Site icon Thumbsup

ทำไมปีหน้าจึงจะเป็นปีแห่ง “Mobile Apps”…

สืบเนื่องจากตลาดอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟน และแท๊บเล็ตมีการขยายตัวขึ้นอย่างมากในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา ไม่น่าแปลกใจนักที่ตลาดของ “โมบายล์แอพพลิเคชัน” จะโตตามไปด้วย จึงหน้าคิดว่าตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป แอพพลิเคชันบนอุปกรณ์พกพาจะกลายเป็นพระเอกในวงการ แทนที่การท่องเว็บไซต์ และยังผลให้นักพัฒนาจะกลายเป็นที่ต้องการของตลาด ในขณะที่ด้านฮาร์ดแวร์จะคับคั่งไปด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้น…

ย้อนไปมองเมื่อสมัยก่อน ยุคที่ PDA อย่าง Palm และ Pocket PC รุ่งเรือง สิ่งที่ขับเคลื่อนให้ทั้งสองระบบปฏิบัติการนี้มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ก็คงเป็นเพราะโปรแกรมบน PDA (ซึ่งสมัยนั้นคำว่าแอพพลิเคชันยังไม่ได้ถูกใช้จนเป็นที่นิยมนัก) อย่างไรก็ตามสมัยโปรแกรมส่วนใหญ่มักจะเป็นออฟไลน์โปรแกรม ที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยความสามารถของการเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลมากนัก

แน่นอนว่าโปรแกรมประเภทที่ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากหน่อย ก็คงหนีไม่พ้นการท่องเว็บไซต์อย่างแน่งนอน ในยุคหนึ่งหลายเว็บไซต์ที่มีเว็บบอร์ด ก็ถึงกับต้องออกแบบเว็บไซต์ของตนให้มีรูปแบบรองรับเฉพาะหน้าจอโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน แต่ในที่สุดเมื่อมาถึงในยุคปัจจุบันทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ทุกอย่างเริ่มมุ่งไปทางโมบายล์แอพพลิเคชันมากขึ้น ในขณะที่การใช้งานเว็บบนมือถือกลับลดลง

สิ่งหนึ่งที่พอที่จะพิสูจน์ข้อความข้างต้นได้ ก็คงเป็นผลการสำรวจการใช้งานโทรศัพท์มือถือจำพวกสมาร์ทโฟนจากชาวสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปี 2010 ไล่มาจนกระทั่งกลางปี 2011 ที่ผ่านมา การใช้งานแอพพลิเคชันบนมือถือนั้นมีแนวโน้มที่สูงขึ้น ในขณะที่การใช้งานท่องเว็บผ่านมือถือนั้นกลับลดลงสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด จนน่าคิดว่าเมื่อสำรวจผล ณ สิ้นปีนี้ ตัวเลขคงหนีกันไปไกลมากกว่าเมื่อกลางปีที่ยังทิ้งกันไม่ขาดนักแน่ๆ

เมื่อสักสองปีก่อน เคยมีการสำรวจกิจกรรมที่คนทั่วไปมักจะทำ กับการใช้งานสมาร์ทโฟนซึ่งได้แก่ การติดต่อสื่อสารทั่วไ อ่านข่าวโดยเฉพาะสภาพอากาศและข่าวกีฬา และสุดท้ายก็คือการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ แต่เชื่อไหมครับว่าเพียงแค่สองปีให้หลังกิจกรรมที่กลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับสมาร์ทโฟนกลับกระจัดกระจายไปตามจุดประสงค์ต่างๆ มากมาย ที่เป็นไปเพื่อไลฟ์สไตล์เสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างการใช้งานแอพพลิเคชันเพื่อการท่องเที่ยวหรือแอพพลิเคชันเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

นอกจากนี้นักวิเคราะห์บางสำนักถึงกับยกบทวิเคราะห์ขัั้นมาว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ในอีก 5 ปีข้างหน้าหรือในปี 2016 แอพพลิเคชันบนสมาร์ทดีไวซ์ จะมีการดาวน์โหลดมากขึ้นถึงกว่า 44 ล้านครั้งกันเลยทีเดียว

ก็หวังว่าการเติบโตของตลาดแอพพลิเคชันคงทำให้บรรดานักพัฒนาและผู้ผลิตโทรศัพท์ยิ้มออก รวมทั้งสร้างสรรค์ผลงานดีๆ โทรศัพท์คุณภาพคับแก้ว ออกมาให้เหล่าบรรดาผู้บริโภคได้ใช้งานกันในราคาสมเหตุสมผล และผมเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่หวังจะเห็นคนไทยไปยืนอยู่ในเวทีโลก เทียบเคียงฝรั่งในด้านการพัฒนาแอพพลิเคชันบ้างนะครับ…