ในโลกที่ไร้พรมแดนและการมาถึงของยุคปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นเพียงแค่ วิชาเรียน อีกต่อไป แต่มันคือ เครื่องมือทำมาหากิน และ กุญแจสู่คลังความรู้โลก ล่าสุด EF Education First ได้เผยแพร่รายงานดัชนีวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษ EF English Proficiency Index หรือ EF EPI ประจำปี 2025 ผลลัพธ์ที่ออกมาสำหรับประเทศไทยนั้น ต้องบอกว่า น่ากังวล อย่างยิ่งสำหรับคนทำงานและภาคธุรกิจ
วันนี้ Thumbsup จะพาไปเจาะลึกรายงานฉบับนี้ เพื่อถอดรหัสว่าทำไมอันดับของไทยถึงร่วงลง และในบริบทของเพื่อนบ้านอาเซียน เรายืนอยู่ตรงไหน รวมถึงนัยสำคัญต่อการแข่งขันในยุค AI ที่นักการตลาดต้องรู้

ไทยร่วงหนัก รั้งท้ายตารางเอเชีย
จากการจัดอันดับ 116 ประเทศและดินแดนทั่วโลกในปี 2025 ประเทศไทยตกไปอยู่อันดับที่ 116 ด้วยคะแนน 402 คะแนน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม ระดับทักษะต่ำมาก (Very Low Proficiency) สิ่งที่น่าตกใจคือ คะแนนเฉลี่ยของไทยลดลงถึง 13 คะแนนเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยสีแดงที่บ่งบอกว่าพัฒนาการด้านภาษาของเรากำลังถดถอย ในขณะที่โลกกำลังวิ่งไปข้างหน้า
เมื่อกางแผนที่ดูในระดับภูมิภาคเอเชีย เราพบว่าไทยอยู่ในโซนท้ายตารางอย่างชัดเจน โดยประเทศที่มีทักษะภาษาอังกฤษสูงสุดในเอเชียยังคงเป็น สิงคโปร์ ที่ครองอันดับ 2 ของโลก (คะแนน 644) ตามมาด้วย มาเลเซีย ในอันดับ 24 (คะแนน 581) และ ฟิลิปปินส์ ในอันดับ 28 (คะแนน 569) ซึ่งทั้งคู่อยู่ในกลุ่มทักษะระดับสูง (High Proficiency)
ไทยแพ้แม้กระทั่งเมียนมา
ประเด็นที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับนักธุรกิจและนักลงทุน คือการเปรียบเทียบกับคู่แข่งทางเศรษฐกิจในกลุ่ม ASEAN ผลคะแนนสะท้อนให้เห็นช่องว่างที่ถ่างกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
- เวียดนาม อยู่ในอันดับที่ 64 (คะแนน 500) จัดอยู่ในกลุ่มระดับปานกลาง (Moderate) การที่เวียดนามมีคะแนนนำไทยไปไกลเกือบ 100 คะแนน สะท้อนถึงความพร้อมของแรงงานในการดึงดูดการลงทุนต่างชาติ (FDI) ที่เหนือกว่าเรา
- อินโดนีเซีย อยู่ในอันดับที่ 80 (คะแนน 471)
- เมียนมา แม้จะเผชิญปัญหาภายใน แต่กลับมีอันดับสูงกว่าไทย โดยอยู่ที่อันดับ 99 (คะแนน 444)
- กัมพูชา เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่อันดับต่ำกว่าไทย โดยอยู่ที่อันดับ 123 (คะแนน 390)
ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่สถิติ แต่มันคือดัชนีชี้วัด ความสามารถในการแข่งขัน หากเรามองว่าภาษาอังกฤษคือโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา การที่ไทยมีอันดับต่ำกว่าเวียดนามและอินโดนีเซีย ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจของบริษัทข้ามชาติที่ต้องการตั้งสำนักงานในภูมิภาค หรือแม้แต่โอกาสของ Startup ไทยที่จะ Go Global

ภาษาอังกฤษคือกุญแจสู่เครื่องมืออัจฉริยะ
รายงาน EF EPI 2025 ให้ความสำคัญกับประเด็น English in the age of AI อย่างมาก โดยระบุว่าแม้เทคโนโลยีการแปลภาษาจะก้าวหน้าไปมาก แต่ภาษาอังกฤษยังคงมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์
ในมุมมองของคนทำงานสาย Tech และ Marketing เราต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า เทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยที่สุดมักถูกพัฒนาด้วยภาษาอังกฤษเป็นหลัก เครื่องมือ Generative AI หรือ LLM รุ่นใหม่ ๆ มักเปิดตัวและทำงานได้ดีที่สุดในภาษาอังกฤษ
นั่นหมายความว่า คนที่มีทักษะภาษาอังกฤษดีจะมีความได้เปรียบด้าน Productivity ทันที เพราะพวกเขาสามารถเข้าถึงและใช้งานเครื่องมือที่ซับซ้อนได้ก่อนใคร การผสมผสานระหว่างความเก่งภาษาอังกฤษ และความรู้เรื่อง AI กำลังกลายเป็นแต้มต่อสำคัญในที่ทำงาน หากแรงงานไทยยังอ่อนภาษา เราอาจจะพลาดโอกาสในการเป็นผู้ใช้งาน AI ระดับแนวหน้า และกลายเป็นเพียงผู้ตามเทคโนโลยีเท่านั้น
ส่องทักษะคนไทย อ่านพอได้ แต่พูดและเขียนยังวิกฤต
เมื่อวิเคราะห์คะแนนรายทักษะของประเทศไทย พบความไม่สมดุลที่น่าสนใจ
- Reading Score: 416
- Listening Score: 385
- Speaking Score: 377
- Writing Score: 363
คะแนนการเขียนและการพูด (Productive Skills) ต่ำกว่าทักษะการรับสาร (Receptive Skills) อย่างการอ่านและการฟังอย่างเห็นได้ชัด นี่สะท้อนถึงระบบการศึกษาที่อาจจะเน้นไวยากรณ์หรือการท่องจำมากกว่าการใช้งานจริงเพื่อการสื่อสาร
นอกจากนี้ กลุ่มอายุ 18-20 ปี ซึ่งเป็นกำลังแรงงานใหม่ (Gen Z) มีแนวโน้มคะแนนที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา สวนทางกับความคาดหวังที่ว่าเด็กรุ่นใหม่น่าจะเก่งภาษาขึ้นจากสื่อออนไลน์
ความเหลื่อมล้ำทางภูมิศาสตร์และอุตสาหกรรม
ในเชิงพื้นที่ กรุงเทพฯ ยังคงเป็นศูนย์กลางที่มีคะแนนสูงสุดในประเทศ (467 คะแนน) แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับเมืองหลวงอื่น ๆ ในเอเชีย เช่น กัวลาลัมเปอร์ (588), มะนิลา (603) หรือ ฮานอย (532)
เมื่อมองรายอุตสาหกรรม กลุ่มงาน Strategy & Project Management มีคะแนนสูงสุด (522) ตามมาด้วย Operations (519) ในขณะที่กลุ่มงาน Marketing ได้คะแนนเพียง 459 และที่น่าตกใจคือกลุ่ม IT ได้คะแนนเท่ากันที่ 459 ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับสายงานที่ต้องอัปเดตความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างประเทศตลอดเวลา
Thumbsup มองว่า ผลการจัดอันดับ EF EPI 2025 ครั้งนี้คือเรื่องใหญ่ การที่ไทยร่วงลงมาอยู่ในกลุ่ม Very Low Proficiency และตามหลังเพื่อนบ้านในอาเซียนเกือบทุกประเทศ คือสัญญาณเตือนภัยทางเศรษฐกิจ ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาท ภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการสื่อสาร แต่เป็นเรื่องของ การเข้าถึงโอกาส และ นวัตกรรม
สำหรับนักการตลาดและคนทำงาน การรอให้ภาครัฐแก้ไขระบบการศึกษาอาจไม่ทันการณ์ สิ่งที่เราทำได้ทันทีคือการมองว่าภาษาอังกฤษคือการลงทุนไม่ใช่ค่าใช้จ่าย การฝึกฝนภาษาควบคู่ไปกับทักษะ AI Literacy จะเป็นทางรอดเดียวที่ทำให้เราไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในสมรภูมิแรงงานโลก
รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็น Pain Point ใหญ่ของประเทศไทย คือเรากำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขันระดับภูมิภาค การที่คะแนนทักษะ Productive Skills (พูด/เขียน) ต่ำมาก สะท้อนว่าเราขาด ความมั่นใจ และ โอกาสในการใช้งานจริง องค์กรธุรกิจควรเร่งสร้างวัฒนธรรมการใช้ภาษาอังกฤษ และส่งเสริมให้พนักงานใช้ AI เป็นคู่ซ้อมทางภาษา เพื่อปิดช่องโหว่นี้ก่อนที่จะสายเกินไป
อ่านเพิ่มเติม



