Platform

เคยสงสัยไหมว่าทำไมศิลปินบางคนที่ผลงานธรรมดาถึงดังเป็นพลุแตก? หรือทำไมสินค้าบางอย่างที่คุณภาพไม่ได้หนีจากคู่แข่งมากนักกลับขายดีเทน้ำเทท่า? คำตอบไม่ได้อยู่ที่ โชคช่วย แต่มันอยู่ที่สิ่งที่ Michael Hyatt เรียกว่า Platform หรือ เวที

ในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟน ทุกคนคือสื่อ และทุกวินาทีมีคอนเทนต์เกิดใหม่เป็นล้านชิ้น โลกใบนี้จึงกลายเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีแต่เสียงจอแจ การที่คุณมีแค่ พรสวรรค์ หรือ สินค้าคุณภาพเยี่ยม มันไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะถ้าไม่มีใครเห็นคุณ ไม่มีใครได้ยินเสียงคุณ สิ่งที่คุณทำมาก็แทบจะสูญเปล่า

วันนี้ Thumbsup จะพามาแกะรอยกลยุทธ์จากหนังสือ Platform: Get Noticed in a Noisy World ที่เขียนโดย Michael Hyatt เพื่อดูว่าเราจะเปลี่ยนตัวเองจากคนธรรมดา ให้กลายเป็นคนที่มีสปอตไลท์ส่องตลอดเวลาได้อย่างไร

Platform

ของดี + เวทีที่แข็งแกร่ง คือสมการความสำเร็จ

Michael Hyatt เปิดประเด็นได้น่าสนใจ เขาบอกว่าสมัยก่อนเวทีอาจจะทำจากไม้หรือคอนกรีต แต่ เวที ในบริบทของธุรกิจยุคใหม่คือ ผู้คน มันคือ Contact list, Connection และ Followers ของคุณ

ความสำเร็จในยุคนี้จึงขึ้นอยู่กับสองปัจจัยหลักที่ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

  1. สินค้าต้องว้าว: นี่คือพื้นฐาน ถ้าสินค้าห่วย การตลาดที่เก่งกาจจะยิ่งทำให้มันเจ๊งเร็วขึ้น (ตามคำคมของ David Ogilvy)
  2. เวทีต้องแข็งแรง: เครื่องมือที่จะช่วยขยายเสียง ขยายการมองเห็น และเชื่อมต่อสินค้าของคุณไปสู่คนที่ต้องการมันจริง ๆ

Product ต้องไม่ใช่แค่ดี แต่ต้อง WOW

ก่อนจะไปตะโกนบอกชาวโลก คุณต้องมั่นใจก่อนว่าของในมือคุณ เจ๋งพอ คำว่าเจ๋งในที่นี้ Michael Hyatt ไม่ได้หมายถึงความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แต่หมายถึงประสบการณ์ที่ เกินความคาดหวัง

ลองถามตัวเองด้วย 5 คำถามนี้

  • ประสบการณ์แบบไหนที่คุณอยากสร้างให้ลูกค้าประทับใจจนต้องร้องว้าว?
  • คุณอยากให้เขารู้สึกอย่างไรเมื่อได้ใช้สินค้า?
  • ความคาดหวังพื้นฐานของลูกค้าคืออะไร?
  • ถ้าคุณทำพลาด มันจะหน้าตาเป็นแบบไหน?
  • และที่สำคัญที่สุด… คุณจะทำอะไรให้ “เหนือ” กว่าความคาดหวังเหล่านั้น?

จำไว้ว่าโลกนี้มีสินค้าและบริการมากเกินพอแล้ว สิ่งที่โลกขาดแคลนคือ ของที่ดีกว่า และ ประสบการณ์ที่น่าจดจำ

อย่าฝากอนาคตไว้ที่คนอื่น

หนึ่งในกับดักที่ผู้ประกอบการและครีเอเตอร์ตกม้าตายบ่อยที่สุด คือการคิดว่า ฉันทำของดีแล้ว เดี๋ยวจ้างเอเจนซี่มาทำการตลาดให้ก็จบ

Michael Hyatt เบรกหัวทิ่มเลยครับ เขาบอกว่า ไม่มีใครรักสินค้าของคุณ เท่าตัวคุณเอง การสร้าง Platform เป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล คุณต้องเป็นคนกำหนดทิศทาง ควบคุม Brand Voice และเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน

  • Think Bigger: กล้าคิดให้ใหญ่กว่าเดิม อย่าให้เสียงในหัวหรือใครมาบอกว่า เป็นไปไม่ได้
  • Define Goals: เขียนเป้าหมายลงกระดาษ เพื่อให้เห็นความก้าวหน้าและไม่หลุดโฟกัส
  • Build a Team: แม้คุณต้องเป็นแกนหลัก แต่คุณทำงานคนเดียวไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม จงสร้างทีมมาช่วยซัพพอร์ตในส่วนที่คุณไม่ถนัด เช่น แอดมิน, กราฟิก แต่อย่าโยน หัวใจ ของแบรนด์ให้คนอื่นดูแล

การตลาดแบบเล่าเรื่อง และ Branding ที่จับต้องได้

ในโลกออนไลน์ First Impression ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อเจอหน้า แต่เกิดเมื่อเห็น รูปโปรไฟล์ และ Bio ของคุณ

  • Elevator Pitch: คุณต้องสามารถอธิบายว่าคุณคือใคร ขายอะไร และแก้ปัญหาอะไรให้ลูกค้าได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที
  • Branding Tools: รูปโปรไฟล์ต้องดูมืออาชีพ (เลิกใช้รูปเซลฟี่ในมุมมืดเดี๋ยวนี้) โลโก้ต้องชัด อีเมลต้องน่าเชื่อถือ สิ่งเหล่านี้สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ก่อนที่ลูกค้าจะควักเงินจ่ายด้วยซ้ำ
  • Social Proof: คำนิยมจากบุคคลที่น่าเชื่อถือ หรือรีวิวจากผู้ใช้จริง คืออาวุธที่ทรงพลังที่สุด เพราะคนมักจะเชื่อ คนอื่น มากกว่าเชื่อ แบรนด์

บ้านหลัก, สถานทูต และป้อมสังเกตการณ์

นี่คือพาร์ทที่อยากไฮไลท์ตัวโต ๆ Hyatt เปรียบเทียบโครงสร้าง Platform ออนไลน์ไว้ 3 ระดับ

  1. บ้านหลัก: คือเว็บไซต์หรือบล็อกที่คุณ เป็นเจ้าของ 100% คุณคุมกฎเองได้ ข้อมูลไม่หาย นี่คือที่ที่คุณต้องดึง Traffic ทั้งหมดกลับมาเก็บไว้
  2. สถานทูต: คือ Social Media ต่าง ๆ ทั้ง Facebook, X, LinkedIn และ TikTok พื้นที่เหล่านี้เราเป็นแค่ ผู้เช่า ที่ไปตั้งสถานทูตอยู่ วันดีคืนดีเจ้าของที่อย่าง Mark Zuckerberg หรือ Elon Musk อาจจะเปลี่ยนอัลกอริทึม หรือปิดการมองเห็นเมื่อไหร่ก็ได้ จงใช้มันเพื่อหาคนใหม่ ๆ แต่ต้องดึงพวกเขากลับเข้าบ้านเราเสมอ
  3. ป้อมสังเกตการณ์: คือจุดที่คุณไปคอยฟังว่าคนพูดถึงแบรนด์คุณว่ายังไง เพื่อนำมาปรับปรุง

แต่อย่าจ้างคนอื่นมา สวมรอย เป็นคุณบนโซเชียลมีเดีย เพราะความจริงใจคือกุญแจสำคัญ แฟนคลับอยากคุยกับคุณ ไม่ใช่แอดมินที่ตอบตามสคริปต์

สร้าง “เผ่าพันธุ์” ไม่ใช่แค่ลูกค้า

การตลาดสมัยใหม่ไม่ใช่การตะโกนใส่หน้าคนที่ไม่รู้จัก แต่คือการรวบรวมคนที่มีความเชื่อเหมือนกัน หรือ Tribe Building

  • Content is King: เขียนบล็อกหรือทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งให้คุณค่า ยิ่งได้ใจ
  • Email List: นี่คือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุด มันคือรายชื่อคนที่ยอมอนุญาตให้คุณส่งข้อความหาเขาได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านอัลกอริทึมใคร
  • Engagement: การตอบคอมเมนต์คือการสร้างสัมพันธ์ที่ดีที่สุด อย่าหยิ่ง! ถ้ามีคนมาเมนต์ จงตอบเขา ทำให้เขารู้สึกว่าเขามีตัวตน

Thumbsup มองว่า การสร้าง Platform อาจดูเป็นงานช้างและน่าหวาดหวั่น คำถามประเภท ถ้าฉันล้มเหลวล่ะ? หรือ ถ้าไม่มีใครสนใจล่ะ? จะผุดขึ้นมาในหัวแน่นอน

Michael Hyatt ทิ้งท้ายไว้ว่า ความกล้าไม่ใช่การไม่กลัว แต่คือการลงมือทำทั้ง ๆ ที่กลัว

ยิ่งในยุคนี้ การไม่ทำอะไรเลย คือความเสี่ยงที่สูงที่สุด ถ้าคุณไม่เริ่มสร้างเวทีของตัวเองตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้เสียงของคุณก็จะเบาลงเรื่อย ๆ จนหายไปในเสียงรบกวนของโลกใบนี้

อย่ารอให้พร้อม เพราะความพร้อม 100% ไม่มีอยู่จริง เริ่มต้นก้าวแรก เขียนบล็อกแรก โพสต์วิดีโอแรก แล้วค่อย ๆ ปรับแก้ไประหว่างทาง นั่นคือวิถีของคนที่จะประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล

ถ้าคุณอ่านจบแล้ว อย่าเพิ่งปิดหน้าจอ ลองลิสต์ออกมาสัก 3 ข้อว่า เวที ของคุณตอนนี้ขาดอะไรไป? แล้วเริ่มซ่อมมันซะตั้งแต่วันนี้!

อ่านเพิ่มเติม

I'm a Content Creator and Storyteller, and i love Shooting my daughter :><: