Go Pro

ในยุคที่ AI และ Technology กำลังกลืนกินตำแหน่งงานดั้งเดิม และคำว่า “มั่นคง” ในโลกองค์กรเริ่มเลือนหายไป หลายคนเริ่มตั้งคำถามถึงทางเลือกใหม่ของอาชีพที่ไม่ใช่แค่การเป็นลูกจ้างรอรับเงินเดือน

วันนี้ Thumbsup หยิบหนังสือระดับตำนานของวงการ Network Marketing อย่าง “Go Pro: 7 Steps to Becoming a Network Marketing Professional” ของ Eric Worre มาแกะรอยความคิดและกลยุทธ์ เพื่อดูว่าทำไมโมเดลธุรกิจที่หลายคนเคยส่ายหน้า อาจจะเป็น “ทางเลือกที่ดีกว่า” ในเศรษฐกิจแบบ Performance-Based Economy ยุคปัจจุบัน

Go Pro

เมื่อเก้าอี้ดนตรีในโลกการทำงานเริ่มน้อยลง

เราเติบโตมากับชุดความคิดที่ถูกป้อนโปรแกรมว่า “ตั้งใจเรียน หางานทำในบริษัทมั่นคง ทำงานไป 40 ปี แล้วเกษียณอย่างมีความสุข” แต่ในความเป็นจริง โลกหมุนเปลี่ยนไปเร็วกว่านั้น Eric Worre ชี้ให้เห็น Pain Point ที่เจ็บแสบของมนุษย์เงินเดือนยุคนี้ว่า

  • ความภักดีไม่มีอยู่จริง: คุณอาจจะทุ่มเทให้บริษัทเต็มร้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต การเปลี่ยนงานทุก 3-5 ปีกลายเป็นเรื่องปกติ
  • เทคโนโลยีคือคู่แข่ง: งานขาย งานบริการลูกค้า หรือแม้แต่งานเอกสาร กำลังถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติและ AI พื้นที่สำหรับมนุษย์ในองค์กรกำลังหดแคบลง
  • กับดักเกษียณ: การทำงานหนัก 40 ปีอาจไม่ได้การันตีบั้นปลายที่สุขสบายอย่างที่คิด

โลกกำลังมุ่งหน้าสู่ Performance Economy หรือเศรษฐกิจที่จ่ายผลตอบแทนตาม “ผลงาน” ไม่ใช่ “เวลา” ที่คุณตอกบัตรเข้างาน ธุรกิจต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งนี่คือจุดที่โมเดล “ลูกจ้าง” เริ่มเสียเปรียบ และโมเดล “ผู้ประกอบการ” เริ่มได้เปรียบ

Network Marketing ไม่ใช่หนทางที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นทางที่ “ดีกว่า”

เมื่อโจทย์คือการหาอิสรภาพ ที่ไม่มีเจ้านาย ไม่มีนาฬิกาปลุก ไม่มีการเมืองในที่ทำงาน และมีรายได้แบบไร้เพดาน คนส่วนใหญ่มักมองหาการทำธุรกิจส่วนตัว แต่ก็ติดเรื่องเงินลงทุนและความเสี่ยง

Eric เสนอว่า Network Marketing (ธุรกิจเครือข่าย) คือโซลูชันที่ตอบโจทย์ที่สุดในยุคนี้ เพราะ

  1. Low Risk, High Return: ลงทุนต่ำ แต่มีโอกาสสร้างรายได้เหมือนเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่
  2. Word of Mouth is King: ในขณะที่แบรนด์ต่าง ๆ ต้องทุ่มงบโฆษณาเครือข่ายสังคมมหาศาล ธุรกิจเครือข่ายใช้พลังของการ “บอกต่อ” ซึ่งทรงพลังที่สุด
  3. Corporate Support: บริษัทแม่จัดการเรื่องหลังบ้าน (สต็อก บัญชี จัดส่ง) หน้าที่ของคุณคือ “การตลาด” และ “การสร้างทีม”

อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่สุดของวงการนี้ไม่ใช่ตัวโมเดลธุรกิจ แต่คือ “Perception” (การรับรู้) ของผู้คน คนส่วนใหญ่มองธุรกิจเครือข่ายเป็นเหมือนลอตเตอรี่ หรือแชร์ลูกโซ่ เพราะพวกเขาเห็นคนที่ล้มเหลวมากกว่าคนที่สำเร็จ

3 Type of Mindset คุณเป็นใครในธุรกิจนี้?

จุดเปลี่ยนสำคัญที่หนังสือเล่มนี้เน้นย้ำคือ “Mindset” ในการทำธุรกิจ Eric แบ่งคนในวงการนี้ออกเป็น 3 ประเภท

  1. Posers (นักเสี่ยงโชค): กลุ่มนี้มองธุรกิจเครือข่ายเป็นตั๋วลอตเตอรี่ หวังรวยทางลัดด้วยการทำงานน้อยที่สุด ใช้วิธีวัดดวงว่าสมัครแล้วจะรวยเอง
  2. Amateurs (มือสมัครเล่น): กลุ่มนี้ฝากความหวังไว้กับปัจจัยภายนอก เช่น “โชค” “จังหวะเวลา” หรือ “การได้อยู่ต้นสาย” พวกเขามองหาทางลัดตลอดเวลา และมักจะถอดใจเมื่อเจออุปสรรค
  3. Professionals (มืออาชีพ): นี่คือกลุ่มเป้าหมายของหนังสือเล่มนี้ มืออาชีพไม่สนโชค ไม่สนดวง แต่โฟกัสที่ “ทักษะ” พวกเขารู้ว่าต้องใช้เวลาฝึกฝน (กฎ 10,000 ชั่วโมง) เพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ และยินดีที่จะเรียนรู้เพื่อแลกกับความสำเร็จระยะยาว

ทักษะชนะดวง

หากคุณตัดสินใจจะเป็น “Pro” ข่าวดีคือทักษะในธุรกิจเครือข่ายเป็นสิ่งที่ “เรียนรู้ได้” ไม่เกี่ยงวุฒิการศึกษา เพศ หรือเชื้อชาติ องค์ประกอบความสำเร็จมีแค่ 3 อย่าง

  1. สินค้า: (ทุกคนได้เหมือนกัน)
  2. แผนรายได้: (ทุกคนได้เหมือนกัน)
  3. ตัวคุณ: (นี่คือตัวแปรเดียวที่ควบคุมได้)

Eric แนะนำทักษะสำคัญที่ต้อง Master ดังนี้

1. The Art of Consultant (ศิลปะแห่งที่ปรึกษา)

เลิกทำตัวเป็นนักล่าที่จ้องจะปิดการขาย แต่ให้ทำตัวเป็นที่ปรึกษา หรือครู หน้าที่ของคุณคือ “ให้การศึกษาและความเข้าใจ” และอย่าพูดเพื่อขาย แต่จง “ถาม” เพื่อเข้าใจปัญหาของเขา ดังนั้นควรใช้เครื่องมือช่วยพูดแทนตัวเอง เช่น วิดีโอ เว็บไซต์ หรือสินค้าทดลอง เพื่อลดความกดดันและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

2. Follow Up is Key (ติดตามผลคือหัวใจ)

คนส่วนใหญ่ตกม้าตายเพราะไม่ติดตามผล จำไว้ว่า “เป้าหมายของการนัดครั้งนี้ คือการเซตการนัดครั้งต่อไป”

  • การติดตามผลไม่ใช่การตื๊อ แต่คือการทำตามสัญญาที่ให้ไว้
  • ต้องใช้เวลาและการสัมผัสข้อมูลหลายครั้งกว่าคนหนึ่งคนจะตัดสินใจ
  • ชุดคำถามที่แนะนำคือ “จากที่คุณดูข้อมูล มีส่วนไหนที่คุณชอบที่สุด?” หรือ “คุณมองเห็นโอกาสที่สิ่งนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้อย่างไร?”

3. Launching, Not Just Signing (เริ่มต้นอย่างถูกวิธี)

ความผิดพลาดคลาสสิกคือ เซ็นสัญญาเสร็จแล้วปล่อยทิ้ง มืออาชีพต้องมี Checklist ในการ “Launch” ผู้ร่วมทีมใหม่

  • Product: ต้องให้เขาลองใช้สินค้าจนเกิดความประทับใจ
  • Tools: สอนให้เขารู้จักแหล่งข้อมูลและเครื่องมือของบริษัท
  • Plan: อธิบายแผนรายได้เบื้องต้น ให้เขารู้ว่าเงินมาจากไหน
  • Invitation: สอนวิธีเชิญคนอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เขาไปทำตลาดแบบผิด ๆ จนเสียความมั่นใจ

The Power of Events รู้จักพลังของงานสัมมนา

ในยุค Zoom และ Online Meeting หลายคนอาจเถียงว่าการเดินทางไปงานสัมมนา เป็นเรื่องล้าสมัย แต่ Eric ยืนยันว่า “งานอีเวนต์คือลมหายใจของธุรกิจ”

  • Social Proof: การได้เห็นคนสำเร็จตัวจริง ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระดับจิตวิญญาณ
  • Community: การได้อยู่ในบรรยากาศของคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน ช่วยรีชาร์จพลังใจที่มอดลงจากการทำงาน
  • ผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในวงการนี้ คือผู้ที่พาคนในทีมไปงานอีเวนต์ได้มากที่สุด

ความสำเร็จต้องใช้เวลา

บทสรุปที่จริงใจที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือ “ไม่มีทางลัด”

  • 1 ปีแรก: ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และเอาตัวรอด
  • 3 ปี: เริ่มมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
  • 5 ปี: เริ่มแตะระดับรายได้หลักแสนหรือล้าน
  • 7 ปี: คือระดับ Expert หรือ World-Class

เลิกเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อประเภท “รวยเร็ว” “ไม่ต้องทำอะไร” หรือ “สินค้าขายตัวมันเอง” เพราะนั่นคือคำโกหก ธุรกิจนี้ต้องการ Passion, ความสม่ำเสมอ และความเป็นผู้นำ

Thumbsup มองว่า จากเนื้อหาทั้งหมดใน Go Pro เราเห็นได้ชัดว่าแก่นแท้ของ Network Marketing ไม่ต่างจากการสร้าง Startup หรือการเป็น Content Creator ในยุคนี้ ความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่ว่าคุณเข้ามา “ก่อนใคร” แต่วัดกันที่ว่าคุณ “จริงจังแค่ไหน”

ในขณะที่โลกภายนอกมองว่าธุรกิจนี้คือการขายของ แต่เนื้อในของมันคือ School of Leadership ทักษะที่คุณจะได้จากการ Go Pro ทั้งการสื่อสาร การบริหารคน การจัดการอารมณ์ และการตั้งเป้าหมาย คือ Soft Skills ที่หาไม่ได้ในตำราเรียนทั่วไป

หากคุณกำลังมองหาทางเลือกใหม่ในชีวิต และพร้อมที่จะแลกความสบายชั่วคราวกับอิสรภาพระยะยาว โดยยอมรับเงื่อนไขของการเรียนรู้และการลงมือทำอย่างหนัก… การก้าวเข้าสู่เส้นทาง Network Marketing แบบ “มืออาชีพ” อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา

ในมุมของนักการตลาด ลองสำรวจทักษะในปัจจุบันของคุณว่ามีส่วนไหนที่สามารถนำแนวคิด “Education over Sales” ไปปรับใช้ได้บ้าง ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจเครือข่ายหรือไม่ Mindset ของการเป็น “ที่ปรึกษา” แทน “นักขาย” คือกุญแจสำคัญในการชนะใจลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม

อ่านเพิ่มเติม

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: