงไปในตะกร้าสินค้า เรากลับพบสัญญาณที่น่าสนใจ
- สินค้าไม่คงทน (Non-Durables): ขยายตัวเร่งขึ้น +3.0% โดยเฉพาะหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (+4.1%)
- สินค้าคงทน (Durables) และ บริการ (Services): ชะลอตัวลง
นี่คือสัญญาณของ “ความระมัดระวัง” ผู้บริโภคยังคงใช้จ่าย แต่เน้นไปที่ “ของจำเป็น” (Necessities) อย่างอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน มากกว่า “ของฟุ่มเฟือย” หรือ “ของชิ้นใหญ่” (Want) นักการตลาดที่ขายสินค้ากลุ่มหลังต้องทำงานหนักขึ้นมาก และกลยุทธ์ “Value for Money” จะไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น “ทางรอด”
- ตัวถ่วงหลัก: “การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ” (ภาครัฐแผ่วหนัก)
นี่คือจุดที่น่าผิดหวังที่สุดในไตรมาสนี้ ในขณะที่เอกชนกำลังต่อสู้ ภาครัฐกลับกลายเป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
- การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาล: หดตัวแรง -3.9% เทียบกับไตรมาสก่อนที่ยังโต +2.2%
- การลงทุนภาครัฐ: หดตัวหนัก -5.3% พลิกจากไตรมาสก่อนที่โตถึง +10.1%
ตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว ภาครัฐควรจะเป็น “พระเอกขี่ม้าขาว” อัดฉีดการลงทุนและการใช้จ่าย (Fiscal Policy) เพื่อกระตุ้นเครื่องยนต์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นใน Q3 กลับตรงกันข้าม ภาครัฐกลายเป็น “สมอ” ที่ดึงเรือให้จมลง ธุรกิจที่พึ่งพาโปรเจกต์ภาครัฐ (Public Projects) หรือการจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement) น่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด
- เครื่องยนต์ที่สะดุด: “การส่งออกและบริการ” (ท่องเที่ยวมีปัญหา!)
ภาคการส่งออก (สินค้าและบริการ) ขยายตัว +6.9% ตัวเลขนี้ดูดี แต่เมื่อผ่าดูไส้ใน เราจะเจอปัญหาใหญ่ซ่อนอยู่
- การส่งออกสินค้า: ยังไปได้สวย ขยายตัว +10.8% นำโดยกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์และแผงวงจร ที่ได้อานิสงส์จากความต้องการในตลาดโลก
- การส่งออกบริการ: นี่คือจุดที่ต้องช็อก! ตัวเลข “หดตัว” รุนแรง -10.7%
การส่งออกบริการที่ -10.7% มันคืออะไร? มันคือ “รายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ”
นี่คือ “The Tourism Paradox” หรือ “ความขัดแย้งของการท่องเที่ยว” ที่น่ากังวลที่สุด
- ด้าน “จำนวนคน”: ไตรมาส 3/68 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7,429,859 คน เพิ่มขึ้น จากไตรมาส 2/68 ที่มี 7,136,465 คน
- ด้าน “รายได้”: บริการรับ (รายได้) กลับ “ลดลง”
นี่คือโจทย์ใหญ่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เรากำลังเจอปัญหา “คนมาเยอะ แต่จ่ายน้อย” หรือไม่? หรือค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในประเทศกำลังบีบให้นักท่องเที่ยวลดวันพักและลดการใช้จ่าย? นี่คือความท้าทายด้านการตลาดและการวางตำแหน่ง (Positioning) ของประเทศอย่างแท้จริง การเน้น “จำนวน” (Quantity) อาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป แต่เราต้องโฟกัสที่ “คุณภาพ” (Quality) และการใช้จ่ายต่อหัว อย่างจริงจัง
วิเคราะห์ “ด้านการผลิต” ภาคส่วนไหนรุ่ง ภาคส่วนไหนร่วง?
เมื่อหันมาดูฝั่งการผลิต ก็ยิ่งตอกย้ำภาพการชะลอตัว โดยภาคนอกเกษตรขยายตัวเพียง 1.2% (จาก 2.5% ใน Q2)
- ภาคที่ “รุ่ง”
- การขายส่งและการขายปลีก: +6.5% สอดรับกับการบริโภคเอกชนที่ยังเติบโตได้ดี
- ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร: +6.1% โลกดิจิทัลยังคงหมุนต่อไป ธุรกิจสื่อสารและเทคโนโลยียังแข็งแกร่ง
- ภาคที่ “ร่วง” (และน่าห่วง)
- การผลิตสินค้าอุตสาหกรรม: หดตัว -1.6% (ภาพรวมกลุ่มอุตสาหกรรม -1.0%) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเบาและอุตสาหกรรมวัตถุดิบ สะท้อนว่าโรงงานต่าง ๆ กำลังชะลอการผลิตลง
- การก่อสร้าง: หดตัวหนัก -4.0% เป็นผลโดยตรงจากการลงทุนภาครัฐที่หายไป
- ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร: โตเพียง +0.8% (จาก +1.4% ใน Q2) ตอกย้ำปัญหาการชะลอตัวของรายได้ท่องเที่ยวอย่างชัดเจน
Thumbsup มองว่า ตัวเลข GDP Q3/2568 ที่ 1.2% ไม่ใช่ข่าวดีอย่างที่พาดหัวบอก แต่มันซ่อนสัญญาณอันตรายของการ “หดตัว” -0.6% (QoQ) เอาไว้
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสนี้ อยู่ในภาวะที่ “การบริโภคภาคเอกชน” ต้องออกแรงแบกรับทุกอย่างไว้เพียงลำพัง ในขณะที่ “ภาครัฐ” ทั้งการใช้จ่ายและการลงทุน กลายเป็นตัวฉุดรั้งที่หนักที่สุด และ “ภาคการท่องเที่ยว” ที่เราเคยหวังไว้ก็กำลังเผชิญวิกฤต “รายได้หด” สวนทางกับ “จำนวนคน”
สำหรับคนทำธุรกิจและนักการตลาด นี่คือช่วงเวลาที่ต้อง “ตั้งการ์ดสูง” และ “ปรับตัว” อย่างเร่งด่วน
- โฟกัสที่ความคุ้มค่า: ผู้บริโภคกำลังรัดเข็มขัดและเลือกจ่ายเฉพาะของที่จำเป็นหรือรู้สึกว่า “คุ้ม” จริง ๆ
- กระจายความเสี่ยง: ธุรกิจที่พึ่งพาลูกค้าภาครัฐหรือโปรเจกต์ก่อสร้างขนาดใหญ่ กำลังเสี่ยงสูงสุด
- ทบทวนกลยุทธ์ท่องเที่ยว: ธุรกิจโรงแรมและการบริการต้องหาทางเพิ่มการใช้จ่ายต่อหัว ไม่ใช่แค่นับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไป
ไตรมาสที่ 4/2568 นี้ จะเป็นบททดสอบที่สำคัญที่สุดว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถ “ประคองตัว” รอดพ้นจากภาวะถดถอยทางเทคนิคได้หรือไม่ หรือนี่จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ “ขาลง” ที่แท้จริง
อ่านเพิ่มเติม



