Site icon Thumbsup

Rovio บริษัทผู้สร้าง Angry Birds หมายตาเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงปี 2013

Angry Birds, นกพิโรธ หรือ นกยัวะ ที่หลายๆ คนรู้จักและหลงรักนั้นนอกจากจะสร้างความสนุกสนานให้คนทั้งโลกแล้ว ต้องยอมรับว่าผลจากความนิยมดังกล่าวยังทำให้บริษัทผู้สร้างอย่าง Rovio สามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอย่างเหนือความคาดหมายทีเดียว และเร็วๆ นี้ Rovio ก็กำลังจะก้าวไปสู่ระดับใหม่อีกขั้นด้วยการเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกงใกล้ๆ บ้านเรานี่เอง

Peter Vesterbacka ผู้บริหารของ Rovio ได้ออกมาเปิดเผยเร็วๆ นี้ว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง (HKSE) ภายในปี 2013 นี้ เนื่องจากเล็งเห็นถึงการเติบโตของตลาด รวมถึงประชากรและเม็ดเงินในประเทศนี้ ซึ่งหลังจากที่ Rovio ได้มีการพูดถึงแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์มาเป็นเวลาหลายเดือน ความน่าสนใจล่าสุดก็คือการระบุถึงตลาดหุ้นฮ่องกงทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันว่า Rovio ได้มองตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก รวมทั้งได้มีการเปิดเผยว่าบริษัทมองว่าตัวเลขของ IPO น่าจะอยู่ที่ราว 1 พันล้านเหรียญ หรือราว 31,000 ล้านบาท

ในขณะที่คนส่วนใหญ่รู้จัก Rovio ในฐานะผู้ผลิตเกม Angry Birds บนโทรศัพท์มือถือที่ล่าสุดได้แตะยอดการดาวน์โหลดไปกว่า 600 ล้านครั้งแล้วนั้น ธุรกิจสำคัญของบริษัทยังอยู่ที่การบริหารแฟรนไชส์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขายของเล่น, เสื้อผ้า, อุปกรณ์เครื่องเขียน หรือแม้แต่หนังสือทำอาหารในนาม Angry Birds

ในปี 2011 นี้ Rovio จะมียอดรายได้รวมทั้งหมดกว่า 100 ล้านเหรียญ หรือราว 3,100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเองยังมองว่าในปีหน้าก็ยังจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะบริษัทวางแผนที่จะวางตลาดเกมในตระกูล Angry Birds อีกอย่างน้อย 5 เกม

สำหรับการเลือกตลาดฮ่องกงนั้นถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี เนื่องจากตลาดเอเชียถือเป็นตลาดที่สำคัญของบริษัท ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเองก็ได้ออกมาระบุว่าตลาดจีนถือเป็นตลาดที่สำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และจะมียอดดาวน์โหลดในจีนร่วม 100 ล้านครั้งภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดี นักลงทุนจำนวนไม่น้อยอาจจะยังกังขาในอนาคตของบริษัท เนื่องจาก Rovio เองเป็นบริษัทที่มีสินค้าตระกูลเดียวเท่านั้นในปัจจุบัน ในขณะที่นักพัฒนาหรือบริษัทผู้ผลิตเกมรายต่างๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและต่างจ้องที่จะล้มความเป็นผู้นำของ Rovio ให้ได้

คงต้องมาดูกันว่า Rovio จะมีแผนในการรักษาศักยภาพและความแข็งแรงของบริษัทได้อย่างไรก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้นี้

ที่มา:?CNET