Nvidia Nokia

เมื่อพูดถึง “Nokia” ภาพจำของคนส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะชาวมิลเลนเนียล) อาจยังเป็นมือถือ 3310, เกมงู Snake ในตำนาน หรือเสียงเรียกเข้าคลาสสิก แต่ในโลกของโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม Nokia คือยักษ์ใหญ่ตัวจริงด้านเทคโนโลยี 5G

แต่ข่าวที่สั่นสะเทือนวงการล่าสุด ไม่ใช่การกลับมาของเกมงู แต่เป็นการที่ “NVIDIA” เจ้าพ่อแห่งยุค AI Boom และผู้ผลิตชิป GPU ที่ขาดตลาดทั่วโลก ตัดสินใจทุ่มเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน Nokia พร้อมประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งประวัติศาสตร์

คำถามคือ…ทำไมต้องตอนนี้? และทำไมต้อง Nokia?

นี่ไม่ใช่เกม Nostalgia แต่เป็นหมากสำคัญของ NVIDIA ที่กำลังเดิมพันอนาคตของ 6G และที่สำคัญกว่านั้น คือการปูทางสู่ยุค “AI-native wireless era”

Nvidia Nokia

5G ที่ (ไม่) เปลี่ยนโลก สู่คอขวดของยุค GenAI

ย้อนกลับไปไม่กี่ปี 5G ถูก Hype ในฐานะ Game Changer ที่จะเปลี่ยนทุกสิ่ง ทั้ง IoT, รถยนต์ไร้คนขับ, Smart City หรือการผ่าตัดทางไกล แต่ในความเป็นจริงสำหรับผู้บริโภคทั่วไป 5G ไม่ได้สร้างความแตกต่างอย่างก้าวกระโดดขนาดนั้น มันเร็วขึ้น แต่มันยังไม่สามารถส่งมอบ “Killer Use Case” ที่ทำให้โลกตะลึงได้

แต่แล้ว… Generative AI ก็ระเบิดขึ้น

NVIDIA ชี้ให้เห็นข้อมูลสำคัญว่า การเติบโตของทราฟฟิก AI กำลัง “ระเบิด” ยกตัวอย่างเช่น เกือบ 50% ของผู้ใช้งาน ChatGPT 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เข้าใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพา และแอปฯ บนมือถือมียอดดาวน์โหลดเกิน 40 ล้านครั้งต่อเดือน

นี่คือจุดเปลี่ยน เครือข่าย 5G ในปัจจุบัน ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Workload มหาศาลของ AI โดยเฉพาะ Generative AI, Agentic AI หรือ Physical AI ที่ต้องการการประมวลผลและตอบสนองที่ซับซ้อน ณ จุดที่ข้อมูลเกิดขึ้น

เมื่อ AI กำลังจะออกจาก Data Center มาสู่มือถือ, แว่นตา AR/VR, โดรน และหุ่นยนต์ “คอขวด” ที่แท้จริงจึงไม่ใช่พลังการประมวลผล (ที่ NVIDIA ครองตลาดอยู่แล้ว) แต่คือ “เครือข่าย” ที่จะส่งข้อมูลเหล่านั้น

และนี่คือที่มาของคำว่า AI-RAN (AI Radio Access Network)

AI-RAN เมื่อ AI ไม่ได้อยู่แค่บน Cloud แต่อยู่ใน ‘เสาสัญญาณ’

ดีลนี้ไม่ใช่แค่การที่ NVIDIA ซื้อหุ้น แต่คือการผนึกกำลังเพื่อสร้างเครือข่าย 6G ที่มี AI เป็นแกนกลาง (AI-native)

พูดให้ง่ายในภาษาการตลาดคือ แทนที่ AI จะอยู่ไกล ๆ ใน Data Center แล้วเราค่อยเรียกใช้ผ่านมือถือ NVIDIA และ Nokia กำลังจะ “ฝังสมอง AI” เข้าไปในโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายโทรคมนาคมเลย

NVIDIA ทำอะไร? NVIDIA นำสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุดมาลงสนาม นั่นคือ NVIDIA CUDA แพลตฟอร์ม AI อันทรงพลัง และเปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่ NVIDIA Arc Aerial RAN Computer (ARC-Pro) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ที่พร้อมสำหรับ 6G

นี่คือ “สมอง” ที่จะทำหน้าที่ประมวลผล AI ที่ Edge โดยตรง พูดง่ายๆ คือ NVIDIA กำลังย่อส่วน Data Center GPU ของตัวเอง มาไว้ที่เสาสัญญาณ

Nokia ทำอะไร? Nokia คือ “ร่างกาย” และ “เส้นเลือด” Nokia จะนำแพลตฟอร์ม ARC-Pro ของ NVIDIA มาผนวกเข้ากับกลุ่มผลิตภัณฑ์ RAN (Radio Access Network) ของตนเอง Nokia มีเทคโนโลยี AirScale baseband และแนวทาง “anyRAN” ที่ยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่าย (Telcos) สามารถอัปเกรดจาก 5G ไปสู่ AI-RAN และ 6G ได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องรื้อระบบเก่าทิ้งทั้งหมด

Jensen Huang, CEO และผู้ก่อตั้ง NVIDIA กล่าวอย่างทรงพลังว่า “โทรคมนาคมคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของชาติ… AI-RAN ที่สร้างบน NVIDIA CUDA และ AI จะปฏิวัติวงการนี้” 20เขาย้ำว่านี่คือ “generational platform shift” (การเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์มระดับยุคสมัย) 21

ขณะที่ Justin Hotard, ประธานและ CEO ของ Nokia (คนใหม่) ให้ภาพที่ชัดเจนยิ่งกว่า “ก้าวต่อไปไม่ใช่แค่จาก 5G ไป 6G… แต่คือการออกแบบเครือข่ายใหม่ทั้งหมด… ความร่วมมือของเรากับ NVIDIA… จะเร่งนวัตกรรม AI-RAN เพื่อ ‘ใส่ AI Data Center ไว้ในกระเป๋าของทุกคน’

The ‘Dream Team’ ไม่ได้มาแค่ 2 แต่คือ Ecosystem ที่สมบูรณ์

ความน่าสนใจของดีลนี้คือ มันไม่ใช่แค่ NVIDIA กับ Nokia แต่เป็นการรวมตัวของ “Ecosystem” ทั้งระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิวัติครั้งนี้เกิดขึ้นจริง

  1. ผู้ให้บริการเครือข่าย (The Telco): T-Mobile U.S. T-Mobile U.S. กระโดดเข้าร่วมวงในฐานะผู้ให้บริการรายแรก พวกเขาจะร่วมมือกับ Nokia และ NVIDIA ในการทดสอบและผลักดันเทคโนโลยี AI-RAN เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนา 6G โดยการทดลองภาคสนาม (Field validation) คาดว่าจะเริ่มในปี 2026
  2. ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน (The Hardware): Dell Technologies การประมวลผล AI-RAN ทั้งหมดนี้ ต้องทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง Dell Technologies จึงเข้ามารับบทบาทนี้ โดยจัดหาเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge เพื่อเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์สำหรับโซลูชัน AI-RAN นี้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับการอัปเกรดซอฟต์แวร์และซิลิคอนในอนาคต

นี่คือภาพที่สมบูรณ์: NVIDIA (ชิปและสมอง AI) + Nokia (เทคโนโลยีเครือข่ายและ RAN) + Dell (เซิร์ฟเวอร์ที่ Edge) + T-Mobile (เครือข่ายที่ใช้งานจริง)

Telcos จาก ‘ผู้ให้บริการท่อ’ สู่ ‘โรงงาน AI กระจายศูนย์’

บทวิเคราะห์ที่เฉียบคมที่สุดในดีลนี้ อาจมาจาก Michael Dell, ประธานและ CEO ของ Dell Technologies เขากล่าวว่า

“อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นเจ้าของ ‘อสังหาริมทรัพย์ที่มีค่าที่สุดสำหรับ AI’ นั่นคือ ‘Edge’ ซึ่งเป็นที่ที่ข้อมูลถูกสร้างขึ้น”

นี่คือหัวใจสำคัญที่นักการตลาดต้องจับตา ในยุค 5G ที่ผ่านมา Telcos ถูกมองว่าเป็นเพียง “Dumb Pipe” (ท่อส่งข้อมูล) ที่ทำกำไรได้น้อยลงเรื่อย ๆ แต่ในยุค AI-RAN ที่กำลังจะมาถึง Telcos ที่อัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานของตน จะไม่ได้ทำหน้าที่แค่ “ขนส่ง” ทราฟฟิก AI เท่านั้น

Michael Dell กล่าวต่อว่า “พวกเขา (Telcos) จะกลายเป็น ‘โรงงาน AI แบบกระจายศูนย์’ (Distributed AI grid factories) ที่ประมวลผลข้อมูล ณ แหล่งกำเนิด ที่ซึ่ง Latency (ความหน่วง) มีความสำคัญ และ Data Sovereignty (อธิปไตยของข้อมูล) เป็นสิ่งจำเป็น”

นี่คือการเปลี่ยน Business Model ครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรม Telcos จากการขาย Data Package ไปสู่การขาย “AI Processing at the Edge” ตลาด RAN (Radio Access Network) ซึ่งนักวิเคราะห์ Omdia คาดว่าจะมีมูลค่าสะสมเกิน 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 กำลังจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Thumbsup มองว่า ดีลระหว่าง NVIDIA และ Nokia ครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าข่าวการลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ มันคือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจาก “Kingmaker” แห่งยุค AI (NVIDIA) ว่าการปฏิวัติ AI ที่เราเห็นในวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และมันกำลังชนเข้ากับ “กำแพง” ของโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายในปัจจุบัน

5G ล้มเหลวในการสร้าง Hype เพราะมันอาจเป็นเทคโนโลยีที่มาก่อน Use Case แต่ 6G (หรือ AI-RAN) ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ถูกผลักดันโดย Use Case ที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังเติบโตแบบทวีคูณ (นั่นคือ GenAI)

NVIDIA ไม่ได้รอให้ 6G เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่พวกเขากำลัง “สร้าง” มันขึ้นมา โดยใช้ CUDA ซึ่งเป็นเครื่องมือที่แข็งแกร่งที่สุดของตน ผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายของ Nokia การเคลื่อนไหวนี้เป็นการ “ตีกัน” ไม่ให้คู่แข่ง (เช่น Intel, AMD, หรือผู้เล่นรายอื่น) เข้ามาแย่งชิงเค้กชิ้นมหึมาในตลาด Edge Computing

สำหรับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจ นี่หมายความว่าในอนาคตอันใกล้ ประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น AR/VR ที่สมจริง, Agentic AI ที่คิดแทนเรา หรือ Physical AI (หุ่นยนต์/โดรน) จะไม่ได้ถูกจำกัดด้วยพลังประมวลผลบนมือถืออีกต่อไป แต่จะถูกประมวลผลโดยตรงจากเครือข่ายที่อยู่รอบตัวเรา

มันคือการเปลี่ยนผ่านจาก “Mobile-First” ไปสู่ “AI-Native” และมันคือการเดิมพันว่า “AI Data Center ในกระเป๋าของทุกคน” ที่ Nokia และ NVIDIA กำลังสร้าง จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของโลกดิจิทัลในทศวรรษหน้า

อ่านเพิ่มเติม

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: