Site icon Thumbsup

เอสซีจีพลิกโฉมธุรกิจ ตั้ง “AddVentures” เสริมแกร่งสตาร์ทอัปทั่วโลก

เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ Corporate Venture Capital รายล่าสุดจากเอสซีจี อย่าง “AddVentures” โดยมาพร้อมวิสัยทัศน์ “You Innovate, We Scale” หวังยกระดับ Ecosystem ด้วยองค์ความรู้ เครือข่าย และฐานลูกค้าทั่วอาเซียน ปูพรมพัฒนานวัตกรรม กลุ่มหลัก “Enterprise-Industrial-B2B” เพื่อพลิกโฉมธุรกิจ-เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน-สร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ดีและเร็วยิ่งกว่าให้ลูกค้า

คุณยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่ยุค Digital Transformation ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปนั้น ถือได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ทันกับสถานการณ์

ที่ผ่านมา เอสซีจีให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เสมอมา  แต่ด้วยบริบทของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เอสซีจี จึงตั้งบริษัทในรูปแบบ Corporate Venture Capital หรือ CVC ภายใต้ชื่อ AddVentures” ขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพและลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและทั่วโลก ให้เอสซีจีสามารถเชื่อมโยงนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน รวมทั้งยังทำให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าและบริการที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

คุณยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี

ทั้งนี้ การจัดตั้ง AddVentures ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่เอสซีจีจะได้ร่วมสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ  ที่มีศักยภาพสูง กับกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีจุดเด่นในเรื่อง Spirit ของ Entrepreneurship และการสร้าง Innovation ที่ถือเป็น Outside-in innovation จากการมองในมุมของผู้บริโภคอย่างแท้จริง เมื่อประกอบกับ Speed ในกระบวนการทำงานที่เรียกว่า Lean Startups รวมทั้งการใช้ Digital technology จึงทำให้ข้อจำกัดในการทำธุรกิจแบบเดิมๆ หายไป และทำให้สตาร์ทอัปทุกวันนี้มีพลังมหาศาลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

“เราเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกับสตาร์ทอัปที่มีความเชี่ยวชาญในการคิดหนทางแก้ปัญหาที่น่าสนใจให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และมีความโดดเด่นเฉพาะตัวของสตาร์ทอัปแต่ละราย โดยไม่ยึดติดกับวิธีการหรือข้อจำกัดเดิมๆ จะสามารถสนับสนุนให้พวกเขา Scale up หรือขยายให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ พร้อมทั้งยังช่วยเสริมรากฐานระยะยาว ให้เอสซีจีกลายเป็นองค์กรที่มีการนำดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต” นายยุทธนา กล่าว

การจัดตั้ง AddVentures ยังมีจุดมุ่งหมายเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุน Startup Ecosystem ของไทยและอาเซียนให้แข็งแกร่ง โดยนำศักยภาพและจุดแข็งต่างๆ ของเอสซีจีเข้าไปช่วยต่อยอด และก่อให้เกิดประโยชน์จากการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาแวดวงธุรกิจในองค์รวมให้ดียิ่งขึ้น สอดรับกับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0” ที่ต้องการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม และยกระดับให้เกิด New S-Curve อุตสาหกรรมใหม่ของประเทศ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและรังสรรค์นวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีโลกได้

นายยุทธนา กล่าวอีกว่า เพื่อให้การดำเนินงานของ AddVentures เป็นไปได้ตามเป้าหมาย เอสซีจีจึงได้แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ คือ ดร.จาชชัว แพส ซึ่งมีประสบการณ์คร่ำหวอดในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมานับ 10 ปี และมีความชำนาญในหลากหลายแวดวงธุรกิจ ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ AddVentures ดูแลทิศทางภาพรวมของบริษัท

ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures

ดร.จาชชัว แพส กรรมการผู้จัดการ AddVentures กล่าวว่า การจัดตั้ง AddVentures มาพร้อมด้วยวิสัยทัศน์ “You Innovate, We Scale” สื่อถึงความเป็นองค์กรที่เปิดกว้างสำหรับความร่วมมือกับสตาร์ทอัปที่ต้องการส่งต่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีกว่า เร็วกว่า และคุ้มค่ากว่าให้แก่คู่ค้าหรือผู้บริโภค โดย AddVentures จะไม่ได้สนับสนุนแค่ด้านการเงินให้แก่สตาร์ทอัป แต่จะสนับสนุนทั้งองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงต่างๆ เครือข่ายลูกค้าของเอสซีจีที่มีอยู่ทั่วอาเซียน ตลอดจนทรัพยากรอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้สตาร์ทอัปเหล่านั้นเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน 

สำหรับการลงทุนในช่วง 3 – 5 ปีแรก AddVentures วางงบประมาณในการลงทุนเฉลี่ยครั้งละ 1 – 5 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งการลงทุนออกเป็น กลุ่มหลัก ได้แก่ 

1.การลงทุนใน Digital Technology ในกลุ่มที่เป็น Global Technology Hub อย่างเช่น Silicon Valley ประเทศสหรัฐอเมริกา, Tel Aviv ประเทศอิสราเอล และ Shenzhen ประเทศจีน เป็นต้น โดยจะร่วมมือกับ Venture Capital ชั้นนำในประเทศดังกล่าวเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ขยายผลกับเอสซีจี หรือทำการเปิดตลาดในประเทศไทยและอาเซียน 

2.ารลงทุนใน Digital Business Model ในไทยและอาเซียนซึ่งเป็นประเทศที่เอสซีจีมีฐานธุรกิจ โดยจะทำการลงทุนผ่านกองทุน Venture Capital และการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในสตาร์ทอัปที่พัฒนานวัตกรรมซึ่งสอดคล้องกับทิศทางเทคโนโลยีเป้าหมายของ AddVentures

พันธมิตรและเทคโนโลยีเป้าหมายที่ AddVentures สนใจลงทุน ประกอบด้วย กลุ่มหลัก ได้แก่ Enterprise, Industrial และ B2B โดยภายใต้แต่ละกลุ่มหลัก ยังมีกลุ่มย่อยๆ เช่น Logistics & Supply Chain Tech, Smart Packaging Tech, Chemicals Tech, Construction Tech, Industrial & Manufacturing Tech, Industrial & Construction Product Marketplace เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดจะเป็นเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหลัก กลุ่มของเอสซีจี ได้แก่ 1.ธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 2.ธุรกิจเคมิคอลส์ และ 3.ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ขณะที่รูปแบบการลงทุนเปิดกว้างทั้งความร่วมมือเชิงพาณิชย์ (Commercial Deal) ทั่วไป การอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (Licensing) การร่วมทุน (Joint Venture) ไปจนถึงการเข้าซื้อกิจการในสตาร์ทอัปนั้นๆ

AddVentures เปิดกว้างและอยากเชิญชวนเหล่าสตาร์ทอัพให้เข้ามาร่วมงานกับ AddVentures โดยไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ขอเพียงมีจุดมุ่งหมายในการส่งมอบนวัตกรรมที่ดีกว่า เร็วกว่า และคุ้มค่ากว่าให้แก่สังคม รวมทั้งมีไอเดียและความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดขึ้นจริง เราก็สามารถเดินทางและเติบโตไปด้วยกันได้ดังวิสัยทัศน์ You Innovate, We Scale” ดร.จาชชัว กล่าว

สำหรับสตาร์ทอัพทั่วโลกที่สนใจร่วมงานกับ AddVentures สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.addventures.co.th และ facebook.com/AddVenturesbySCG หรือ LinkedIn: AddVentures by SCG