Site icon Thumbsup

ปรากฏการณ์แท็กซี่ไทย “เนื้อหอม” Uber – ทรูมันนี่วอลเล็ต รุมจีบ

ในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่หลายบริษัทมักใช้เปิดตัวบริการใหม่ ๆ ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งในปลายปีนี้ อีกหนึ่งตลาดที่มีบริษัทให้ความสนใจจับมือเป็นพาร์ทเนอร์ด้วยมากขึ้นหนีไม่พ้นแท็กซี่ โดยล่าสุดมีตั้งแต่ Uber ที่เปิดตัว UberTAXI ที่เน้นสร้างประสบการณ์ของการเรียกแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน Ride-Sharing ของตัวเองที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแท็กซี่บ้านเรามาตลอดได้สำเร็จ ก่อนจะตามมาด้วยทรูมูฟเอชที่ลงมาจับกับสหกรณ์แท็กซี่สุวรรณภูมิให้สามารถรับชำระเงินด้วยทรูมันนี่วอลเล็ตได้แล้วอย่างเป็นทางการ


ข้อดีของการที่ธุรกิจอย่างทรูมันนี่วอลเล็ต หรือ Uber ลงมาเล่นในตลาดดังกล่าวถือว่ามีอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือการผลักดันให้ธุรกิจแท็กซี่เข้าสู่การให้บริการแบบ Cashless ตามนโยบาย Thailand 4.0 เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า หากทุกวันนี้บริการแท็กซี่ไทยไม่ปรับตัว ไม่มองหาโอกาสใหม่ ๆ จากเทคโนโลยี ก็จะเป็นธุรกิจที่อยู่ยากมากขึ้น และถูกคู่แข่งจากตลาดอื่นเข้ามาแย่งชิงผู้โดยสารไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่การเปิดรับเทคโนโลยีให้สามารถจ่ายเงินได้ผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้โอกาสในการเข้าถึงผู้โดยสารนั้นมีมากขึ้น โดยเฉพาะบรรดา Gen Y ที่มีผลวิจัยของ VISA ระบุว่ามองหาช่องทางการชำระเงินในรูปแบบใหม่ ๆ มากขึ้น และยังทำให้ภาพพจน์ของแท็กซี่ไทยดูโปร่งใสมากขึ้นด้วย

โดยความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นระหว่างทรูมูฟเอช และสหกรณ์แท็กซี่สุวรรณภูมินั้น จะมีการติดตั้งระบบ Wifi และซิม IoT ให้ลูกค้าใช้งานได้ภายในรถแท็กซี่ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งลงในแท็กซี่ของสหกรณ์ฯ จำนวน 4,000 คัน จากทั้งหมด 15,000 คัน และให้บริการชำระค่าโดยสารได้ด้วยทรูมันนี่ วอลเล็ท (TrueMoney Wallet)

นอกจากนั้นยังมีส่วนบวกเพิ่มที่จะดึงดูดใจให้ลูกค้ามาใช้งานมากขึ้นก็คือ “Entertainment in car” จาก TrueID แอปพลิเคชั่นของทรูที่มีคอนเทนต์ต่าง ๆ ไว้ให้บริการ โดยทั้งหมดนี้จะเปิดให้บริการในต้นปี 2561 ซึ่งสหกรณ์แท็กซี่สุวรรณภูมิเองก็มองว่า นี่จะเป็น “จุดเริ่มต้น” ที่ดีของการพัฒนาระบบขนส่งของไทยให้ก้าวไปสู่ Smart Transportation 4.0 ด้วย และก็น่าจะทำให้การใช้บริการแท็กซี่ของผู้บริโภคได้รับการยกระดับคุณภาพการให้บริการไปอีกระดับหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ดี นอกจากสองบริษัทที่ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ทดสอบบริการกับแท็กซี่อยู่อย่างขะมักเขม้น หนึ่งในนั้นก็คือLINE ซึ่งเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการพัฒนาบริการให้ครอบคลุมทั้งในด้านระบบและคนขับ และคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงต้นปีหน้านี้เช่นกันค่ะ