Site icon Thumbsup

Slack ตามรอย Spotify ขาย IPO ตรงปีนี้

รายงานชี้บริการดาวรุ่งอย่าง Slack กำลังวางแผนเสนอขายหุ้น IPO โดยตรงหรือ direct IPO แบบไม่มีการลั่นกระดิ่ง คาดจุดพลุปี 2562 ตามรอยที่ Spotify ทำไว้เมื่อปีที่แล้ว

การที่ Slack อาจเลี่ยงการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ IPO แบบพิมพ์นิยมแล้วหันไปจำหน่ายโดยตรงด้วยการเสนอขายต่อสาธารณะนั้นถูกจับตามองมาก เนื่องจาก Wall Street Journal วิเคราะห์ว่าหาก Slack ขาย direct IPO จริง ก็จะถือเป็นบริษัทใหญ่รายที่ 2 ที่ใช้วิธีนี้ หลังจาก Spotify ประสบความสำเร็จตั้งแต่เมษายนปีที่แล้วที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

ข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน

รายงานของ WSJ ระบุว่า Slack มีแนวโน้มที่จะเปิด IPO ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ แต่ทั้งหมดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ก่อนที่จะถึงเวลา ซึ่งขณะนี้ Slack ยังงดแสดงความเห็นและไม่ยืนยันข้อมูลใดในรายงาน

direct IPO นั้นถือเป็นการข้ามขั้นตอนดั้งเดิมจำนวนมากของการเสนอขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้น กรณีของ Spotify ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องจัดงาน Roadshow เพื่อโน้มน้าวให้นักลงทุน หรือสถาบันรายใหญ่ให้ซื้อหุ้น ขณะเดียวกัน ผู้บริหารระดับสูงของ Spotify ยังได้ยกเลิกพิธีลั่นระฆังเปิดการชุมนุมของ New York Stock Exchange ตามปกติ รวมถึงการงดใช้เวลาทั้งวันกับการสัมภาษณ์เพื่อประกาศว่าทำไมหุ้นของบริษัทจึงเป็นการลงทุนที่ดี จุดนี้ Daniel Ek ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ Spotify กล่าวในโพสต์บล็อกว่าเหตุผลที่ทำเช่นนี้ คือโฟกัสของ Spotify ไม่ใช่การเริ่มขาย IPO แต่ Spotify จะพยายามสร้าง วางแผน และจินตนาการในระยะยาว

สำหรับ Slack นั้นเป็นแอปพลิเคชัน Workflow Management เพื่อการติดตามแผนงานที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มคนทำงานที่ต้องทำงานร่วมกันหลายแผนก ความนิยมทำให้ Slack สามารถระดมทุนหนาในเวลารวดเร็ว ล่าสุดคือ 427 ล้านดอลลาร์ในการระดมทุนครั้งใหม่เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 7,100 ล้านดอลลาร์

จุดนี้มีการประเมินว่า Slack ต้องการหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่าย IPO จำนวนมาก ขณะเดียวกันพนักงานของ Slack ก็จะไม่ต้องรอนานกว่าจะขายหุ้นของตัวเอง

สถิติปี 2018 พบว่า Slack มีผู้ใช้งานมากกว่า 8 ล้านรายต่อวัน โดยกลุ่มสมาชิกผู้ใช้ที่ชำระเงินค่าบริการนั้นมีจำนวน 3 ล้านคน ถือเป็นตัวเลขเติบโตรวดเร็วหลังจากที่ Slack เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 ทำให้ Slack ได้รับความสนใจจากสื่อและนักลงทุนเป็นอย่างมาก

ที่มา: : FastCompany